ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ชี้ช่องรวย ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

สร้างอาชีพ
How to

สร้างอาชีพเปิดร้านขาย ฝอยทอง ต้องใช้อะไรบ้างในงบเพียงหลักพันเท่านั้น!

ใครที่อยากสร้างอาชีพต้องดู ชี้ช่องรวยขอแนะนำวิธีสร้างอาชีพด้วย ฝอยทอง หนึ่งในขนมไทยที่ได้รับความนิยมมาทุกยุคสมัย และเป็นอีกหนึ่งช่องทางหารายได้ที่ดีไม่ใช่น้อย มาดูกันว่าเปิดร้าน ฝอยทอง จะต้องทำอย่างไร ลงทุนเท่าไหร่ ใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง

สร้างอาชีพ ฝอยทอง

วัตถุดิบหลัก

  • ไข่เป็ด 15 ฟอง 81 บาท
  • น้ำตาลทราย 3 กก. 69 บาท
  • เกลือ 7 บาท
  • กลิ่นมะลิ 30 บาท
  • น้ำสะอาด

อุปกรณ์ที่ต้องใช้

  • กระทะทองเหลือง 850 บาท
  • เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 600 บาท
  • ถาดพร้อมตะแกรง 200 บาท
  • ผ้าขาวบาง 35 บาท
  • ถุงพลาสติกร้อน 1 แพ็ก 150 บาท
  • กล่องใส่ขนม 100 ใบ 190 บาท

รวมงบที่ต้องลงทุนประมาณ 2,212 บาท

สร้างอาชีพ ฝอยทอง

ส่วนผสม

  • ไข่เป็ด 15 ฟอง
  • น้ำตาลทราย 1,000 g
  • น้ำสะอาด 1,000 ml
  • กลิ่นมะลิ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

  • ตอกไข่เป็ดใส่ภาชนะ แยกเฉพาะไข่แดงออก และน้ำค้างไข่เล็กน้อย การแยกไข่แดง ควรดึงเมือกและสะดือไข่ออกให้หมด แล้วนำไข่มากรองด้วยผ้าขาวบาง เพื่อให้ได้ไข่แดงที่เนียน
  • นำไข่แดงใส่ที่หยอดฝอยทอง ถ้าไม่มีให้ใส่ถุงพลาสติก แล้วเจาะรูเล็กๆ เพื่อให้ไข่แดงไหลเป็นสายได้
  • ต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่น้ำตาลทรายกับกลิ่นมะลิลงไป รอให้เดือดอีกรอบ หยอดไข่แดงเป็นวงกลมรอบน้ำเดือดตรงกลางกระทะ ค่อยๆ วนไปเป็นสายประมาณ 30-40 รอบ หรือประมาณเอาก็ได้
  • เมื่อหยอดไข่แดงวนครบรอบตามต้องการแล้ว ให้เว้นระยะสักครู่ ประมาณ 30 วินาที รอให้ไข่แดงสุกดี แล้วใช้ตะเกียบช้อนขึ้น พับครึ่ง ให้จับกับเป็นแพ แล้วล้างวนด้วยน้ำเชื่อมไปมา จากนั้นตักออกพักไว้บนตะแกรง รอให้สะเด็ดน้ำเชื่อม แล้วจึงเก็บใส่กล่อง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนหมด เป็นอันเสร็จ

สร้างอาชีพ ฝอยทอง

ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก

ติดตามบทความ How to ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก

Related Posts

ขายหมูสะเต๊ะ

ไอเดียสร้างอาชีพ ขายหมูสะเต๊ะ ลงทุนต่ำ กำไรสูง พร้อมแจกสูตรทำขายจริง!

อาชีพขายหมูสะเต๊ะ เป็นหนึ่งในอาชีพที่เห็นได้ง่ายทั่วไปและดูธรรมดามาก ๆ  แต่รู้หรือไม่ว่า นี่เป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ปลดหนี้มาแล้วหลายคน เพราะเป็นเมนูที่ทานง่าย ทานเมื่อไรก็ได้ จะเป็นของทานเล่นหรือเมนูหลักก็ได้ทั้งนั้น วันนี้เราไปดูกันว่าจะเปิดร้าน “ขายหมูสะเต๊ะ” ต้องใช้อะไร งบเท่าไรบ้าง? วัตถุดิบที่จำเป็น สันนอกหมู 120 – 150 บาท/กิโลกรัม กระเทียม 30 – 40 บาท/กิโลกรัม ผงขมิ้น 10 – 15 บาท/50 กรัม ผงกะหรี่ 15 – 20 บาท/50 กรัม น้ำตาลทราย 20 – 25 บาท/กิโลกรัม เมล็ดผักชีโขลก 20 – 30 บาท/100 กรัม กะทิ 50 – 60 บาท/ลิตร นมสด 20 – 25 […]

