โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

ปลูก “อะโวคาโด” พืชเศรษฐกิจนอกสาย แอบทำเงินเงียบๆ มานาน 10 ปี

 

                แต่ปัจจุบันอะโวคาโดเริ่มได้รับความสนใจจากผู้บริโภคที่รักสุขภาพมากขึ้น ทำให้ผลผลิตมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนี้อะโวคาโดมีประโยชน์ สรรพคุณมากมาย เช่น บำรุงสมองป้องกันโรคสมองเสื่อม ช่วยในการเผาผลาญระบบของร่างกายจึงเหมาะกับการลดน้ำหนัก ทั้งยังมีโปรตีนสูง และกรดอะมิโน ช่วยให้ตับอ่อนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ มะเร็งเต้านม รวมถึงอุดมไปด้วยวิตามิน E, B1, B2, B6, ไนอาซีน, โพแทสเซียม, กรดโฟลิก, ฟอสฟอรัส และมีแอนตี้ออกซิเดนท์ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ และความงามของร่างกาย ให้สดใส ไร้รอยเหี่ยวย่น

                คุณสำเริง กลั่นกลิ่น เกษตรกรชาว อ. ปากช่อง ปลูกอะโวคาโดทำเงินเงียบๆ มานานกว่า 10 ปี

 

 

                คุณสำเริงเล่าว่า เมื่อหลายสิบปีก่อนทางสถานีวิจัยพืชสวนปากช่องได้นำพันธุ์อะโวคาโดมาทดลองปลูกเพื่อศึกษาวิจัยและส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะตอนนั้นตลาดอะโวคาโดยังไม่เติบโต แต่คุณสำเริงสนใจไม้ผลชนิดนี้จึงนำพันธุ์อะโวคาโดมาทดลองปลูกอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ปัจจุบันมีต้นอะโวคาโดมากกว่า 500 ต้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นต้นอายุ 8-10 ปี

                ตลาดอะโวคาโดในปัจจุบันมีอนาคตที่สดใส ผู้บริโภคมีความต้องการสูงขึ้น อะโวคาโดหนึ่งต้นให้ผลผลิตถึง 300-500 กิโลกรัม ในสวนมีต้นอะโวคาโดประมาณ 500 ต้น ผลผลิตในแต่ละปีก็จะประมาณ 100-200 ตัน จะมีแม่ค้าเข้ามาติดต่อซื้อผลผลิตที่สวนเพิ่มขึ้นทุกปี จนทำให้คุณสำเริงตัดสินใจปลูกอะโวคาโดขยายพื้นที่เพิ่มอีก 40-50 ไร่ ในปีนี้ และมั่นใจว่า อะโวคาโด จะมีอนาคตทางการตลาดที่ดี โดยราคาขายในปัจจุบันอยู่ที่ 25-30 บาท/กก. ราคานี้เป็นราคาหน้าสวน ส่วนราคาขายปลีกอยู่ที่ 50-60 บาท/กก.

 

 

                ทั้งนี้คุณสำเริงยังบอกอีกด้วยว่าอะโวคาโดเป็นพืชปลูกและดูแลง่าย ถ้าปลูกพันธุ์ที่ต้นเล็ก ทรงพุ่มเล็กจะปลูกโดยใช้ระยะปลูก 6 เมตร พันธุ์ที่ต้นใหญ่จะใช้ระยะปลูก 8 เมตร หลังปลูกก็ให้ปุ๋ยบ้าง 1-2 เดือนครั้ง อะโวคาโดเป็นพืชที่ต้องการน้ำสม่ำเสมอ หลังปลูก 3 ปี อะโวคาโดก็ให้ผลผลิตเก็บเกี่ยวได้แล้ว และจะให้ผลผลิตมากขึ้น เมื่ออายุ 5-6 ปี โดยผลผลิตต้นหนึ่งประมาณ 400-500 กก. โดยจะให้ผลผลิตประปรายตลอดทั้งปี แต่จะดกมากๆ ในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ย.

 

ที่มา : www.vigotech.co.th

เรียบเรียง : 

                

Tags: