แฟชั่น

ไม่ยาก!! วิธีทำ “กระทง” 6 แบบ กอบโกยรายได้ช่วงเทศกาล “ลอยกระทง”

ใกล้ถึงช่วงเทศกาลลอยกระทงกันแล้ว วันนี้ “ชี้ช่องรวย” ขอมาบอกต่อวิธีการพับกระทงจากใบตอง 6 แบบ ง่ายๆ จะทำลอยกันเองในครอบครัวก็ได้ หรือจะทำขายใช้ช่วงเวลาสำคัญนี้หารายได้เสริมเข้ากระเป๋าก็ไม่ว่ากัน โดยวิธีการพับก็ไม่ยาก เพราะนอกจากจะนำไปพับเป็นกระทงแล้ว ยังสามารถตัดแปลงพับเป็นลวดลายต่างๆ สำหรับใช้ในช่วงเทศกาลอื่น หรืองานพิธีที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย ลองไปหัดทำฝึกปรือฝีมือกันดูนะคะ วิธีที่ 1 พับใบตอง กลีบผกา วิธีทำ 1.ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว ยาว 6 นิ้ว โดยประมาณ 2.พับตามรูป จำนวน 3 กลีบ จากนั้นนำมาวางซ้อนให้ลดหลั่นกันไปตามภาพ ซึ่งจะนับเป็น 1 ตับ 3.นำไปติดโดยรอบที่ขอบของฐานกระทง ซึ่งเป็นต้นกล้วยตัดเป็นแว่น ความหนา 1.5 – 2 นิ้ว โดยประมาณ ทั้งนี้ปริมาณของกลีบกระทงที่ใช้จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของตัว ฐาน 4.จากนั้นประดับด้วยดอกไม้ตามความชอบ และปักธูปเทียนลงไป เป็นอันเสร็จ วิธีที่ 2 พับใบตอง กลีบกุหลาบ วิธีทำ1.ตัดใบตองขนาดความกว้าง 1.5 นิ้ว […]

ทำ “เทียนเจล” สร้างรายได้เสริม อีกหนึ่งช่องทำเงินที่ไม่เคยตกเทรนด์

ในงานแต่งงาน หรืองานมงคลต่างๆ มักจะมีของชำร่วยชิ้นเล็กๆ เพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับแขกในงาน และ “เทียนเจล” ก็เป็นสินค้าที่เจ้าของงานส่วนใหญ่เลือกมาให้แขกที่มาร่วมงาน ดังนั้น เอสเอ็มอี ชี้ช่องรวย ขอนำเอาไอเดียการทำเทียนเจลแบบน่ารักๆ เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางหารายได้เสริมมาฝากค่ะ ความพิเศษของ เทียนเจล คือ สามารถทำขายในลักษณะของชำร่วย ของแต่งบ้าน ของขวัญ หรือขายตามสถานที่ต่างๆได้และรวมถึงการขายออนไลน์ได้ด้วย โดยเทียนเจลนั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเจลสังเคราะห์มาผ่านความร้อนให้หลอมละลายเป็นของเหลวใส อาจเติมสี น้ำมันหอมระเหย แล้วตักใส่ในภาชนะรูปทรงตามต้องการ เช่น แก้วใส เซรามิก ดินเผา อาจตกแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม เช่น เปลือกหอย ปลาเรซิน ทรายสี กิ่งไม้แห้ง มีไส้เทียนสำหรับจุดไฟ ทำเป็นของประดับตกแต่งและของที่ระลึก สำหรับวัสดุอุปกรณ์การประกอบตัวเทียนเจลนั้น ได้แก่ 1.เทียนเจล เกรดเอ เนื้อใสบริสุทธิ์ (ลักษณะเหมือนเยลลี่ห้ามรับประทาน) 2.ไส้เทียนแบบมีเส้นลวดอยู่ภายใน ทำจากเส้นด้ายฝ้าย 100 % 3.สี (ต้องเป็นสีสำหรับทำเทียนที่ละลายในน้ำมันได้เท่านั้น) 4.น้ำหอม (เชื้อน้ำมัน 100%) 5.พาราฟิน วัสดุอุปกรณ์ 1.ภาชนะสำหรับต้มเพื่อให้เจลหลอมเหลว เช่น หม้อ […]

8 ขั้นตอนเปิดร้านขายเครื่องสำอาง ให้รวยปังๆ

เดี๋ยวนี้ตามชุมชนขนาดใหญ่หน่อยจะต้องมีร้านขายเครื่องสำอาง เพราะคนไทยยุคใหม่ ไม่ว่าหญิงหรือชาย หันมาใส่ใจกับความสวย ความงาม ความหล่อ และดูดีของตัวเองมากขึ้น ดังนั้นร้ายขายเครื่องสำอาง จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจ การจะเริ่มทำธุรกิจร้านขายเครื่องสำอางต้องคำนึงถึงสิ่งดังต่อไปนี้ 1.ต้องเริ่มต้นจากการมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางและเป็นคนรักสวยรักงามก่อน เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะปัจจุบันนี้เครื่องสำอางมีอยู่หลายประเภท หลายแบรนด์ และหลายระดับ มีทั้งอย่างที่เป็นการทำจากสารสังเคราะห์ อย่างที่เป็นสมุนไพร คนที่จะทำธุรกิจนี้ต้องมีความรู้ อย่างน้อยต้องพอตอบคำถามพื้นฐานให้กับลูกค้าได้ เมื่อลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อสินค้า และคำถามพื้นฐานนี่แหละจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า และจะนำพาลูกค้ามาเป็นลูกค้าประจำในโอกาสต่อไป 2.ต้องมองทำเลออก ใช่ว่าทุกที่จะขายเครื่องสำอางได้ สถานที่ที่จะขายเครื่องสำอางได้ต้องเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เช่นใกล้ตลาดขนาดใหญ่ อยู่ในอำเภอ อยู่หน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมลคนเดินไปมา คนต้องพลุกพล่านเพียงพอ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องในห้างสรรพสินค้าเป็นต้น 3.เงินลงทุน สิ่งแรกที่ต้องคิดคือเงินลงทุนในการตกแต่งร้าน ซื้อชั้นอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่และสไตล์ของการตกแต่ง เงินทุนอีกก้อนหนึ่งคือเงินเพื่อไปซื้อสินค้า กุญแจความสำเร็จของการทำธุรกิจร้านเครื่องสำอางคือจะต้องมีสินค้าให้หลากหลายและดูแน่นร้าน ดังนั้นจึงต้องใช้เงินในการซื้อสินค้ามากพอสมควรให้เต็มร้าน จากประสบการณ์ผู้รู้บอกว่าจะต้องใช้เงินประมาณ 1 แสนบาท แต่ไม่ควรมีสต๊อกให้มาก เพราะจะทำให้เงินจม 4.การเลือกสินค้า ตรงนี้ต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน เพราะปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายบางกลุ่มนิยมสินค้าจากต่างประเทศ แบรนด์หรือยี่ห้อไหนที่เขานิยมเราก็ต้องตามเทรนด์ให้ทัน เพราะสินค้าเครื่องสำอางมีส่วนหนึ่งที่เขาใช้เป็นประจำยังไงก็ไม่เปลี่ยนแบรนด์ แต่ก็มีบางส่วนที่เขาเปลี่ยนแบรนด์ไปตามกระแส พวกนี้เราต้องตามให้ทัน ตลาดสำเพ็งเป็นแหล่งสำคัญที่เราควรหาเวลาไปเดินบ่อยๆ เพราะที่นั่นจะเป็นตัวบอกเทรนด์ให้เราได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการศึกษาผ่านอินเทอร์เน็ต 5.มาตรฐานสินค้า การที่ร้านค้าจะอยู่รอดและเติบโตได้ สินค้าต้องมีมาตรฐาน […]

Switch On แฟรนไชส์เสื้อมือสอง ไม่มีทุนก็รวยได้

ยุคนี้คนไทยหันมานิยมซื้อเสื้อผ้ามือสองมากขึ้น เพราะเห็นว่าราคาถูก คุณภาพ และบางครั้งก็เป็นสินค้าที่มาจาแบรนด์ดังๆ โดยปกติแล้วคนไทยมักจะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเสื้อผ้าอยู่ประมาณเดือนละ 200 – 400 บาท โดยจากการประเมินของศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่ามูลค่าตลาดเสื้อผ้าของไทยสูงถึง 84,000 บาท/ปี นับเป็นมูลค่าสินค้าที่สูงกลุ่มหนึ่ง ตลาดเสื้อผ้ามือสอง มีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะมีพฤติกรรมผู้บริโภคบางกลุ่มที่นิยมเสื้อมือสองเพราะมีเพียงตัวเดียว หมดแล้ว หมดเลย ไม่เหมือนเสื้อผ้ามือหนึ่งที่มีแบบซ้ำ และต้องตามแฟชั่นให้ทัน เมื่อตกเทรนด์ก็ต้องนำมาลดราคาต่อไป แต่เสื้อมือสองไม่มีการลดราคา ซึ่งทำให้ คุณเเหม่ม รชา ได้เล็งเห็นความสำคัญถึงการผูกขาดตลาดของเสื้อผ้าที่กว่าจะได้ราคาส่งทำไมต้องซื้อ3-4ตัวซ้ำกันถึงจะได้ราคาส่ง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ ” Switch On แฟรนไชส์เสื้อผ้ามือ2 เกรด A ” ราคาส่งที่เลือกเเละเปลี่ยนได้ตลอดเวลา จุดเริ่มต้นเล็กๆด้วนเงินลงทุน 30,000บาทที่คุณเเหม่มลงทุนทำร้านเล็กๆไปคัดสรรเสื้อผ้ามือสองทุกตัวด้วยตัวเองเเละทนเเบกรับขาดทุนมาโดยตลอด 2 ปี สำหรับในวงการเสื้อผ้ามือสองหลายคนจะรู้จักกับ “Switch On แฟรนไชส์เสื้อผ้ามือ2 เกรด A ” ซึ่งมีคุณแหม่ม รชา เป็นเจ้าของ โดยเธอมีวิสัยทัศน์เห็นความสำคัญของการผูกขาดตลาดเสื้อผ้าด้วยการยกระดับตัวเองเป็นตัวแทนขายส่งด้วยเงินลงทุนขั้นต้น 30,000 บาท ทำร้านเล็กๆ ไปเลือกสรรเสื้อผ้ามือสองทุกตัวจากตลาดโรงเกลือด้วยตัวเอง โดยกำหนดว่าจะต้องมีการซื้อ […]

ตราบใดที่คนอยากสวย ตราบนั้นร้านเสริมสวยก็อยู่ได้

ธุรกิจร้านเสริมสวยตลาดนี้ยังคงสามารถเติบโตได้อย่างแน่นอน ตราบใดที่ทุกคนไม่หยุดที่จะทำให้ตัวเองสวย หล่อ ดูดี สำหรับผู้ที่มีความสนใจอยากจะลงทุนทำธุรกิจนี้ จำเป็นต้องมีประสบการณ์และมีทักษะในด้านการทำผม และการเสริมสวยอื่นๆ ประกอบ ธุรกิจร้านเสริมสวยมีจุดเด่นคือ เป็นธุรกิจที่ไม่ซับซ้อน สามารถเปิดกิจการได้ทันทีหากมีเงินลงทุน ลงทุนต่ำ เครื่องมืออุปกรณ์ไม่แพง และสามารถหาซื้อง่าย เป็นธุรกิจที่ต้องใช้วิชาชีพและประสบการณ์การทำงานเฉพาะด้าน โดยคุณจะต้องมีคุณสมบัติความรู้ด้านการลงทุน ก่อนที่จะตัดสินใจ 1.คุณต้องแน่ใจว่าในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของ คุณมีประสบการณ์และมีทักษะในการตัดแต่งทรงผมทุกลักษณะ ตั้งแต่การทำผม,ตัดผม,ออกแบบทรงผม,ย้อมผม ฯลฯ อย่างแท้จริง ต้องมีการฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลาให้ทันสมัยกับยุคปัจจุบัน เพราะจะอาศัยเพียงแต่ลูกน้องอย่างเดียว บางทีเมื่อลูกน้องสร้างปัญหาความไม่พึงพอใจแก่ลูกค้า คุณจะได้ลงมือไปจัดการได้ เรื่องความไม่พอใจของลูกค้าในร้านทำผม เป็นจุดขายและเป็นจุดอ่อน ถ้าได้ใจลูกค้าก็จะเป็นจุดขายเป็นขาประจำไป แต่ถ้าไม่ได้ใจ แม้เป็นขาประจำก็ไม่กลับมา 2.ประเด็นต่อมา ร้านของคุณจะมีแต้มต่อมากหากอยู่ในทำเลที่ดี ส่วนใหญ่ร้านทำผมก็จะอยู่ใน ย่านชุมชน ,ตลาด,ห้างสรรพสินค้า,หอพัก เป็นต้น เพราะการที่มีทำเลที่ดีจะทำให้เรามีโอกาสได้ลูกค้าเข้ามาหมุนเวียนในร้านค้าของเราได้มากพอ มีโอกาสในการขยายกิจการได้ง่าย ซึ่งปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาทำเลคือค่าเช่า เพราะค่าเช่าจะเป็นหนึ่งในต้นทุนสำคัญที่คุณต้องผ่านไปให้ได้ในแต่ละเดือน โดยเฉลี่ยแล้วไม่ควรเกินเดือนละ 3,500-15,000 บาท 3.ประเมินและเตรียมงบประมาณให้เหมาะกับขนาดและลักษณะ สไตล์ของร้านเสริมสวยของคุณ เพราะงบประมาณเกือบครึ่งหนึ่งจะถูกนำมาปรับปรุงแต่งเติมร้านให้พร้อมบริการลูกค้า เช่น ติดกระจกบานใหญ่ ,ปลั๊กไฟพร้อมเสียบอุปกรณ์ เครื่องอบผม ไดร์เป่าผม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี ค่าอุปกรณ์เครื่องมือเสริมสวย […]

1 2