ร้านขายของชำ

7 เทคนิคจัดร้านขายของชำให้น่าเข้า ลูกค้าอยากอุดหนุน มีเงินตุงกระเป๋า

ร้านขายของชำ เป็นร้านสะดวกซื้อฉบับบ้าน ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีตั้งแต่เด็ก และเป็นที่นิยมของคนไทยมาทุกยุคสมัย อีกทั้งใครที่คิดจะเปิดร้าน ทำกิจการ ร้านค้าแบบนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ไม่น้อย และสิ่งสำคัญไม่แพ้คุณภาพเลยคือ “การจัดร้าน” ให้น่าเข้าใช้บริการ ยิ่งร้านน่าดึงดูดมากเท่าไร ผลกำไรก็ดีขึ้นเท่านั้น ชี้ช่องรวยจึงจะมาแนะนำว่าควรจัดร้านอย่างไร ให้ลูกค้าอยากเข้ามาอุดหนุนซื้อสินค้า อยากใช้บริการ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน! 1.หาสีหลักของร้าน อยากมีร้านท่สวยน่าเข้าใช้ก็ต้องเริ่มจากธีมหลักก่อนว่าจะใช้สีอะไรดี เลือกสีที่ชอบ แต่แนะนำว่าให้เลือกเป็นสีที่เรียบ สะอาดตา เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจในทุกครั้งที่เข้าร้าน เมือได้สีหลักแล้ว ทีนี้ก็มาเลือกชั้นวางของทั้งขนาด สี วัสดุให้เข้าคู่กับสีของร้าน จงจำไว้ว่าร้านของคุณไม่จำเป็นต้องดีที่สุด สวยที่สุด หรูที่สุด แต่ต้องดึงดูดสายตาคนให้ได้ เมื่อร้านคุณน่าสนใจ เดี๋ยวลูกค้าจะเข้ามาเอง 2.จัดหมวดหมู่สินค้า ร้านขายของเขาก็มักจะคล้ายสินค้าคล้ายคลึงกัน แต่คุณจะโดดเด่นขึ้นมาถ้าคุณจัดประเภทหมวดหมู่ให้กับสินค้าในร้าน เมื่อแบ่งสินค้าและจัดวางแต่ละประเภทให้ชัดเจนแล้ว ลูกค้าจะหาสินค้าได้ง่ายขึ้น คุณก็จะมีโอกาสขายของได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นดูว่าสินค้าไหนเป็นสินค้าอุปโภค สินค้าไหนเป็นสินค้าบริโภค จากนั้นก็ค่อยแบ่งเรียงตามชั้นต่าง ๆ  เมื่อลูกค้าหาสินค้าที่ต้องการได้เร็ว ง่าย และสะดวก ร้านขายของชำของคุณก็จะปิดการขายได้เร็วขึ้น แล้วก็มีพื้นที่การต้อนรับลูกค้าใหม่ ๆ เข้าร้านเร็วขึ้น 3.จัดกลุ่มสินค้าตัวเดียวกัน เวลาเข้าไปในร้านค้า เราอาจจะเห็นพวกน้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำมัน หรือข้าวของอื่น […]

ไอเดียธุรกิจ

5 วิธีหาไอเดียธุรกิจ มือใหม่อยากมีร้านต้องไม่พลาด

ไอเดียธุรกิจเป็นสิ่งที่จำเป็นสุด ๆ สำหรับการสร้างธุรกิจ เพราะทุกวันนี้้มีธุรกิจมากมายหลายร้านค้า ขายสินค้าแบบเดียวกันก็มากโข ดังนั้นจะหาไอเดียอย่างไรเพื่อให้สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้ มีอะไรบ้างไปดู! 1.หาสิ่งที่ตัวเองชอบก่อน เริ่มทำธุรกิจทั้งทีก็ต้องโฟกัสที่ความชอบของตัวเอง เพราะเมื่อเราชอบอะไรเรามักจะทำออกมาได้ดีและมีใจที่อยากจะทำสิ่งนั้น หา Passion ตัวเองให้เจอก่อนว่าอยากทำอะไร อยากทำจริง ๆ ใช่หรือไม่ แล้วค่อยไปสเต็ปต่อไป 2.เอาปัญหามาเป็นโจทย์ การทำธุรกิจเป็นเหมือนกันตอบสนองความต้องการของลูกค้า แก้ปัญหาให้ลูกค้า เป็นหนึ่งในตัวช่วยให้ลูกค้าสบายขึ้นได้ในทางใดทางหนึ่ง ถ้าคุณเจอปัญหาสักอย่างแล้วยังไม่มีใครมาแก้ปัญหานั้นให้กับคุณได้ คุณก็สามารถเอาจุดนี้มาทำธุรกิจได้ 3.ไปตามงานอีเวนต์ พวกงานอีเวนต์ขายอาหาร งานมหกรรมสินค้าต่าง ๆ มักจะมีร้านค้า หลากหลายประเภทธุรกิจ จุดนั้นทำให้เราได้เห็นภาพการทำธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น รู้เลยว่าธุรกิจไหนที่ไก้รับความนิยม สินค้าไหนที่ผู้บริโภคชอบก็จำตรงนั้นมาเป็นไอเดียต่อยอดต่อไปได้ 4.เดินทางท่องเที่ยว ข้อนี้จะคล่ายกับการไปงานอีเวนต์แต่จะอยู่ในขอบเขตที่กว้างกว่า สมมุติไปเที่ยวเชียงใหม่ เห็นสินค้าหรืออาหารในเชียงใหม่ที่อร่อย ดี ได้รับความนิยมแต่ในโซนบ้านที่อยู่อาศัยตัวเองยังไม่มีเลย สามารถนำเมนูนั้นมาเปิดได้เพื่อให้คนระแวกบ้านได้สมัผัสกลิ่นอายความเป็นเชียงใหม่โดยไม่ต้องไปถึงเชียงใหม่ จุดนี้ก็ถือเป็นไอเดียที่ไม่เลวสำหรับผู้เริ่มต้น 5.สองหัวดีกว่าหัวเดียว คิดหาไอเดียคนเดียวอาจไม่ได้ผล คงต้องหาใครสักคนมาด้วย ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อน แฟน หรือหุ้นส่วนมาช่วยหาไอเดียที่ดีว่าจะทำอะไรดี สมองที่มากขึ้น มุมมองที่แตกต่างอาจสร้างเส้นทางใหม่ในการทำธุรกิจได้   ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก […]