ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นหนึ่งในประเภทการทำธุรกิจที่ยังคงได้รับความนิยมและทวีความนิยมสูงขึ้นในทุก ๆ ปี เพราะไม่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่ต้องไปหาลูกค้า ไม่ต้องเสียเวลาสร้างแบรนด์ แต่จะเป็นการลงทุนต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์นั้น ๆ มาทำต่อ สามารถลดระยะเวลาที่จะสร้างแบรนด์ตั้งแต่แรกไปได้ค่อนข้างมาก เห็นว่าดีแบบนี้ใช่ว่าจะไม่ต้องศึกษาอะไรก่อนเลย วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ต้องรู้ก่อนเริ่มลงทุนในธุรกิจ Franchise
1. ตรวจสอบความต้องการของตลาด
ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก่อนเริ่มธุรกิจใด ๆ ก็ตามต้องรู้ก่อนว่า “ตลาดต้องการจริงหรือไม่” เราจะต้องลองศึกษาให้มั่นใจก่อนว่าเทรนด์ธุรกิจในท้องตลาดภาพรวมยังมีความต้องการใช้บริการหรือซื้อผลิตภัณฑ์ของธุรกิจที่เราสนใจจะลงทุนอยู่หรือไม่ จุดนี้จะช่วยคัดกรองให้ระดับหนึ่งเลยว่าควรลงทุนหรือไม่ควรลงทุนในธุรกิจสินค้าประเภทใด การทำธุรกิจนี้เป็นแบบระยะยาว ดังนั้นก็ควรมองหาธุรกิจที่สามารถดำเนินกิจการไปได้ยาว ๆ ด้วยเช่นกัน หลักเช็กที่ควรมองมีดังนี้
- ธุรกิจที่จะลงทุนต้องน่าเชื่อถือ น่าไว้ใจ
- ดูการเติบโตของธุรกิจ จำนวนสาขา ยอดขายต่าง ๆ 2-3 ปีย้อนหลัง
- เจ้ของแบรนด์ต้องเก่ง เชี่ยวชาญ ประสบการณ์มากพอในวงการธุรกิจ
- กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจนั้นคือใคร
- ทำเลที่ทางแบรนด์กำหนดมาให้มีโอกาสทางธุรกิจมากน้อยเพียงใด
2.งบประมาณมีพอหรือไม่
การลงทุนแทบทุกอย่างย่อมจะต้องมีทุนในการเริ่มต้น แต่ละแบรนด์จะกำหนดราคา franchise มาอยู่แล้ว มีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งนั่นเป็นราคาค่าธรรมเนียม ค่าลิขสิทธิ์ ค่าอุปกรณ์ การก่อสร้างตกแต่งร้านต่าง ๆ คุณต้องดูก่อนว่าราคาที่เขาต่างมาสมเหตุสมผลหรือไม่ ให้อะไรมาบ้าง ราคานี้มีจุดคืนทุนนานเท่าไร แต่คุณมีทุนพอที่จะลงทุนหรือไม่ ในโลกความเป็นจริงไม่มีอะไรสวยงามในการทำธุรกิจ บางแฟรนไชส์ที่ว่าดี ราคาดี มีความคุ้ม พอเปิดแล้วอาจมีสถานการณ์บางอย่างหรืออุปสรรคมาขัดขวางได้ คุณต้องเผื่อใจในการขาดทุนด้วย ดังนั้นงบที่คุณมีควรครอบคลุมเผื่อในกรณีที่เลวร้ายที่สุดไว้เสมอ
3.ถามตัวเองว่าชอบจริงหรือไม่
การทำธุรกิจไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน หากคุณเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง อยากทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ชอบเรียนรู้ ไม่ค่อยทำตามกฏมาก คุณก็อาจไม่เหมาะสมกับธุรกิจแนวนี้สักเท่าไร เพราะธุรกิจแบบ Franchise คุณจะต้องทำตามกฏระเบียบ ข้อสัญญา ข้อบังคับที่ทางแบรนด์ต้นทางกำหนดมาอย่างเคร่งครัด แน่นอนว่าวิธีการดำเนินงานของต้นทางนั้นอาจจะต่างกับคุณ คุณอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่คุณอาจไม่สามารถทำตามความเห็นตัวเองได้ เพราะเราก็ต้องยึดกฏข้อบังคับเป็นหลัก หากคุณสามารถเป็นผู้ตามได้ อยู่ในกรอบได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าหลายอย่างมันรู้สึกถูกจำกัดก็อาจไม่เหมาะกับคุณจริง ๆ
4.คืนทุนเมื่อไร
การทำธุรกิจแน่นอนว่าต้องคาดหวังผลกำไรเป็นที่ตั้งอยู่แล้ว แต่ก่อนที่จะมีกำไรนั้น ต้องคืนทุนจากที่ลงทุนค่า Franchise เสียก่อน ดังนั้นก่อนจะลงทุน นอกจากจะดูราคาว่าพอไหวไหม รับได้หรือไม่ ต้องดูว่าระยะเวลาคืนทุนโดยเฉลี่ยประมาณเท่าไร ถ้าลงทุนสูงและคืนทุนในเวลา 1 ปี ยังพอรับได้ สมเหตุสมผล ไม่ช้าไป ไม่เร็วไป แต่ถ้าลงทุนน้อยลงมาอีกแต่คืนทุนก็หลักปีเหมือนเดิม ก็ต้องมาดูแล้วว่าโอเคจริงหรือไม่ อาจบอกเป็นนัยได้ว่าแบรนด์ของเขาขายได้ แต่ไม่ได้ดีมาก ฐานลูกค้าอาจเฉพาะกลุ่มสักหน่อย ทำให้การคืนทุนนั้นค่อนข้างช้า
5.ตรวจสอบสัญญาให้ดีก่อน
การตกลงทำสัญญานั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนเพราะมีเรื่องของกฏหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นทั้งสองฝ่ายจึงควรปรึกษาผู้ที่มีความรู้ในด้านนี้โดยเฉพาะก่อนที่จะตกลงทำสัญญา ในส่วนของค่าธรรมเนียมผู้ซื้อจะต้องรับรู้และเข้าใจในข้อตกลงว่ามีค่าธรรมเนียมอะไรบ้างที่ต้องจ่าย เช่น ค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่ายเป็นเงินก้อนให้เจ้าของแบรนด์ และอาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมที่แยกเป็นรายเดือนสำหรับบางแบรนด์ จะมี Marketing Fee และ Royalty Fee ที่มักจะเก็บประจำเป็นรายเดือนหรือรายปีแล้วแต่กำหนด
ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก
ติดตามบทความ How to ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก