คลื่นลูกใหม่ ของ SME ไทย
เมื่อต้นทุนของการทำการตลาดที่มีราคาลดลงอย่างมาก หลังการมาของเครือข่าย 3G ราคาถูก ทำให้การเข้าถึงข้อมูลบนโลกอินเทอร์เน็ตไม่ใช่เรื่องยาก และ Social Media ก็ทำให้ใครๆ ก็สามารถสร้างข้อมูลลงบนออนไลน์ได้แค่คลิก เนื้อหาเพื่อการขายสินค้าปริมาณมหาศาลก็ถูกผลิตขึ้นโดยเหล่าบรรดาแบรนด์และกูรูออนไลน์ต่างๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการซื้อสินค้า ผู้ประกอบการไทยมีความสามารถสูงในเรื่องของการผลิตสินค้าให้ดีมีคุณภาพ และมีความคิดสร้างสรรค์อย่างมากในการทำการตลาด แต่เมื่อเริ่มปิดการขายได้ กลับเจอทางตันในเรื่องของการรับชำระเงิน ถึงแม้ว่าการขายของออนไลน์ในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมาจะบูมอย่างมาก ด้วยกระบวนท่าของการทำการตลาด แต่วิธีการรับชำระค่าสินค้าแทบจะเปลี่ยนแปลงไปน้อยมาก ในขณะที่ E-commerce ในระดับสากล มีหัวใจสำคัญอยู่ที่บัตรเครดิต เพราะบัตรเครดิตเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ของผู้คนในโลกที่พัฒนาแล้ว แต่ในเมืองไทยกลับมีข้อจำกัดอย่างมากเนื่องจากจำนวนผู้ถือบัตรในไทยและความไม่มั่นใจในระบบความปลอดภัย ต้นทุนการรับบัตรและอุปสรรคในการติดตั้งระบบของผู้ขาย รวมถึงค่าธรรมเนียมที่ผู้ขายส่วนใหญ่ผลักให้เป็นภาระของลูกค้า คนไทยจึงมีสัดส่วนของการชำระเงินสดโดยการโอนค่อนข้างสูง ซึ่งในอดีตต้องพึ่งพาเคาน์เตอร์ธนาคาร หรือเครื่องเอทีเอ็มในการทำธุรกรรม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อยอดปิดการชำระเงิน เนื่องจากลูกค้าอาจเปลี่ยนใจหลังตัดสินใจสั่งซื้อ หรือที่เราเรียกว่า ยอด Drop-out ยิ่งถ้าเป็นสินค้าที่มีการแข่งขันสูง โอกาสที่ลูกค้าจะสั่งสินค้าแล้วไม่ชำระเงินอาจสูงเกินครึ่งหนึ่ง ต่อมาพอการใช้ Internet Banking ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือการใช้ Mobile Application เริ่มใช้งานที่แพร่หลายขึ้น ตัวเลขของลูกค้าที่เปลี่ยนใจไม่ชำระก็ลดลงอย่างมาก เพราะสามารถลดระยะเวลาระหว่างการกดสั่งซื้อและการชำระเงินได้อย่างมาก ลูกค้ามีเวลาในการเปลี่ยนใจที่ลดลง ช่วงปีหลังๆ ตลาดการซื้อสินค้าออนไลน์ได้พัฒนาไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยการมีการชำระเงินแบบเก็บเงินปลายทาง หรือ COD (Cash […]