ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ไม่รู้ไม่ได้! 3 ปัจจัยทำให้ธุรกิจสำเร็จ


ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) เผยองค์ความรู้ 3 ด้าน

ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ได้แก่ “ธุรกิจ” “เทคโนโลยี”

และ

“การออกแบบ”โดยองค์ความรู้ด้านธุรกิจและเทคโนโลยีนั้นจะทำให้ผู้ประกอบการรู้เท่า

ทันรูปแบบธุรกิจในยุคปัจจุบัน รู้จักความเปลี่ยนแปลงของตลาด เท่าทันคู่แข่ง

และเข้าใจผู้บริโภค ไปพร้อมๆ

กับมีความคุ้นเคยกับนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สามารถนำมาผลักดันศักยภาพธุร

กิจของตนได้

อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) กล่าวว่า

ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลปัจจุบัน องค์ความรู้หลัก 3 ด้าน

ที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของธุรกิจได้แก่ “ธุรกิจ” “เทคโนโลยี” และ “การออกแบบ”

โดย“ธุรกิจ” และ “เทคโนโลยี”เป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน

สร้างความแปรผันไปอย่างควบคู่กันมาโดยตลอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ นวัตกรรม และเทคโนโลยี

เป็นตัวแปรชี้วัดสำคัญที่ตัดสินศักยภาพของธุรกิจ

เพราะในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าทุกคนสามารถผันตัวขึ้นเป็นผู้ประกอบ

การผ่านการใช้เทคโนโลยีที่เปิดกว้าง สร้างช่องทางที่หลากหลายในการทำธุรกิจ

ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้ธุรกิจรายเล็กหรือผู้ประกอบการเพียงคนเดียวสาม

ารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดโลกได้ ในขณะเดียวกัน

เทคโนโลยีก็ทำให้เกิดช่องทางที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัสประสบการณ์กับแบรนด์ได้ง่าย

ขึ้น

จากเดิมที่ประสบการณ์ของผู้บริโภคจะเกิดได้จากการสัมผัสหรือทดลองสินค้าแล้วเท่า

นั้น แต่ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่น เว็บไซต์

รวมไปถึงโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่ล้วนมีผลต่อ “ประสบการณ์ของผู้บริโภค” (Consumer

Experience) ทั้งสิ้น

ฉะนั้นแล้วผู้ประกอบการยุคใหม่ต้องรู้เท่าทันรูปแบบธุรกิจในยุคปัจจุบัน

รู้จักความเปลี่ยนแปลงของตลาด เท่าทันคู่แข่ง และเข้าใจผู้บริโภค

ไปพร้อมๆกับมีความคุ้นเคยกับวัตกรรมเทคโนโลยืที่ทันสมัยที่สามารถนำมาผลักดันศัก

ยภาพธุรกิจของตนได้

นอกจากองค์ความรู้ด้านธุรกิจ และเทคโนโลยีแล้วนั้น

อีกหนึ่งองค์ความรู้สำคัญที่มีบทบาทสำคัญในยุคปัจจุบันคือ

“การออกแบบ”โดยการออกแบบที่นำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจยุคดิจิทัลนั้น

ไม่ใช่เพียงเครื่องมือในการสร้างความสวยงามให้แก่สินค้าหรือบริการ

แต่การออกแบบนำไปสู่ “กระบวนการคิดเชิงออกแบบ”(Design Thinking) และ

“ความคิดสร้างสรรค์”(Creativity) คีย์สำคัญสู่การตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างมีศักยภาพ

กระบวนการคิดดังกล่าวให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาด้วยการออกแบบอย่างสร้างสร

รค์บนพื้นฐานของกลยุทธ์ทางธุรกิจและเทคโนโลยีต่างๆ

โดยกระบวนการคิดเชิงออกแบบที่มีประสิทธิภาพ

จะทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการคิดวิเคราะห์ของวิศวกร (Analytic Thinking)

และการคิดแบบญาณทัศนะของนักออกแบบ (Intuitive Thinking)

ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาตอบโจทย์ทั้งในด้านประสิทธิภาพ และศักยภาพในการใช้งาน

ควบคู่ไปกับด้านความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีระหว่างการใช้งาน

กระบวนการคิดเชิงออกแบบนั้น

สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับผู้ประกอบการทุกระดับ

ตั้งแต่ผู้ประกอบการขนาดเล็กอย่าง สตาร์ทอัพ

ไปจนถึงหน่วยงานหรือองค์กรขนาดใหญ่ โดยสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัพนั้น

กระบวนการคิดเชิงออกแบบ

จะทำให้เกิดการเปิดกว้างรับทุกไอเดียเพื่อหาทางออกที่จะสามารถสร้างความพึงพอใจ

และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด โดยต้องมองจากภายนอกสู่ภายใน

(Outside-in)

เพื่อให้เข้าใจสิ่งที่ผู้บริโภคได้รับรู้และสัมผัสถึงสินค้าหรือบริการจากมุมที่ผู้บริโภคเห็น

ซึ่งเมื่อนำมาประยุกต์ใช้ควบคู่กับหลัก “ลีน สตาร์ทอัพ” หรือการ สร้าง วัดผล

และเรียนรู้ แล้วนั้นจะช่วยลดเวลาและต้นทุนที่ไม่จำเป็นไปพร้อมๆ

กับการพัฒนาธุรกิจที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากที่สุด