โอกาสของคนตัวเล็ก

Responsive image

แหล่งเงิน หนุนนวัตกรรม

เนื่องจากสินค้านวัตกรรมไม่เป็นที่ต้องการของตลาด หรืออาจได้ผลตอบแทนกลับมามากมายมหาศาล หากสินค้านวัตกรรมนั้น สร้างการตอบรับจากตลาดได้อย่างท่วมท้น และอาจถึงกับเขย่าบัลลังก์ของเจ้าตลาดที่ครอบครองตลาดอยู่เดิมได้ ตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นก็เช่น การตกต่ำของโนเกีย ในขณะที่ ไอโฟน และซัมซุง เข้ามาครอบครองตลาดเพราะสร้างนวัตกรรมที่โดดเด่นกว่า ในปัจจุบันโดยเฉพาะในประเทศที่เจริญแล้ว มักจะมีกลไกทางการเงินเพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมของประเทศได้ในหลายๆ ด้าน โดยการพัฒนานวัตกรรมของประเทศที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ต้องอาศัยภาคเอกชนเป็นตัวนำทั้งสิ้น ไม่ใช่จากองค์กรภาครัฐ ดังนั้น กลไกทางการเงินที่จะสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม จึงต้องให้ความสำคัญไปกับการช่วยเหลือธุรกิจภาคเอกชนให้มีความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมขึ้นเองภายในบริษัทได้ สำหรับเครื่องมือที่ภาครัฐจะนำมาใช้เพื่อสนับสนุนธุรกิจนวัตกรรมนั้น อาจมีได้ทั้งเครื่องมือทางการเงิน และเครื่องมือทางการคลัง เริ่มต้นจากการใช้

กลไกทางภาษี เช่น การผ่อนผัน หรือการลดหย่อนภาษีให้กับธุรกิจที่มีการทำนวัตกรรมแต่ก็อาจมีปัญหาในเรื่องของการตัดสินว่า ธุรกิจมีการทำนวัตกรรมจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงการพัฒนาธุรกิจไปตามปกติวิสัยที่ธุรกิจจะต้องแข่งขันกันโดยธรรมขาติอยู่แล้วเท่านั้น และประเด็นที่ว่า ธุรกิจเริ่มใหม่หรือสตาร์ทอัพ และธุรกิจที่ดำเนินการขาดทุนอยู่แล้ว อาจไม่ได้รับความช่วยเหลือส่วนนี้ไปโดยอัตโนมัติ กลไกต่อมา ได้แก่ นโยบายเงินสนับสนุนแบบให้เปล่า ซึ่งอาจสนับสนุนสำหรับโครงการนวัตกรรมในระยะเริ่มต้น โดยภาครัฐอาจกำหนดลำดับความสำคัญของอุตสาหกรรมและประเภทของนวัตกรรมที่จะได้รับความช่วยเหลือไว้อย่างชัดเจน แต่อุปสรรคของกลไกนี้ก็คือ อาจเกิดข้อครหาเกี่ยวกับความยุติธรรมในการให้เงิน หรืออาจลามไปถึงเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่น ยากขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง ก็จะเป็น การสนับสนุนแบบร่วมทุน ในรูปแบบของการเข้ามาร่วมทุนหรือร่วมหุ้นและมีส่วนเป็นเจ้าของบริษัทเหมือนกับผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ และอาจมีส่วนเข้ามาติดตามการบริหารงานหรือเข้ามาในรูปของการเป็นกรรมการบริษัท ในกรณีนี้ ธุรกิจก็จะได้รับเงินไปก่อน และธุรกิจก็จะดูดี ได้รับความเชื่อถือสูงเพราะภาครัฐเข้ามาถือหุ้นร่วมด้วย อีกกลไกหนึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของ การจัดหา สินเชื่อธุรกิจ ให้กับธุรกิจนวัตกรรม โดยผ่านสถาบันการเงิน หรือ องค์การเฉพาะกิจของภาครัฐ ในกรณีนี้ ธุรกิจนวัตกรรมอาจจะต้องเสียดอกเบี้ย และต้องคืนเงินต้นในระยะเวลาและเงื่อนไขตามข้อตกลงที่ทำไว้ในสัญญากู้ หากผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมหรือสตาร์อัพ ไม่มีทุนรอนของตนเองเพียงพอ และไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินสนับสนุนจากภาครัฐได้ ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็คงจะต้องหันมาใช้บริการของแหล่งทุนภาคเอกชน ซึ่งอาจเริ่มจาก การเข้าไปเสนอโครงการให้กับบริษัทที่ทำธุรกิจร่วมลงทุน

            ที่มักเรียกกันว่า VC หรือ Venture Capital ซึ่งหาก VC มีความสนใจในนวัตกรรมที่นำเสนอ ก็อาจเข้ามาร่วมลงทุนในลักษณะที่เป็นหุ้นส่วน โดยมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการธุรกิจด้วย ด่านสุดท้าย ที่อาจมีความเป็นไปได้น้อยลง ก็คือการขอสินเชื่อหรือกู้เงินจาก ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งอาจต้องเกี่ยวข้องกับการหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน และจ่ายดอกเบี้ยในอัตราค่อนข้างสูง เนื่องจากธนาคารพาณิชย์จะเห็นว่า ธุรกิจนวัตกรรม มีความเสี่ยงสูง ดังนั้น จึงต้องกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่สูงตามด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้สินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ ภาครัฐก็ยังมีกลไกที่อาจนำมาช่วยสำหรับการหาหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยคิดค่าบริการเล็กน้อย เช่น การให้บริการของ บสย. หรือ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เป็นต้น การเลือกใช้แหล่งเงินเพื่อนำมาสนับสนุนธุรกิจนวัตกรรม อาจต้องพิจารณาให้รอบคอบและเลือกใช้แหล่งเงินที่เหมาะสมกับระดับการพัฒนาของธุรกิจ เช่น เงินให้เปล่า หรือ เงินทุนประเดิม อาจนำมาใช้ในช่วงต้นๆ ของการพัฒนาธุรกิจ เช่น การวิจัยตลาด การสร้างต้นแบบสินค้า เมื่อธุรกิจเริ่มไปได้บ้างแล้ว อาจขอสินเชื่อเพื่อธุรกิจมาเพื่อบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้ธุรกิจเดินไปได้อย่างราบรื่นขึ้น

                      (ภาพประกอบ)   พฤติกรรมการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรมและแหล่งเงินสนับสนุนจากภาครัฐ

Tags: