ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน
กำไรขาดทุน

7 ขั้นตอนคำนวณงบกำไรขาดทุน รู้ก่อนเก่งก่อน เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร

งบกำไรขาดทุน เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจในทุกประเภทต้องรู้ ดูเป็น ทำเป็น จัดการและควบคุมได้ เพราะธุรกิจจะไปต่อหรือพอแค่นี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีกำไรพอหรือไม่ หรือขาดทุนมากเกินไปหรือเปล่า มันจะช่วยให้ช่วยให้เจ้าของกิจการมองเห็นที่มาที่ไปของกำไร-ขาดทุนได้ชัดเจนขึ้น และสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์และวางแผนดำเนินธุรกิจต่อไปได้ หากคุณมีร้านอาหารต้องไม่พลาด!

กำไรขาดทุน

 

1.คิดกำไรเบื้องต้นก่อน

กำไรขาดทุน

กำไรขั้นเบื้องต้นหาได้จากการสมการ (ยอดขาย-ต้นทุนอาหาร) ผลลัพธ์ที่ได้คือกำไรที่จะบอกได้ว่าการบริหารต้นทุนของร้านเราดีมากน้อยเพียงใด และโดยทั่วไปแล้วต้นทุนควรอยู่ประมาณ 30-35% ของยอดขายรวมทั้งหมด เช่น มียอดขาย 10,000 บาท ต้นทุนควรอยู่แค่ 3,000 – 3,500 บาทกำลังดี

2.คำนวณค่าแรง

กำไรขาดทุน

ดูว่าใรร้านตัวเองมีพนักงานอยู่เท่าไร นำค่าแรงของพนักงานทั้งหมด รวมไปถึงค่าล่วงเวลา เบี้ยขยัน ค่าเดินทางหรือสวัสดิการอื่น ๆ มารวมกัน เกณฑ์ที่ดีนั้นยอดรวมควรอยู่ที่ 20-25% ของยอดขายทั้งหมด

3.คำนวณค่าเช่าที่

กำไรขาดทุน

ในส่วนนี้จะเป็นของคนที่ไม่มีทำเลร้านเป็นของตนเอง ต้องจ่ายค่าเช่าที่เป็นรายเดือนหรือรายปีตามแต่ตกลงกันมา ถ้าต้องการให้รายได้ไม่เหลือน้อยจนเกินไป ควรมีราคาค่าเชาที่อยู่ที่ 10-20% ของยอดขายก็พอ ใครไม่มีตรงส่วนนี้ก็สามารถนำไปพัฒนาด้านอื่นได้

4.ค่าใช้จ่ายแฝง

กำไรขาดทุน

ทุกธุรกิจจะมีค่าใช้จ่ายแฝงอยู่เสมอ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเสื่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ ค่าทำความสะอาด ภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าของใช้สินเปลือง และอื่น ๆ ดังนั้นเจ้าของธุรกิจต้องพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้ได้น้อยที่สุดถ้าอยากมีกำไรมากขึ้น

5.หาค่าเสื่อมต่าง ๆ

ค่าเสื่อมหมายรวมไปถึงเรื่องของตัวร้าน โครงสร้างที่อาจเกิดการผุพังได้  อุปกรณ์ เช่น หม้อ กระทะ เครื่องชงกาแฟ เครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างก็มีอายุการใช้งานของมัน ถ้าเกิดการเสื่อมก็ต้องมีการเปลี่ยนทันที หรืออาจเปลี่ยนยกชุดเลยก็ได้ สมมติว่า ตู้แช่แข็ง ราคา 50,000 บาท อายุการใช้งาน 5 ปี ตกปีละ 10,000 บาท ตกเดือนละ 833 บาท

6.ค่าประชาสัมพันธ์ร้าน

กำไรขาดทุน

งบนี้จะเป็นส่วนของงบการตลาด หลายร้านก็นำงบที่มีมาลงส่วนนี้ค่อนข้างมาก เพราะต้องการให้ร้านตัวเองเป็นที่รู้จัดในวงกว้าง จ้างคนมารีวิว ทำโปรโมชันการขาย ยิงแอดโฆษณาต่าง ๆ

7.กำไรสุทธิ

กำไรขาดทุน

ดูจาก 6 ข้อที่ผ่านมาแล้วมาเปรียบเทียบกับธุรกิจตัวเอง ถ้าคุณมียอดขายในแต่ละเดือนมากกว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กล่าวมา หมายความว่าธุรกิจมีกำไร เริ่มมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีมากเท่าไรยิ่งนำไปพัฒนาธุรกิจได้มากเท่านั้น หากผลลัพะ์ออกมาตรงกันข้าม ยอดขายแทบจะเท่าหรือน้อยกว่าต้นทุน นั่นคือสัญญาณไม่ดีต่อธุรกิจแล้ว ควรมาดูแล้วว่าจะทำอย่างไรให้กำไรมากขึ้น อาจทำสินค้าตัวใหม่มาดึงยอดขาย หรือไปจำกัดต้นทุนให้น้อยลงไปแทน

 

ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก

ติดตามบทความ How to ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก