OYO Hotels and Homes (โอโย โฮเทลส์ แอนด์ โฮมส์) เครือข่ายธุรกิจโรงแรม บ้านพัก คอนโด และพื้นที่สำนักงานที่ใหญ่เป็นลำดับ 2 ของโลก เปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีห้องพักกว่า 8,000 ห้อง จาก 250 โรงแรม ใน 13 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ, พัทยา, ภูเก็ต และ หัวหิน ตอบรับกระแสการท่องเที่ยวในราคาที่พักที่เข้าถึงได้ง่าย เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ OYO Hotels (โอโย โฮเทลส์) ประสบความสำเร็จจากการขยายเครือข่ายโดยเริ่มต้นจากการเป็นสตาร์ทอัพด้านธุรกิจโรงแรมที่พักในประเทศอินเดียโดยเทคโอเวอร์โรงแรมพร้อมรีโนเวทให้เป็นที่พักรองรับนักท่องเที่ยวจากจำนวนห้องเริ่มต้นเพียง 10 ห้อง ในปี 2013 พร้อมทั้งขยายการตลาดในรูปแบบแฟรนไชส์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาแฟลตฟอร์มแอพพลิเคชั่น OYO โดยหาพันธมิตรผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่พักขนาดกลาง-เล็ก ในราคาห้องพักเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยจนไปถึงหลักพันบาท ที่ผ่านมาได้ดำเนินธุรกิจและเป็นผู้นำในตลาดธุรกิจเครือโรงแรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม และยังมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนวิธีการท่องเที่ยวของนักเดินทางทั่วโลก ด้วยการนำเสนอที่พักที่มีคุณภาพ ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย บนโลเคชั่นที่ดีที่สุดทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยโอโยได้นำโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาปรับใช้ ซึ่งรวมการออกแบบ การบริการ ทักษะด้านเทคโนโลยี ความเชี่ยวชาญทางการเงิน และความสามารถในการดำเนินธุรกิจมาใช้ในประเทศไทย ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกับ โอโยได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น เข้าถึงโอกาสในการปิดการจองที่พักได้ง่ายขึ้น มีการปรับปรุงคุณภาพและมอบบริการที่น่าประทับใจให้แก่ลูกค้า โดยทุกที่พักในเครือโอโยได้รับการการันตีการให้บริการ เครื่องปรับอากาศ ฟรี Wifi โทรทัศน์ และบริการผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอนที่สะอาดสำหรับผู้เข้าพักทุกคน
คุณอัลปานา ดูเบ, อุปทูต ณ สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้มีการคาดการว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียเดินทางมาที่ประเทศไทยมากกว่า 2 ล้านคน ดังนั้นโอโยจึงจะมีบทบาทสำคัญในการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของการท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างแน่นอน
“โอโย คือหนึ่งในความสำเร็จทางธุรกิจของประเทศอินเดีย โดยเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับไม่เพียงเฉพาะในประเทศอินเดีย แต่จากนักเดินทางทั่วโลก ดิฉันมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่โอโยเข้ามาให้บริการในประเทศไทย และขออวยพรให้โอโยประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้” คุณอัลปานา กล่าวเสริม
คุณมัณดา ไวดิย่า, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตะวันออกกลาง, โอโย กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหม่สำหรับโอโย แต่ด้วยศักยภาพของประเทศ โอโยมั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นตลาดที่สำคัญต่อการเติบโตทางธุรกิจของโอโยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“มาเลเซียถือเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่โอโยเปิดให้บริการ นอกเหนือจากในประเทศอินเดีย ปัจจุบันโอโยให้บริการที่พักในมากกว่า 160 เมืองทั่วโลก ผ่านแฟรนไชส์และโรงแรมกว่า 2,500 แห่งในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นหลังจากเราเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย”
“การขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทโดยการเปิดให้บริการในประเทศไทย จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายซึ่งได้แก่ การมีห้องพักภายใต้การดูแลจัดการของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวม 2 ล้านห้อง ภายในปี ค.ศ. 2025 ซึ่งจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย อีกทั้งจำนวนเที่ยวบินสู่ประเทศไทยที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราบรรลุถึงเป้าหมายอย่างแน่นอน”
“เราดีใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ให้บริการในประเทศไทย ผ่านจุดขายของโอโย ซึ่งคือการให้บริการห้องพักที่สวยงาม ทันสมัย สะดวกสบาย โลเคชั่นดี ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย” คุณมัณดา กล่าวเสริม
ด้าน คุณอชูโตช สิงห์, ผู้อำนวยการบริหาร ประจำประเทศไทย, โอโย กล่าวว่า “ภารกิจของโอโยคือการปรับปรุงคุณภาพของอสังหาริมทรัพย์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มีรายได้ระดับปานกลาง และคนในชุมชนได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้ชีวิตในแบบ #LivingTheGoodLife
“อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการนั้นกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงทางนวัตกรรม โดยมีวิวัฒนาการที่ก้าวหน้าเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเทคโนโลยียังเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาธุรกิจในปัจจุบัน โอโยมีความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาลไทยและหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการมอบบริการใหม่ ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในประเทศไทย เราตั้งใจที่จะมอบห้องพักที่มีคุณภาพ และประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เพลิดเพลินให้กับทุกคนในประเทศไทย พร้อมช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับผู้ประกอบการโรงแรมอิสระในประเทศในขณะเดียวกัน”
“เรามั่นใจกับการเติบโตของเราในประเทศไทยแม้จะเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันเรามีห้องพักกว่า 8,000 ห้อง ใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ โอโยเห็นความต้องการของตลาดสำหรับที่พักราคาระดับกลางถึงบนในประเทศไทย และตั้งเป้าที่จะขยายธุรกิจโอโยในประเทศให้แข็งแกร่ง” คุณอชูโตช กล่าวสรุป
โอโย ได้ปฏิวัติเครือข่ายธุรกิจห้องพักราคาประหยัดในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยได้เพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานจัดการโรงแรมให้แก่กลุ่มเจ้าของธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กผ่านการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาช่วยต่อยอด ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการสามารถแข่งขันกับกับเครือโรงแรมขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ได้อย่างสำเร็จ และยังมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโมเดลทางธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จสู่เจ้าของกิจการโรงแรมทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ผ่านรวมเอาเอกลักษณ์ทางด้านการดีไซน์ การบริการ นวัตกรรมที่ล้ำสมัย ประกอบกับการบริหารทางด้านการเงินและการดำเนินการทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า มีอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนลูกค้าที่เข้าพัก เพิ่มผลกำไรที่เกิดขึ้นจากการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโอโย
เปิดตัว OYO สัญชาติอินเดีย เครือข่ายธุรกิจโรงแรมที่พัก รองรับตลาดท่องเที่ยวไทยบูม