ร้านขายของชำ เป็นร้านสะดวกซื้อฉบับบ้าน ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีตั้งแต่เด็ก และเป็นที่นิยมของคนไทยมาทุกยุคสมัย อีกทั้งใครที่คิดจะเปิดร้าน ทำกิจการ ร้านค้าแบบนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ไม่น้อย และสิ่งสำคัญไม่แพ้คุณภาพเลยคือ “การจัดร้าน” ให้น่าเข้าใช้บริการ ยิ่งร้านน่าดึงดูดมากเท่าไร ผลกำไรก็ดีขึ้นเท่านั้น ชี้ช่องรวยจึงจะมาแนะนำว่าควรจัดร้านอย่างไร ให้ลูกค้าอยากเข้ามาอุดหนุนซื้อสินค้า อยากใช้บริการ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน!
1.หาสีหลักของร้าน
อยากมีร้านท่สวยน่าเข้าใช้ก็ต้องเริ่มจากธีมหลักก่อนว่าจะใช้สีอะไรดี เลือกสีที่ชอบ แต่แนะนำว่าให้เลือกเป็นสีที่เรียบ สะอาดตา เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจในทุกครั้งที่เข้าร้าน เมือได้สีหลักแล้ว ทีนี้ก็มาเลือกชั้นวางของทั้งขนาด สี วัสดุให้เข้าคู่กับสีของร้าน จงจำไว้ว่าร้านของคุณไม่จำเป็นต้องดีที่สุด สวยที่สุด หรูที่สุด แต่ต้องดึงดูดสายตาคนให้ได้ เมื่อร้านคุณน่าสนใจ เดี๋ยวลูกค้าจะเข้ามาเอง
2.จัดหมวดหมู่สินค้า
ร้านขายของเขาก็มักจะคล้ายสินค้าคล้ายคลึงกัน แต่คุณจะโดดเด่นขึ้นมาถ้าคุณจัดประเภทหมวดหมู่ให้กับสินค้าในร้าน เมื่อแบ่งสินค้าและจัดวางแต่ละประเภทให้ชัดเจนแล้ว ลูกค้าจะหาสินค้าได้ง่ายขึ้น คุณก็จะมีโอกาสขายของได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นดูว่าสินค้าไหนเป็นสินค้าอุปโภค สินค้าไหนเป็นสินค้าบริโภค จากนั้นก็ค่อยแบ่งเรียงตามชั้นต่าง ๆ เมื่อลูกค้าหาสินค้าที่ต้องการได้เร็ว ง่าย และสะดวก ร้านขายของชำของคุณก็จะปิดการขายได้เร็วขึ้น แล้วก็มีพื้นที่การต้อนรับลูกค้าใหม่ ๆ เข้าร้านเร็วขึ้น
3.จัดกลุ่มสินค้าตัวเดียวกัน
เวลาเข้าไปในร้านค้า เราอาจจะเห็นพวกน้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำมัน หรือข้าวของอื่น ๆ ว่าไว้รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ นั่นแหละคือหนึ่งในวิธีการจัดร้านอย่างหนึ่ง ลูกค้าจะรู้สึกว่าสินค้าตัวนั้น ๆ ขายดี ร้านขายดี ทำให้เกิดความรู้สึกอยากซื้อและอยากลองสินค้านั้น ๆ แม้จะไม่เคยใช้หรือซื้อมาก่อน เป็นกลวิธีเล็ก ๆ ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าไม่น้อยเลยทีเดียว
4.สินค้ายอดฮิตต้องหยิบจับง่าย
ก่อนจะเปิดร้านเอาอาจไปสำรวจบริเวณโดยรอบก่อนว่าลูกค้าชอบหรือมักจะซื้อสินค้าตัวใดบ่อยที่สุด แสดงว่าสินค้านั้นต้องขายดี เราก็เอาจุดนี้มาเป็นวิธีการจัดร้านโดยนำสินค้าที่คนสนใจมาวางไว้บนชั้นในระดับสายตาเพื่อให้ลูกค้าหยิบจับได้ง่ายมากขึ้น สินค้าไหนที่ขายไม่ค่อยดีก็วางไว้ไกลสายตาหน่อย ในทางกลับกันถ้าอยากดันยอดขายสินค้าที่ขายไม่ค่อยดี ก็เปลี่ยนตำแหน่งมาไว้ในระดับสายตาเพื่อให้ลูกค้าเห็นง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้นด้วย
5.ทางเดินในร้านสัญจรสะดวก
การทำทางเดินในร้านให้สะดวกก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้ดี ถ้ามีทางเดินแต่ไม่ทั่วถึง วางของเกะกะขวางทาง ร้านก็จะดูไม่สวย ไม่น่าเข้าใช้บริการ สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ตั้งใจและไม่ใส่ใจของเจ้าของร้านได้อีกด้วย ทางเดินร้านควรมีการเดินเชื่อมถึงกันครบทุกจุด เพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินหาสินค้าอื่น ๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ดังนั้นต้องเผื่อพื้นที่ในการจัดของ เก็บของ และจัดวางเรียงสินค้าด้วย
6.เรียงของตามขนาดสินค้า
การจะจัดร้านให้ดูเป็นระเบียบและสะอาดตานั้นควรวางสินค้าตามลำดับขนาด สินค้าที่ชิ้นเล็ก เบาให้วางไว้ด้านบนบน สินค้าที่ขนาดใหญ่กว่าก็ให้ไล่ระดับลงมาตามลำดับ ลูกค้าจะสามารถมองไล่ระดับได้อย่างสบายตา อีกทั้งยังช่วยลูกค้าเวลาหยิบของอีกด้วย ลองคิดดูว่าหากเราวางสินค้าชิ้นใหญ่และหนักไว้ด้านบน เวลาลูกค้าต้องการจะหยิบลำบาก หนักเกินไปอาจทำสินค้าหลุดมือจนเกิดความเสียหายและบาดเจ็บได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุก็ควรวางตามลำดับสินค้าจะดีกว่า
7.แสงไฟเพียงพอ
ลองเปรียบเทียบกันว่าระหว่างร้านค้าที่มีแสงฟสว่าง vs ร้านค้าที่มองไปแล้วดูมืด ๆ ทึบ ๆ คุณจะเลือกเข้าร้านแบบไหน หากร้านมีแสงสว่างเพียงพอนอกจากจะช่วยเรื่องป้องกันอุบัติเหตุในการเดินชนของแล้ว ยังช่วยเรื่องการอ่านฉลากสินค้าได้อีกด้วย มีแสงไฟพอเพียงลูกค้าก็จะหาสินค้าได้ง่ายมากขึ้น อ่านฉลาก อ่านสรรพคุณ ดูวันหมดอายุของสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ถ้าแสงสว่างไม่พออาจทำให้การค้าขายเป็นไปได้ยากมากขึ้น
ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก
ติดตามบทความ How to ที่น่าสนใจได้ที่ : คลิก