ณธนพรเล่าให้ฟังว่า หลังเรียนจบเธอก็มุ่งตรงไปสมัครเป็นแอร์โฮสเตสทันที ในระหว่างที่รอฟังผล เธอก็ฝึกทำเบเกอรี่ง่ายๆ จากอินเทอร์เน็ตไปด้วย เพื่อวางขายตามตลาดนัด ในตอนนั้นเธอทำขนมปังไส้ลูกเกดหมูหยอง และขนมปังไส้หมูหยองพริกเผา ขายในราคาชิ้นละ 10 บาท ปรากฏว่ายอดขายต่อครั้งสูงถึง 3,000-4,000 บาท แลกกับการเสียค่าเช่าที่วันละ 20 บาท เธอรู้สึกดีใจมาก แต่ระหว่างนั้นก็ยังไม่ลืมความฝันที่จะต้องเป็นแอร์โฮสเตสให้ได้ ไม่นานสายการบินแห่งหนึ่งก็ตอบรับให้เธอเข้าไปทำงานเป็นแอร์โฮสเตส เธอสนุกสนานกับการทำงานอย่างมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเธอก็เริ่มเข้าใจลักษณะงานในอาชีพนี้มากขึ้น และมองเห็นข้อจำกัดว่า หากเลิกทำงานด้านนี้จะสามารถต่อยอดทำงานด้านใดได้บ้าง ซึ่งพบว่ามีเพียงไม่กี่อาชีพ นั่นทำให้ณธนพรตัดสินใจหันหลังให้กับอาชีพแอร์โฮสเตสทันที!! เธอนำเงินเก็บสะสมจำนวน 8 แสนบาท ทุ่มให้กับการเปิดร้านกาแฟ โดยไม่มีความรู้ด้านการทำธุรกิจร้านกาแฟมาก่อน และเมื่อขาดประสบการณ์ ธุรกิจก็ไปไม่รอด เธอกลับเข้าสู่วงจรธุรกิจเบเกอรี่อีกครั้ง เมื่อมีโอกาสได้ไปเที่ยวฮ่องกง เพื่อนพาเธอไปที่ร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง และพบว่ามีอาหารอยู่อย่างหนึ่งที่ไม่ได้ขึ้นป้ายแนะนำ หากอยากรับประทานต้องสั่งล่วงหน้า นั่นคือ “พายฮ่องกงไส้หมูแดง” ซึ่งมีรสชาติที่อร่อยถูกใจมาก จนเธอต้องซื้อกลับมาฝากครอบครัว ด้วยความอร่อยและติดใจกันทั้งบ้าน คนในครอบครัวจึงสนับสนุนณธนพรให้ทำขายบ้าง เพราะในประเทศไทยยังไม่มี “พาย” รสชาตินี้จำหน่าย ด้วยความที่มีฝีมือและพรสวรรค์ทางด้านการทำเบเกอรี่อยู่บ้าง เธอจึงเริ่มแกะสูตรและทดลองทำ โดยศึกษาจากอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติม ลองผิดลองถูกกับการทำพายในทุกๆ ขั้นตอน […]