ไมเคิล เจมส์ อัลลัน ประธานตัวแทนฝ่ายพัฒนาแฟรนไชส์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ SUBWAY Thailand เล่าว่า แฟรนไชส์ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่มาจากสหรัฐอเมริกา คนส่วนใหญ่ก็จะมองว่าเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอาหารฟาสต์ฟู้ด(Fast Food) ทั้งสะดวกและรวดเร็ว การทำรอบการขายในแต่ละครั้งใช้เวลาไม่มาก จึงนับเป็นธุรกิจยอดนิยมที่น่าลงทุนกันอย่างมากในตลาด

ไมเคิลได้รับสิทธิ์เป็นผู้ขยายแฟรนไชส์ SUBWAY ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2546 และใช้เวลากว่า 12 ปี มี 63 สาขา เรียกว่าการเติบโตไม่หวือหวาเพราะ SUBWAYเป็นแซนด์วิชที่วางตำแหน่งของสินค้าตามสโลแกน “Eat Fresh” ขายความสดใหม่ นั่นคือขนมปังต้องอบใหม่ทุกวัน วัตถุดิบสดสะอาด และเป็นเจ้าเดียวที่ไม่มีเมนูของทอดขาย และไม่มีของทอดเป็นส่วนประกอบในแซนด์วิช

สิ่งที่แตกต่างอีกประการคือ SUBWAY เป็นแซนด์วิชที่ทำตามใจลูกค้า (Customization) ลูกค้าสามารถ Mix & Match เลือกวัตถุดิบ เช่น ขนมปัง เนื้อ ผัก และซอสได้ด้วยตัวเอง โดยมีพนักงานคอยประกอบให้ ณ จุดที่ลูกค้าเลือกซื้อ ซึ่งเคาน์เตอร์แบบเปิดทำให้ลูกค้ามองเห็นการทำงานของพนักงานขณะทำแซนด์วิชให้ลูกค้า สร้างความมั่นใจในคุณภาพอาหาร และลูกค้ารับรู้ว่ากำลังรับประทานอะไรเข้าไป โดยราคาแซนด์วิชเริ่มต้นที่ 69 บาท

สำหรับเป้าหมายในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ไมเคิลตั้งเป้าไว้ที่ 20 สาขาต่อปี ร้านแฟรนไชซี SUBWAY เริ่มตั้งแต่ขนาด 300-1,000 ตารางฟุต ใช้งบลงทุน 2-5 ล้านบาท กำหนดระยะเวลาคืนทุนระหว่าง 3-5 ปี และตลอดระยะเวลาการเปิดร้าน ทางแฟรนไชซอร์จะมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายให้ทุกสาขาอย่างต่อเนื่อง

“เรามีจุดยืนเน้นสถานที่ตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน โรงพยาบาล หรือมหาวิทยาลัยตามวิทยาเขตที่มีชื่อเสียง ซึ่งทำเลในลักษณะนี้จะมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน คือ กลุ่มผู้บริโภคที่มีอายุระหว่าง 18–35 ปี เป็นกลุ่มครอบครัวหนุ่มสาว คนวัยทำงาน นักศึกษา และนักท่องเที่ยว ที่มีกำลังซื้อสูงและเดินสัญจรไปมาตลอด” ไมเคิล กล่าวทิ้งท้าย

สนใจธุรกิจ SUBWAY ติดต่อได้ที่โทร. 08-1487-0728 หรือ www.subway.co.th