อันตรายใกล้ตัวผู้คนจำนวนมาก ทำให้ นพ.วีรฉัตร กิตติรัตน์ไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นว่า “รู้ว่าไม่ดี แต่ทำไมถึงยังใช้” นี่จึงเป็นแนวคิดการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นภายใต้แบรนด์ “Gracz”

      Graczเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากเยื่อชานอ้อย 100% หรือ Bio Base ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่ดีกว่าภาชนะและบรรจุภัณฑ์ทั่วไป คือ ทนน้ำ น้ำมันร้อน ทนความร้อนได้ถึง 250 องศาเซลเซียส ทนความเย็นได้ถึง -40 องศาเซลเซียส สามารถบรรจุอาหารเข้าไมโครเวฟ เตาอบได้อย่างปลอดภัย ไม่มีสารก่อมะเร็งหรือสารเคมีที่เป็นอันตรายเข้าไปปนเปื้อนในอาหารที่จะเข้าสู่ร่างกายของผู้บริโภค อีกทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าให้แก่ชานอ้อยที่ไร้ประโยชน์อีกด้วย

      “คุณสมบัติเด่นของบรรจุภัณฑ์ Graczที่ทุกคนควรให้ความสำคัญและหันมาเปลี่ยนแปลงการใช้บรรจุภัณฑ์ทางเลือกใหม่ Graczถูกผลิตขึ้นจากวัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งสามารถย่อยสลายได้เองในระยะเวลาเพียงแค่ 45 วันโดยกระบวนการที่เรียกว่า Biodegradable หรือการที่วัสดุถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ด้วยวิธีการทางชีวภาพ โดยที่วัสดุนั้นเมื่อถูกย่อยสลายแล้วจะกลายเป็นสารประกอบที่สามารถพบได้ตามธรรมชาติ ได้แก่ น้ำ ก๊าซมีเทน มวลชีวภาพ และคาร์บอนไดออกไซด์ และไม่มีสารพิษตกค้างใดๆ ทั้งสิ้น”

     นพ.วีรฉัตร กล่าวต่อว่า จากจำนวนตัวเลขประชากรไทยจำนวน 65 ล้านคน อัตราการเข้าถึงผู้บริโภคของผลิตภัณฑ์ Graczอยู่ที่ 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งถือว่ายังเป็นจำนวนน้อยมากๆ ผู้บริโภคยังคงมองว่าเป็นเรื่องใหม่ และไม่ทราบถึงคุณสมบัติที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ ฉะนั้นหน้าที่หลักของบริษัทคือ การรณรงค์ให้ผู้คนรู้ถึงภัยร้ายของการใช้โฟมและพลาสติก

      แนวทางการพัฒนาควบคู่กับนวัตกรรม นพ.วีรฉัตร เล่าว่าเริ่มแรก Graczถูกผลิตขึ้นจากชานอ้อยเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันสามารถนำเยื่อจากพืชธรรมชาติอื่นๆ อาทิ ผักตบชวา ไมยราบยักษ์ เยื่อไผ่ เยื่อปาล์ม มาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ได้เป็นผลสำเร็จ เทคโนโลยีที่นำมาผลิตถือเป็นโรงงานเดียวในประเทศไทยที่สามารถทำได้ ด้วยกรรมวิธีการตีเยื่อจากวัตถุดิบธรรมชาติแล้วนำมาผสมผ่านการขึ้นรูปทรง และนำเข้าสู่กระบวนการฆ่าเชื้อด้วยแสง UV มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 1 ล้านชิ้นต่อวัน

      ปัจจุบัน Graczมีบรรจุภัณฑ์มากกว่า 70 แบบที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นตั้งแต่ 1 บาท โดยต้นทุนต่อชิ้นอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับราคาของโฟมและพลาสติกแล้ว Graczจะมีราคาสูงกว่าไม่เกิน 30 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณประโยชน์และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเกิน 100 เปอร์เซ็นต์

       กลุ่มเป้าหมายโดยตรงของ Graczมุ่งเน้นให้เข้าถึงผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย แต่ในช่วงแรกมุ่งเน้นให้เข้าถึงองค์กรต่างๆ ภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อเป็นตัวอย่างของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค แบ่งสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายเป็นภายในประเทศ 50 เปอร์เซ็นต์ ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายตามโมเดิร์นเทรด ค้าปลีก ค้าส่งต่างๆ รวมกว่า 1,000 ร้านค้าที่จำหน่ายบรรจุภัณฑ์ Graczและส่งออก 50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งเอเชียและยุโรป

       นพ.วีรฉัตร พูดถึงแนวทางการพัฒนาธุรกิจหรือความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจนั้นจะต้องมาควบคู่กับคุณประโยชน์ที่มีต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง เมื่อผู้บริโภคได้รับรู้สิ่งเหล่านั้นแล้วจะเป็นแรงผลักดันให้ผู้บริโภคหันมาใช้ผลิตภัณฑ์

       อีกทั้งพฤติกรรมรักษ์โลกก็จะมีมากขึ้น ซึ่งคาดว่าในอนาคตสัดส่วนการหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ Graczแทนการใช้โฟมและพลาสติกจะเพิ่มขึ้นทุกปี และตั้งเป้าไว้ภายใน 5 ปี จะเข้ามาแทนการใช้โฟมและพลาสติก 50 เปอร์เซ็นต์

       “หลายคนมักคิดว่าการสร้างนวัตกรรมออกมาเป็นรูปเป็นร่างอาจประสบความสำเร็จแล้ว แต่ในความเป็นจริงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ในความเป็นจริงนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จ คือ นวัตกรรมที่สามารถขายได้และเพียงพอต่อการเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอด มีกำไร และสามารถส่งเสริมสังคมได้ ฉะนั้นจะต้องเปลี่ยนตัวเองจากนวัตกรรมเป็นนวัตกร สามารถคิดต่อยอดได้อย่างไม่หยุดนิ่ง พัฒนาสิ่งใหม่ออกมาอยู่เสมอ”