โอกาสของคนตัวเล็ก

Responsive image

จิตอาสา ตามรอยพ่อหลวง

          ผมเองเกิดในแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไม่เคยคิดว่าผมจะสูญเสียพระเจ้าอยู่หัวไปก่อนวันที่ผมสิ้นลม เพราะเชื่อมั่นเสมอว่าพระองค์คงอยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของชาวไทยตลอดกาล แต่ในโลกของความเป็นจริงก็คงต้องยอมรับ และพยายามทำตัวให้ดีตามแนวทางที่พ่อหลวงของเราสอนเอาไว้

          เรื่องหนึ่งที่คนไทยทำกันมากในปัจจุบันและเป็นเรื่องดีงามคือการมีจิตอาสาช่วยงานต่างๆเพื่อทำให้สังคมดีขึ้น น่าอยู่ขึ้น ผมคิดว่าคำสอนของพ่อหลวงในเรื่องนี้หากจะเปรียบเทียบเป็นวิชาการด้านการตลาด คือการทำ CSR (Corporate Social Responsibility) ซึ่งเป็นแรงผลักดันหนึ่งไปสู่การตลาดยุคใหม่

          กิจกรรม CSR ส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องของการตลาดที่ไม่ได้ผูกพันไปถึงวิสัยทัศน์ พันธกิจและค่านิยมขององค์กร ไม่ได้ทำเป็นยุทธศาสตร์หลักที่หวังผลให้สังคมและบริษัทเติบโตอย่างมีส่วนร่วมไปด้วยกัน

         กลยุทธ์ CSR พัฒนาต่อเนื่องมาจนถึงการตลาดยุค 3.0 ที่เน้นการผลักดันให้สังคมดีขึ้นด้วยความมุ่งมั่นตามพันธกิจของบริษัทและผลักดันตามความต้องการสูงสุดของผู้บริโภค เพื่อเป็นการสร้างคุณค่าให้สังคม และผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กิจการควบคู่กันไป

         จุดเริ่มต้นของการตลาดแนวนี้เริ่มจากเลือกปัญหาของสังคมและวัฒนธรรมที่บริษัทต้องการรณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ที่สำคัญต้องพิจารณาว่าปัญหานั้นมีความสัมพันธ์กับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และค่านิยมขององค์กรหรือไม่ รวมถึงผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้รับ ทั้งต่อบริษัทต่อลูกค้าและต่อสังคม

         ลำดับต่อมาคือการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีส่วนได้เสียจากการรณรงค์ในปัญหานั้นๆ กลุ่มเป้าหมายอาจจะเป็นพนักงานของบริษัท ลูกค้า ผู้ถือหุ้น ผู้ขายปัจจัยการผลิต ฯลฯ บริษัทควรเลือกกลุ่มเป้าหมายที่สามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการในวงกว้าง

         ขั้นสุดท้ายคือการแก้ไขปัญหาด้วยการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจต้องอาศัยนวัตกรรมที่บริษัทสร้างขึ้นใหม่ หรือเผยแพร่นวัตกรรมที่มีอยู่แล้วให้เหมาะกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข หรืออาจจะเป็นผู้ลงทุนเพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้แก้ไขปัญหาที่ต้องการรณรงค์

        แนวทางทั้งหมดที่ผมสรุปมานี้ ตามตำราฝรั่งเขาเรียกว่า การตลาด 3.0 ซึ่งโดยเนื้อแท้หลักๆแล้วก็อยู่ในแนวทางที่พ่อหลวงของเราสอนไว้ในเรื่องการเสียสละ ทำความดี

Tags: