ข่าวน่ารู้

กองทุนคืนชีพ SME ให้ยืมฟรีไร้ดอกเบี้ย 5 ปี

ทั้งนี้ ในการดำเนินมาตรการดังกล่าว ได้จัดสรรงบประมาณจากกองทุนของ สสว. ซึ่งมีเหลือไม่ได้ใช้อยู่ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยแบ่งออกมาใช้จำนวนรวม 2,467 ล้านบาท โดยจะเหลือเงินกองทุนของ สสว. อีกประมาณ 600 ล้านบาท สำหรับการจัดสรรงบประมาณ รวม 2,467 ล้านบาทดังกล่าว ในส่วนแรกจำนวน 867 ล้านบาทจะกระจายไปยัง 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม 530 ล้านบาท กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 187 ล้านบาท กระทรวงพาณิชย์ 150 ล้านบาท และจะตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามผลการพัฒนา SME ของแต่ละหน่วยงานโดยมี สสว. เป็นแกนหลักทำหน้าที่เจ้าภาพประสานงานและประเมินผล […]

เชิญร่วมโครงการปรับแผนธุรกิจ และเพิ่มขีดความสามารถ SMES “ช่วย SME ฝ่าวิกฤติ สู่ธุรกิจที่ยั่งยืน”

ขอเชิญผู้ประกอบการ SMEs สมัครเข้าร่วมโครงการ ปรับแผนธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถ SMEs เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ SMEs ที่ประสบปัญหาทางธุรกิจ (Turn-around) ในการปรับแผนธุรกิจให้สามารถประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจให้เจริญเติบโตต่อไป วัตถุประสงค์ของโครงการ 1. เพื่อให้ SME มีแนวคิดในการพัฒนาจัดการธุรกิจให้เป็นระบบ สามารถจัดทำแผนพัฒนาและฟื้นฟูธุรกิจ และต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงนวัตกรรม 2. เพื่อให้ SME สามารถวิเคราะห์สภาพปัญหาและแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นได้ตรงจุด เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องกับสภาพปัญหา 3. เพื่อให้ SME มีผลิตภาพ (Productivity) และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงนวัตกรรม ส่วนเกณฑ์การคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการนั้น จะคัดเลือกจากกิจการที่ต้องการปรับแผนธุรกิจเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยวิเคราะห์จากผลการดำเนินธุรกิจในรอบ 6 เดือน มียอดขายหรือกำไรลดลงโดยพิจารณาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ค่าสาธารณูปโภค ยอดการสั่งซื้อ-ขายวัตถุดิบ เป็นนิติบุคคลมีการจดทะเบียนการค้า มีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติไทยร้อยละ 51 ขึ้นไป […]

DITP จัดสัมมนา “โค้งสุดท้ายสู่ AEC… ผู้ประกอบการไทยพร้อมแล้วหรือยัง”

ปี 2558 เป็นปีที่มีความสำคัญสำหรับ 10 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจาก 31 ธันวาคม 2558 ที่จะถึงนี้ จะเกิดการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เป็นการนำอาเซียนไปสู่การเป็นตลาดและฐานการผลิตร่วมกัน (Single Market and Production Base) ภายในภูมิภาค ผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่ม SMEs จำเป็นต้องเร่งศึกษาพร้อมปรับตัวเพื่อแสวงหาลู่ทางเข้าสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดศักยภาพทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนประชากรรวมที่มีถึง 600 ล้านคน ซึ่งนับเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สามารถสร้างอำนาจต่อรองทางการค้าในเวทีการค้าโลก เมื่อไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะทำให้สินค้าไทยส่งออกไปอาเซียนได้มากขึ้น จากการขจัดอุปสรรคทางการค้าทั้งด้านภาษีและด้านที่มิใช่ภาษี และสามารถดึงดูดการลงทุนและนักท่องเที่ยวจากทั้งอาเซียน และนอกอาเซียนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่กระชับมากขึ้นเพื่อการเป็น AEC ทำให้เศรษฐกิจของอาเซียนมีความเกี่ยวเนื่องและเชื่อมโยงกันมากขึ้น ในด้านหนึ่งคือการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมเดียวกัน แต่ขณะเดียวกันสมาชิกอาเซียนก็จะต้องแข่งขันกันเองเพื่อดึงดูดการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว นับเป็นประเด็นท้าทายต่อธุรกิจ SMEs ไทย เนื่องจากประเทศอาเซียนจะเป็นเสมือนตลาดและฐานการผลิตเดียวที่มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ แรงงานฝีมือ และรวมทั้งการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างกันโดยเสรีในภูมิภาค ทำให้ธุรกิจ SMEs ซึ่งเป็นผู้ประกอบการส่วนใหญ่ในของไทย […]

สทน. เชื่อม SME ท่องเที่ยว โยงเครือข่าย ยกมาตรฐานไกด์ไทย

จากตัวเลขสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในปี 2557 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทยประมาณ 24.71 ล้านคน สร้างรายได้ถึง 1.29 ล้านล้านบาท ส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นอยู่ที่ 7.05 แสนล้านบาท โดยปัจจัยสำคัญในการเติบโตนั้นมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและมาเลเซียเป็นส่วนใหญ่ ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณเริ่มต้นที่ดีของการท่องเที่ยวไทยหลังเจอพิษเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมือง จากการเติบโตดังกล่าว ทำให้ผู้ประกอบการ SME ไทย ต่างพากันดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะบริษัทนำเที่ยวซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการจดทะเบียนแล้วนับหมื่นราย ด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้จึงทำให้การกระจายข่าวสารไม่ใช่เรื่องง่าย สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) จึงก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นกระบอกเสียงสร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบการและดำเนินธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน โดยมี ยุทธชัย สุนทรรัตนเวช ดำรงตำแหน่งนายกสมาคม ยุทธชัยมองว่าข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว สถิติต่างๆ หรือแม้กระทั่งสถานการณ์ความไม่สงบที่จะส่งผลต่อธุรกิจด้านการท่องเที่ยวคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการนำเที่ยวควรรู้ก่อนใคร เพื่อที่จะได้หาทางรับมือและแก้ไขกับปัญหาดังกล่าวได้ทันท่วงที กลายเป็นที่มาของการก่อตั้งสมาคม […]

กระทรวงการคลัง นิรโทษกรรมภาษี SME หวังดึง 1.9 ล้านเข้าระบบ

กระทรวงการคลังยืนยันจะไม่มีการเพิ่มอัตราภาษี แต่จะเพิ่มฐานภาษีโดยให้ทำบัญชีเดียว และจะประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กับสมาคมธนาคารไทย ว่าเวลามีผู้ประกอบการ SME ยื่นขอสินเชื่อให้ใช้บัญชีเดียวกับที่ยื่นเสียภาษีให้กับกรมสรรพากร ที่ผ่านมาได้มีการนิรโทษกรรมแล้วหลายครั้ง แต่เวลาผ่านไปก็ยังทำเหมือนเดิม ซึ่งครั้งนี้จะมีเงื่อนไขทำถูกไม่มีย้อนหากทำผิดย้อนกลับมาหมดไม่มียกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การดำเนินการยังต้องใช้เวลา ผู้ประกอบการมีปัญหาระบบบัญชีกรมสรรพากรอยู่ระหว่างทำระบบบัญชีให้ผู้ประกอบการรายเล็กนำไปใช้ได้ ซึ่งจะสามารถลงรายรับ รายจ่ายโปรแกรมลงบัญชีให้ว่ามีผลกำไร ขาดทุน งบดุล ต้องเสียภาษีเท่าไร กระทรวงการคลังจะทำระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-เพย์เมนท์ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการหลบเลี่ยงภาษี เนื่องจากจะมีการหักภาษีมูลค่าเพิ่มส่งกรมสรรพากร ณ ที่จ่ายในทันที และยังเป็นการปิดช่องโหว่การรั่วไหลของภาษีมูลค่าเพิ่ม ทำให้มีเงินมาพัฒนาประเทศต่อไป

กสอ. ผนึกกำลัง 20 ธนาคาร เสริมทัพ SME ไทย รับ AEC

อาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งผู้ประกอบการSME ไทย รุกหารือสถาบันการเงินทั่วประเทศ เพื่อผลักดันแนวทางขยายโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถ ผ่านการเชื่อมโยงและส่งต่อข้อมูลผู้ประกอบการไปยังสถาบันการเงินโดยตรง ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น โดยก่อนหน้านี้ กสอ. ได้นำร่องทำ MOU ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) ส่งผลให้ในปี 2558 มีกิจการที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้วถึง 269 กิจการ คิดเป็นวงเงินกว่า 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มอีกจำนวน 188 กิจการ ผลจากการดำเนินโครงการส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการด้านต่างๆ ได้ชี้ให้เห็นว่า ผู้ประกอบการ SME ที่ผ่านการส่งเสริมและพัฒนาจาก กสอ. มีโอกาสสูงมากที่จะได้รับการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ดังนั้น เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอย่างต่อเนื่อง กสอ. จึงได้ขยายผลโดยการดำเนินงานเชิญสถาบันการเงินชั้นนำกว่า 20 แห่ง เข้าร่วมหารือเพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอุตสาหกรรม SME ไทย สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 0-2202-4414-18 หรือ www.dip.go.th

บสย. เพิ่มเงินค้ำ 8 หมื่นล้าน ช่วย SME โครงการ PGS เฟส 5

สำหรับโครงการ PGS5 (70:30) ปรับปรุงใหม่ บสย. จะรับผิดชอบในภาระการค้ำประกันที่เป็นหนี้ NPL ให้ธนาคารเพิ่มขึ้นในอัตราไม่เกิน 30% ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ได้มากขึ้น โดยประโยชน์ที่ผู้ประกอบการ SME จะได้รับจากโครงการ PGS5 ปรับปรุงใหม่ คือ อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารคิดจากผู้ประกอบการ SME ต้องไม่เกิน MLR+2 หรือเทียบเท่า มาตรการฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันปีแรกและการค้ำประกันเต็ม 100% ของวงเงินสินเชื่อ ขณะที่ช่วง 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม 2558) สามารถค้ำประกันสินเชื่อรายย่อย (วงเงินไม่เกิน 200,000 บาท) ได้สูงถึง 15,658 ราย มากกว่าจำนวนผู้ประกอบการรายย่อยที่ บสย. มีการค้ำประกันตลอด 24 ปี ณ สิ้นปี 2557 ซึ่งมีจำนวน 9,271 ราย คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 170% เป็นผลจากการผลักดันการดำเนินโครงการค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านสถาบันการเงินของรัฐและเอกชนอย่างเต็มที่ […]

AITIA แม่สื่อ SME ไทย จับคู่ธุรกิจจีน ผงาดตลาดแดนมังกร

ปัจจุบันการค้าการลงทุนระหว่างไทยและจีนเติบโตสูงมากขึ้นทุกปี เนื่องจากจีนมีประชากรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับความต้องการสินค้าไทยที่มีมากขึ้นตามด้วย ส่งผลให้ตัวเลขการค้าการลงทุนกับจีน ในปี 2557 ที่ผ่านมาสูงถึง 63,582 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2558 นี้ ตัวเลขจะขยับไปถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยขนาดประเทศและจำนวนประชากรมหาศาล SME ไทยจำนวนมากมีความต้องการที่จะขยายธุรกิจตัวเองไปยังตลาดจีน แต่ด้วยอุปสรรคด้านกฎหมาย วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ตลอดจนการแข่งขันด้านราคาสินค้า ทำให้ SME ไทยที่คิดว่าสามารถบุกตลาดจีนได้ เป็นอันต้องล้มลุกคลุกคลานกลับมาทุกราย จุดอ่อนตรงนี้ทำให้ สมาคมการค้าและการลงทุนเอเชียน-สากล (AITIA) ที่ทำการค้ากับจีนโดยตรงจึงอาสาเข้ามาทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมนำ SME ไทยและจีนมาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กัน โดยหน้าที่หลักของสมาคมคือการจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการไทยและจีน ที่ไม่เพียงแต่การสัมมนาหรือให้ความรู้ในภาคทฤษฎีเท่านั้น แต่สมาคมยังได้จับมือร่วมกับรัฐบาลจีน เพื่อสร้างโอกาสให้ SME ไทยได้ลงสนามจริง และพา SME ไปสัมผัสกับกลุ่มผู้บริโภคในแดนมังกรว่าความต้องการของผู้คนในแต่ละเมือง แต่ละมณฑลต้องการอะไร เพื่อที่จะได้เจาะกลุ่มผู้บริโภคได้ถูก นันทวัน พวงมาลี ผู้อำนวยการฝ่ายจัดงานแสดงสินค้า การค้าและการลงทุนเอเชียน-สากล กล่าวว่า […]

สาลินี วังตาล นั่งเก้าอี้ ผอ. สสว. คนใหม่

โดยที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมฯ ได้มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง “สาลินี วังตาล” ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ SME Bank เป็นผู้อำนวยการ สสว. คนใหม่ ส่วนรายละเอียดต่างๆ จะมีการแถลงเพิ่มเติมต่อไป สาลินีกล่าวว่าที่ผ่านมามั่นใจว่าได้วางพื้นฐาน SME Bank ได้ดีขึ้น ไม่ว่าใครจะเข้ามารับหน้าที่ผู้บริหาร SME Bank ต่อไปก็จะทำหน้าที่ต่อไปได้ไม่มีปัญหา ผลงานที่ผ่านมา สาลินีเคยเป็นอดีตผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก่อนจะไปรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการ SME Bank ซึ่งผลงานที่โดดเด่นของสาลินีคือ การเข้าไปปรับโครงสร้างและแก้ไขปัญหาหนี้เสียของ SME Bank ให้ดีขึ้นได้ตามลำดับ และช่วงที่เกิดวิกฤตสถาบันการเงินปี 2540 ธปท.เคยส่งสาลินีเข้าไปแก้ปัญหาให้หลายสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารทหารไทย เป็นต้น ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่ารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจได้ส่งทีมงานเข้าไปสะสางปัญหาภายใน สสว. โดยที่ผ่านมามีปัญหาความขัดแย้งภายในองค์กรที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ส่งผลกระทบต่องานสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล การแต่งตั้งสาลินีเข้าไปเป็นผู้อำนวยการ สสว. เพื่อต้องการจะให้แก้ปัญหาต่าง ๆ

ERP by DIP ซอฟต์แวร์เพื่อ SME

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด(มหาชน) พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ “ERP by DIP” ระบบสารสนเทศที่ช่วยบูรณาการงานหลักของบริษัททั้งหมด อาทิ การจัดซื้อจัดจ้าง การผลิต การขาย การกระจายสินค้า การเงินและการบัญชี รวมถึงการบริหารบุคคลให้เชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกัน ERP by DIP สามารถทำงานได้แบบ Real Time โดยใช้งานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์ (Cloud Computing) ซึ่งออกแบบให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มธุรกิจ SME ไทย โดยทีมผู้พัฒนาได้ทำการย่อขนาด ERP จากระบบใหญ่ แต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานสากลในระดับเดียวกันเพื่อช่วยจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในระยะเริ่มแรกจะเปิดให้ใช้งานฟรี 1 ปี […]

ส่งเสริมผู้ส่งออกไทย ขอหนังสือสำคัญฯ ด้วยระบบ DS และ ESS

ในปี 2557 กรมฯ ออกหนังสือสำคัญการส่งออก-นำเข้าสินค้า รวมทั้งสิ้น 1,143,610 ฉบับ ในจำนวนนี้เป็นการออกด้วยระบบ Digital Signature 146,531 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 12.81 สำหรับปี 2558 (ต.ค. 57–มี.ค. 58) มียอดการให้บริการออกหนังสือสำคัญฯ รวมทั้งสิ้น 524,953 ฉบับ ออกด้วยระบบ Digital Signature รวม 70,960 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 13.52 คต. ได้พัฒนาระบบการให้บริการอย่างต่อเนื่องจากระบบ EDI เป็นระบบ Digital Signature เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ถูกต้อง ปลอดภัยในการรับส่งข้อมูลมากขึ้น ระบบนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบคำขอฯ และแจ้งผลให้ทราบก่อนที่ผู้ประกอบการมารับหนังสือสำคัญฯ ทำให้ระยะเวลาขอรับหนังสือสำคัญฯที่หน่วยงานของกรมการค้าต่างประเทศ ลดลงเหลือเพียงประมาณ 15 นาที/ฉบับ นอกจากนี้ คต. ได้พัฒนาต่อยอดจากระบบ Digital Signature โดยการปฏิรูปการทำงานจากเดิมให้ผู้ส่งออกและเจ้าหน้าที่สามารถลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ […]

กระแสนิยมออกกำลังกาย … สร้างโอกาสให้กับหลากหลายธุรกิจ

• แบรนด์สินค้ากีฬาเฉพาะทางมีโอกาสเติบโตสูง กระแสการออกกำลังกายไม่เพียงแต่สนับสนุนยอดจำหน่ายสินค้ากีฬาแบรนด์ระดับโลกอย่าง Nike, Adidas และ Reebok แต่ยังทำให้แบรนด์สินค้ากีฬาเฉพาะทางเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องแต่งกายสำหรับกีฬาจักรยานแบรนด์ Rapha ที่ได้รับความนิยมแพร่หลายในกลุ่มนักขี่จักรยานในหลายประเทศ แบรนด์รองเท้าใหม่ๆ ที่เจาะกลุ่มนักกีฬาวิ่งโดยเฉพาะ อาทิ Altra, Hoka One One และ Telic รวมถึงแบรนด์ถุงเท้าสำหรับการวิ่ง เช่น Feetures, Injinji และ Toesox ที่มีจุดขายจากนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เหมาะกับการวิ่งโดยเฉพาะ • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับการกีฬามีแนวโน้มขยายตัวดี อาทิ นาฬิกาสำหรับออกกำลังกายซึ่งมีคุณสมบัติพื้นฐานหลักเน้นการวัดอัตราชีพจร เนื่องจากกลุ่มผู้ออกกำลังกายรุ่นใหม่นิยมใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการออกกำลังกายของตน นอกจากนี้ นาฬิกาดังกล่าวยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ เพื่อส่งสถิติการออกกำลังกายไปยังเครือข่ายออนไลน์และเว็บไซต์บันทึกสถิติการออกกำลังกายโดยเฉพาะ เช่น Strava และ Movescout ซึ่งสอดคล้องกับวิถีชีวิตสังคมออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ • อาหารสำหรับนักกีฬากลายเป็นสินค้าจำเป็น โดยเฉพาะการวิ่งมาราธอนและการปั่นจักรยานทางไกลที่ต้องใช้พลังงานค่อนข้างมาก ทำให้จำเป็นต้องพึ่งพาอาหารเสริมพลังงาน เช่น Energy Bar และ Energy Gel เพื่อช่วยให้พลังงานและชดเชยการสูญเสียเกลือแร่ของนักกีฬา […]

World Spa & Well-being Convention 2015 ยกระดับสปาไทยสู่สปาโลก

โดยมูลค่าตลาดสินค้าและบริการสปาไทยในช่วงปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดสูงถึง 32,443.84 ล้านบาท มูลค่ามหาศาลเช่นนี้ นับเป็นตัวเลขที่ย้ำให้เห็นว่าการจัดงาน WSWC 2015 ขึ้นอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกอุตสาหกรรมสินค้าและบริการดังกล่าวให้เติบโตเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ทั้งยังช่วยยกระดับฝีมือของผู้ประกอบการให้พัฒนาสินค้าและสรรหาบริการรูปแบบใหม่ๆ ป้อนเข้าสู่ตลาด ให้สปาไทยติดท็อปความนิยมของลูกค้าชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะอธิบายถึงรูปแบบกิจกรรมและความน่าสนใจภายในงาน WSWC 2015 ทั้งนี้ ขอสรุปวัตถุประสงค์ในการจัดงานหลักๆ 4 ประการให้ได้เข้าใจกันก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงรูปแบบกิจกรรมต่างๆ ที่ได้นำมาจัดแสดง ได้แก่ ประการที่ 1 เพื่อแสดงให้ชาวต่างชาติได้เห็นศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางทางการค้า การบริการธุรกิจสินค้าสุขภาพและความงามในเอเชีย ประการที่ 2 เพื่อให้ประเทศไทยเป็นเวทีการค้าสากลที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก และผู้ให้บริการได้พบปะเจรจาการค้ากับผู้ซื้อและผู้นำเข้าจากต่างประเทศ ประการที่ 3 เพื่อสนับสนุนและเพิ่มมูลค่าการส่งออกธุรกิจสินค้าสุขภาพและความงามจากประเทศไทย ประการที่ 4 เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของธุรกิจสินค้าและบริการไทย ให้มีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งสามารถขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ กิจกรรมพิเศษในงาน WSWC 2015 บนพื้นที่จัดงานกว่า 5,000 ตารางเมตร ณ อาคาร 5-6 […]

มอบหมายสำนักงานพาณิชย์ ดึงผู้ซื้อต่างประเทศมาไทย 1.4 หมื่นราย

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า “กรมฯ ประเมินว่าจะมีนักธุรกิจกว่า 70 ประเทศ เดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 14,000 ราย จากทุกทวีป ทั้งอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียน เอเชีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา และออสเตรเลีย ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าซื้อสินค้าไทยไม่น้อยกว่า 7,300 ล้านบาท โดยกลุ่มสินค้าสำคัญที่จะ มีคำสั่งซื้อเพิ่ม ได้แก่ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ เป็นต้น” ทั้งนี้ กรมฯ ได้เร่งดำเนินการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปีนี้ โดยโปรโมทให้ผู้ซื้อรู้ว่า สินค้าไทย คือ สินค้าและบริการที่มีคุณภาพ มีความหลากหลายให้เลือกซื้อในหลายระดับราคา อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจภาคการเงิน การธนาคาร รวมถึงบริการหลังการขาย และการส่งมอบสินค้าได้ตรงเวลา ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนกันยายน 2558 / www.ditp.go.th

คณะผู้ส่งออกสินค้าเครื่องประดับ บุกตลาดเกาหลีใต้

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า “สำหรับการเดินทางไปขยายตลาดอัญมณีและเครื่องประดับในเกาหลีครั้งนี้ พบว่าการจะเข้าถึงผู้บริโภคในเกาหลีใต้ได้นั้น ต้องเข้าใจถึงวัฒนธรรมและปัจจัยสำคัญในการทำแบรนด์สินค้าแฟชั่นในเกาหลีเสียก่อน ซึ่งต้องใช้บุคคล เช่น นักร้อง ดารา นักแสดง ซึ่งมีอิทธิพลกับการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างมาก โดยจะแบ่งเป็นตลาดสินค้าแฟชั่นอัญมณี 71% เครื่องประดับอัญมณีแท้ 29% มีอัตราการซื้อของผู้หญิง 71% และผู้ชาย 29% ซึ่งในช่วงอายุ 20–30 ปี สนนราคาที่ทำการซื้อขายส่วนใหญ่อยู่ระหว่าง 200-400 เหรียญสหรัฐ” อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแนะอีกว่า ปัจจุบันการใช้เว็บไซต์ บล็อก หรืออินสตาแกรมโปรโมทสินค้าต่างๆ กำลังได้รับความนิยมมาก การทำตลาดเช่นนี้ใช้งบประมาณไม่มาก แต่ผู้ซื้อเข้าถึงได้ง่าย ผู้ประกอบการไทยจึงควรให้ความสำคัญกับการค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นด้วย ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนกันยายน 2558 / www.ditp.go.th

จับสินค้ามูลค่าเพิ่มสูง ขยายตลาดมาเลเซีย

จากยุทธศาสตร์ ปี พ.ศ. 2558 นี้ ไทยได้จัดให้มาเลเซียอยู่ในกลุ่มผู้นำเข้าสินค้าและบริการในตลาดบนของอาเซียน สอดคล้องกับกรมฯ ที่ปีนี้ได้กำหนดกลยุทธ์การขยายตลาดมาเลเซียด้วยการส่งเสริมให้มีการส่งออกสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ได้แก่ สินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับแฟชั่นที่มีแบรนด์ สินค้าเคหะสิ่งทอ สินค้าสปา และสินค้าอาหารเพื่อสุขภาพและออร์แกนิค กิจกรรมส่งเสริมการตลาดประเทศมาเลเซีย กรมฯ ได้วางกำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อให้กลุ่มสินค้าข้างต้น มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ได้แก่ 1. จัดคณะผู้แทนการค้าจากประเทศมาเลเซียมาเจรจาการค้าในงาน Southern International Trade Expo ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 23-26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา มีผู้ส่งออกไทยไปออกบูธกันอย่างล้นหลามประกอบด้วย สินค้าอาหาร 40 คูหา สินค้าฮาลาล 40 คูหา (อาหาร เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้มุสลิม) สินค้าและบริการสปาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ 40 คูหา สินค้าวัสดุก่อสร้าง ของใช้ในบ้าน 20 คูหา สินค้ายางพารานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ยางพารา 12 […]

DITP แนะ SME ใช้สิทธิ์เพิ่มส่งออกสินค้าสำคัญ 6 กลุ่ม ไปสหรัฐฯ

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การต่ออายุ GSP ให้แก่ประเทศที่กำลังพัฒนารวมทั้งประเทศไทย ออกไปอีก 4 ปี 5 เดือน (31 ก.ค. 2556-31 ธ.ค. 2560) จะทำให้ไทยได้เปรียบคู่แข่ง โดยเฉพาะจีนที่ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติในกลุ่มสินค้าสำคัญ 6 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้ายานยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ กลุ่มสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ กลุ่มสินค้าอาหารทะเลสด แช่เย็น แช่แข็ง อาหารกระป๋องและแปรรูป กลุ่มสินค้าผัก/ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และกลุ่มสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจึงอยากเร่งให้ผู้ส่งออกไทยใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นเพื่อเพิ่มการส่งออกไปสหรัฐอเมริกา โดยสภาพเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมากำลังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในสภาพเศรษฐกิจของประเทศสูงขึ้น รวมถึงสัญญาณอื่นๆ ที่บ่งบอกสภาพเศรษฐกิจ ได้แก่ ยอดการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในหลายพื้นที่ ราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังการซื้อสูงขึ้น ทั้งนี้ ผู้ส่งออกไทยสามารถขอใช้สิทธิพิเศษทางการส่งออกดังกล่าว ได้ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า […]

สมาคมฯ บรรจุภัณฑ์ไทย รวมพลัง 3F เปลี่ยน “เปลือก” สินค้าไทย

ญี่ปุ่นได้รับการยกย่องให้เป็นชนชาติที่ใส่ใจเรื่องบรรจุภัณฑ์เป็นอย่างยิ่ง ต่างกับผู้ประกอบการไทยมักไม่ค่อยเห็นความสำคัญของบรรจุภัณฑ์เท่าใดนัก และมองว่าบรรจุภัณฑ์คือ “ต้นทุน” ที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจ จนกระทั่งเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา มีการเข้ามาของสินค้าต่างประเทศซึ่งมีบรรจุภัณฑ์แปลกใหม่ โดดเด่น และสะดุดตา ดึงดูดให้ผู้บริโภคเกิดการซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ประกอบการไทยเริ่มจะเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนานวัตกรรมและงานดีไซน์บรรจุภัณฑ์มากขึ้น ไชยวุฒิ พึ่งทอง นายกสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย ในฐานะองค์กรที่ผลักดันให้สินค้าไทยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้โดดเด่นเพื่อแข่งขันในตลาด ภายใต้การสนับสนุนของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า บรรจุภัณฑ์ถือว่ามีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในระดับโลก ดังจะเห็นได้จากความต้องการใช้ที่มากขึ้น ส่วนประเทศไทยคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2555-2560 ความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์จะมีมูลค่าถึง 200-250 พันล้านเหรียญสหรัฐ สมาคมฯ ในฐานะองค์กรที่คอยให้คำปรึกษาและแก้ไขปัญหาเรื่องการผลิตบรรจุภัณฑ์ในทุกด้านแก่ผู้ประกอบการไทย ได้วางหลักการในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ไทยไว้ด้วยกัน 3 ด้าน หรือที่เรียกว่า “3F” ประกอบด้วย Fashion บรรจุภัณฑ์ต้องมีความสวยงาม โดดเด่น ทันสมัย มีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เห็นแล้วสะดุดตา และง่ายต่อการจดจำ Function บรรจุภัณฑ์ต้องมีความคงทนแข็งแรง สามารถห่อหุ้มสินค้าให้ปลอดภัยไม่ชำรุด สะดวกในการหยิบจับ ง่ายต่อการขนส่งและการจัดวาง ที่สำคัญข้อมูลสินค้าต่างๆ ต้องชัดเจนครบถ้วน […]

Talent Thai และ Designer’s Room หนุนนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลก

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ได้มีการดำเนินโครงการดังกล่าว ต่อเนื่องมากว่า 10 ปี โดยมีนักออกแบบที่เคยเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 200 แบรนด์สร้างนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลกเป็นจำนวนมาก โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ร่วมเป็นพันธมิตรในการดำเนินกิจกรรมตลอดโครงการ ถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่จะช่วยต่อยอดโอกาสของนักออกแบบในอนาคต” โครงการ Talent Thai และ Designer’s Room จัดเป็นการเรียนรู้พัฒนาแบรนด์ในเชิงรุก เป็นโครงการที่สร้างโอกาสและเตรียมความพร้อมให้กับนักออกแบบที่จะพัฒนาธุรกิจให้ก้าวไกลสู่ตลาดต่างประเทศ ด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมที่เสริมความรู้แก่นักออกแบบ เช่น ความรู้ด้านการสรรหาวัตถุดิบ การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ รวมไปถึงความรู้ในเชิงการตลาด และช่วยขยายเครือข่ายด้านการผลิตและจัดจำหน่ายให้เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนสิงหาคม 2558 / www.ditp.go.th

ระบบการบริหารการค้าสินค้าที่ใช้ได้ สองทาง (Trade Management of Dual-Use Items : TMD) และระบอบควบคุมการส่งออกสากล (Multilateral Export Control Regime : MECR)

ปัจจุบันประเทศไทยได้นำบัญชีรายการสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (DUI) ของสหภาพยุโรป (EU List) มาใช้เป็นแนวทางในการจัดทำบัญชีรายการ DUI ของไทย เนื่องจาก EU List มีความเป็นสากลและได้รวบรวมรายการสินค้าที่ควบคุมตามระบอบควบคุมการส่งออกสากล (Multilateral Export Control Regime : MECR) ทั้ง 4 ระบอบหลักที่สำคัญเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย (1) ข้อตกลงวัสเซนนาร์ (Wassenaar Arrangements : WA) (2) ข้อตกลงการควบคุมเทคโนโลยีขีปนาวุธ (Missile Technology Control Regime : MTCR) (3) กลุ่มผู้จัดจำหน่ายนิวเคลียร์ (Nuclear Supplier Group : NSG) และ (4) กลุ่มออสเตรเลีย (Australia Group : AG) นอกจากนี้ EU List ยังรวมรายการสินค้าสารเคมีที่สามารถนำไปผลิตอาวุธเคมีของอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical […]

AEC Know How Now… รู้เท่าก้าวทันสนามแข่งขันอาเซียน

ซึ่งในฉบับนี้ AEC FOCUS ก็ขอนำเสนออีกหนึ่งกิจกรรมเสวนาที่น่าสนใจ ซึ่งจัดโดยสำนักพัฒนาตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชีย กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในภูมิภาคต่างๆ ในชื่อ “AEC Know How Now… รู้เท่าก้าวทันสนามแข่งขันอาเซียน” กิจกรรมภายใต้ “โครงการพัฒนาและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดอาเซียนในภูมิภาค” กระจายความรู้ด้านการทำธุรกิจส่งออกไปสู่ตลาดอาเซียนทั่วทุกภาคภูมิภาค อาทิ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคตะวันออก กิจกรรม “AEC Know How Now…รู้เท่าก้าวทันสนามแข่งขันอาเซียน” มีกำหนดจัดขึ้นทั้งหมด 5 ครั้ง ได้แก่ ครั้งที่ 1 จัดขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ (ภาคเหนือ) เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่ จ.สงขลา (ภาคใต้) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 และครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่ […]

จับกระแสสินค้าใส่ใจสุขภาพ รับระเบียบสินค้าไร้ “ไขมันทรานส์” ในสหรัฐฯ

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ระเบียบการห้ามใช้ไขมันทรานส์มีผลบังคับต่อสินค้าอาหารทั้งการผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกาและนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งผู้ส่งออกไทยควรเตรียมความพร้อมปรับปรุงกระบวนการใช้วัตถุดิบในการผลิต เพื่อให้ผลิตสินค้าอาหารไทยส่งไปยังสหรัฐอเมริกาปลอดไขมันทรานส์” โดยผู้ส่งออกไทยควรปรับสูตรสินค้าอาหารที่ผลิตให้เข้ากับระเบียบของเอฟดีเอ แต่ยังสามารถคงไว้ซึ่งรสชาติสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ดีเช่นเดิม จะทำให้เป็นจุดแข็งในการขยายตลาดสินค้าเหนือคู่แข่งให้เป็นที่รู้จัก นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มไลน์สินค้าโดยจัดหาสินค้าที่มีแคลอรี่ต่ำ เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต หรือเครื่องดื่มแคลอรี่ต่ำ ซึ่งตรงกับกระแสการใส่ใจต่อสุขภาพของคนอเมริกันและคนยุโรป และกำลังขยายตัวอย่างมากในซูเปอร์มาร์เก็ตของสหรัฐอเมริกาควบคู่ไปด้วยก็ได้ ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนสิงหาคม 2558 / www.ditp.go.th

DITP วางแผนเชื่อมหัวเมืองเศรษฐกิจรองรับ AEC

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมดังกล่าวว่า “ปัจจุบันการส่งออกไทยไปยังตลาด CLMV มีอัตราขยายตัว 8.8% หรือมีมูลค่า 231,130 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ไทยมีโอกาสผลักดันสูงสุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์พลาสติกและของใช้พลาสติก คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 30% ส่วนสินค้าเครื่องดื่ม คาดว่าจะส่งออกเพิ่มขึ้น 5% และสินค้าวัสดุก่อสร้างคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% จึงควรวางแผนเตรียมความพร้อมสำหรับในปี พ.ศ. 2559 ล่วงหน้า เพื่อจัดทำแผนกิจกรรมโดยเน้นโครงการเจาะตลาดการค้าในหัวเมืองหลักทางเศรษฐกิจของทุกประเทศ CLMV และโครงการขับเคลื่อนการค้าผ่านโมเดิร์นเทรด ทั้งนี้กรมฯ ได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมระหว่างเดือนมิถุนายน-กันยายน พ.ศ. 2558 ไว้แล้วประมาณ 15 ครั้ง อาทิ การจัดคณะผู้แทนการค้าธุรกิจบริการสุขภาพและความงามไปเจรจาการค้า ณ นครโฮจิมินห์ เวียดนาม การจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าอะไหล่จักรยานยนต์ไปฮานอย เวียดนาม การร่วมงานแสดงสินค้าในเมืองไพลิน และเมืองบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา และการจัดจับคู่ธุรกิจกลุ่มสินค้าธุรกิจเกษตรและเกษตรแปรรูปในกัมพูชา เป็นโอกาสสำหรับผู้ส่งออกไทยที่จะเข้าไปบุกตลาด CLMV ได้หลายช่องทางมากขึ้น ที่มาข้อมูล : DITP ชี้ช่องการค้า ประจำเดือนสิงหาคม 2558 […]

1 … 146 147 148 … 152