How to

5 เทคนิคสร้างคุณค่าแบรนด์ เพิ่มความไว้ใจ สร้างสายใยกับลูกค้า

การสร้างคุณค่าแบรนด์ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากในวงการธุรกิจทั่วโลก เพราะมันเป็นการสร้างความไว้วางใจ ความเชื่อใจ และความผูกพันกับกลุ่มเป้าหมายของเราโดยตรง เพื่อให้มีเอกลักษณ์และคุณภาพที่ลูกค้าต่างพึงพอใจ จะมีอะไรบ้างที่เพิ่มคุณค่าให้แบรนด์เราได้ ไปดูกัน! 1.หากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ กลุ่มเป้าหมายเป็นเรื่องสำคัญลำดับแทบจะแรกสุดในธุรกิจ เพราะพวกเขาคือคนนำเงินมาให้เราแลกกับความต้องการของตัวเอง แบรนด์จะแข็งแกร่งได้ก็ขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายด้วย อีกทั้งเราจำเป็นต้องเข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายเรานั้นต้องการอะไร เจอปัญหาอะไร แล้วปัญหานั้นเราแก้ได้หรือไม่ และข้อดีของการรู้กลุ่มเป้าหมายคือ เราจะได้ปรับปรุงสินค้า-บริการของแบรนด์เราให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นได้ คุณค่าในตัวก็มากขึ้นตามไปอีก 2.หาเอกลักษณ์แบรนด์ เอกลักษณ์แบรนด์จะช่วยทำให้แบรนด์ของเราดูแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ สะท้อนค่านิยมหลักของแบรนด์ ทำให้เห็นวิสัยทัศน์ขององค์กรได้มากขึ้นว่าใส่ใจผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด ทำให้ความเชื่อใจของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ควรสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ การใช้สี โลโก้ และการออกแบบที่สอดคล้องกับเอกลักษณ์ของแบรนด์จะช่วยสร้างการจดจำในใจของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 3.สื่อสารอย่างเข้าใจง่าย จะสร้างคุณค่าทั้งทีก็ต้องมีการสื่อสารที่ดีด้วย และการสื่อสารที่ดีก็ควรสื่อความด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ควรใช้ศัพท์เฉพาะที่ซับซ้อนหรือมีการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน เพราะอาจทำให้ลูกค้าเกิดความสับสนและไม่เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณมีประโยชน์อย่างไร ควรใช้ภาษาเรียบง่ายที่สื่อถึงคุณสมบัติเด่นของผลิตภัณฑ์และประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับอย่างชัดเจน หรือจะเพิ่มกรณีศึกษาเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นด้วยก็จะดีมาก 4.สื่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เครื่องมือที่ทรงพลังมากที่สุดในการสื่อสารและทำการตลาดก็คงหนีไม่พ้น “โซเชียลมีเดีย” ทั้ง Facebook Instagram TikTok หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายของเราใช้ เพื่อสื่อสารและแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของแบรนด์เรา อาจมีคอนเทนต์สนุก ๆ แคมเปญ การรีวิว กรณีศึกษาต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือเข้าไปอีกก็ได้ 5.ติดตามผลและปรับปรุง […]

ไอเดียสร้างอาชีพ ขายหมูสะเต๊ะ ลงทุนต่ำ กำไรสูง พร้อมแจกสูตรทำขายจริง!

อาชีพขายหมูสะเต๊ะ เป็นหนึ่งในอาชีพที่เห็นได้ง่ายทั่วไปและดูธรรมดามาก ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า นี่เป็นช่องทางสร้างรายได้ที่ปลดหนี้มาแล้วหลายคน เพราะเป็นเมนูที่ทานง่าย ทานเมื่อไรก็ได้ จะเป็นของทานเล่นหรือเมนูหลักก็ได้ทั้งนั้น วันนี้เราไปดูกันว่าจะเปิดร้าน “ขายหมูสะเต๊ะ” ต้องใช้อะไร งบเท่าไรบ้าง? วัตถุดิบที่จำเป็น สันนอกหมู 120 – 150 บาท/กิโลกรัม กระเทียม 30 – 40 บาท/กิโลกรัม ผงขมิ้น 10 – 15 บาท/50 กรัม ผงกะหรี่ 15 – 20 บาท/50 กรัม น้ำตาลทราย 20 – 25 บาท/กิโลกรัม เมล็ดผักชีโขลก 20 – 30 บาท/100 กรัม กะทิ 50 – 60 บาท/ลิตร นมสด 20 – 25 […]

7 เทคนิคจัดร้านขายของชำให้น่าเข้า ลูกค้าอยากอุดหนุน มีเงินตุงกระเป๋า

ร้านขายของชำ เป็นร้านสะดวกซื้อฉบับบ้าน ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีตั้งแต่เด็ก และเป็นที่นิยมของคนไทยมาทุกยุคสมัย อีกทั้งใครที่คิดจะเปิดร้าน ทำกิจการ ร้านค้าแบบนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์ไม่น้อย และสิ่งสำคัญไม่แพ้คุณภาพเลยคือ “การจัดร้าน” ให้น่าเข้าใช้บริการ ยิ่งร้านน่าดึงดูดมากเท่าไร ผลกำไรก็ดีขึ้นเท่านั้น ชี้ช่องรวยจึงจะมาแนะนำว่าควรจัดร้านอย่างไร ให้ลูกค้าอยากเข้ามาอุดหนุนซื้อสินค้า อยากใช้บริการ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน! 1.หาสีหลักของร้าน อยากมีร้านท่สวยน่าเข้าใช้ก็ต้องเริ่มจากธีมหลักก่อนว่าจะใช้สีอะไรดี เลือกสีที่ชอบ แต่แนะนำว่าให้เลือกเป็นสีที่เรียบ สะอาดตา เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจในทุกครั้งที่เข้าร้าน เมือได้สีหลักแล้ว ทีนี้ก็มาเลือกชั้นวางของทั้งขนาด สี วัสดุให้เข้าคู่กับสีของร้าน จงจำไว้ว่าร้านของคุณไม่จำเป็นต้องดีที่สุด สวยที่สุด หรูที่สุด แต่ต้องดึงดูดสายตาคนให้ได้ เมื่อร้านคุณน่าสนใจ เดี๋ยวลูกค้าจะเข้ามาเอง 2.จัดหมวดหมู่สินค้า ร้านขายของเขาก็มักจะคล้ายสินค้าคล้ายคลึงกัน แต่คุณจะโดดเด่นขึ้นมาถ้าคุณจัดประเภทหมวดหมู่ให้กับสินค้าในร้าน เมื่อแบ่งสินค้าและจัดวางแต่ละประเภทให้ชัดเจนแล้ว ลูกค้าจะหาสินค้าได้ง่ายขึ้น คุณก็จะมีโอกาสขายของได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นดูว่าสินค้าไหนเป็นสินค้าอุปโภค สินค้าไหนเป็นสินค้าบริโภค จากนั้นก็ค่อยแบ่งเรียงตามชั้นต่าง ๆ เมื่อลูกค้าหาสินค้าที่ต้องการได้เร็ว ง่าย และสะดวก ร้านขายของชำของคุณก็จะปิดการขายได้เร็วขึ้น แล้วก็มีพื้นที่การต้อนรับลูกค้าใหม่ ๆ เข้าร้านเร็วขึ้น 3.จัดกลุ่มสินค้าตัวเดียวกัน เวลาเข้าไปในร้านค้า เราอาจจะเห็นพวกน้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำมัน หรือข้าวของอื่น […]

5 วิธีหาไอเดียธุรกิจ มือใหม่อยากมีร้านต้องไม่พลาด

ไอเดียธุรกิจเป็นสิ่งที่จำเป็นสุด ๆ สำหรับการสร้างธุรกิจ เพราะทุกวันนี้้มีธุรกิจมากมายหลายร้านค้า ขายสินค้าแบบเดียวกันก็มากโข ดังนั้นจะหาไอเดียอย่างไรเพื่อให้สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้ มีอะไรบ้างไปดู! 1.หาสิ่งที่ตัวเองชอบก่อน เริ่มทำธุรกิจทั้งทีก็ต้องโฟกัสที่ความชอบของตัวเอง เพราะเมื่อเราชอบอะไรเรามักจะทำออกมาได้ดีและมีใจที่อยากจะทำสิ่งนั้น หา Passion ตัวเองให้เจอก่อนว่าอยากทำอะไร อยากทำจริง ๆ ใช่หรือไม่ แล้วค่อยไปสเต็ปต่อไป 2.เอาปัญหามาเป็นโจทย์ การทำธุรกิจเป็นเหมือนกันตอบสนองความต้องการของลูกค้า แก้ปัญหาให้ลูกค้า เป็นหนึ่งในตัวช่วยให้ลูกค้าสบายขึ้นได้ในทางใดทางหนึ่ง ถ้าคุณเจอปัญหาสักอย่างแล้วยังไม่มีใครมาแก้ปัญหานั้นให้กับคุณได้ คุณก็สามารถเอาจุดนี้มาทำธุรกิจได้ 3.ไปตามงานอีเวนต์ พวกงานอีเวนต์ขายอาหาร งานมหกรรมสินค้าต่าง ๆ มักจะมีร้านค้า หลากหลายประเภทธุรกิจ จุดนั้นทำให้เราได้เห็นภาพการทำธุรกิจที่ชัดเจนมากขึ้น รู้เลยว่าธุรกิจไหนที่ไก้รับความนิยม สินค้าไหนที่ผู้บริโภคชอบก็จำตรงนั้นมาเป็นไอเดียต่อยอดต่อไปได้ 4.เดินทางท่องเที่ยว ข้อนี้จะคล่ายกับการไปงานอีเวนต์แต่จะอยู่ในขอบเขตที่กว้างกว่า สมมุติไปเที่ยวเชียงใหม่ เห็นสินค้าหรืออาหารในเชียงใหม่ที่อร่อย ดี ได้รับความนิยมแต่ในโซนบ้านที่อยู่อาศัยตัวเองยังไม่มีเลย สามารถนำเมนูนั้นมาเปิดได้เพื่อให้คนระแวกบ้านได้สมัผัสกลิ่นอายความเป็นเชียงใหม่โดยไม่ต้องไปถึงเชียงใหม่ จุดนี้ก็ถือเป็นไอเดียที่ไม่เลวสำหรับผู้เริ่มต้น 5.สองหัวดีกว่าหัวเดียว คิดหาไอเดียคนเดียวอาจไม่ได้ผล คงต้องหาใครสักคนมาด้วย ไม่ว่าจะครอบครัว เพื่อน แฟน หรือหุ้นส่วนมาช่วยหาไอเดียที่ดีว่าจะทำอะไรดี สมองที่มากขึ้น มุมมองที่แตกต่างอาจสร้างเส้นทางใหม่ในการทำธุรกิจได้ ติดตามบทความอื่น ๆ ได้ที่ : คลิก […]

หนึ่งเดียวในไทย! “หมูกรอบเร็กเก้” ท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ขายวันละ 50 กิโลกรัม ชั่วโมงเดียวหมด

ร้านขายอาหารไม่จำเป็นต้องสวยหรู ขอเพียงแค่คุณภาพดี รสชาติอร่อย ราคาเหมาะสม อยู่ตรงไหนก็ขายได้ เช่นเดียวกันกับ ร้านหมูกรอบเร็กเก้ ที่ชี้ช่องรวยอยากจะมานำเสนอในวันนี้ กำลังเป็นกระแสอย่างมาก เรียกได้ว่าคิวยาวเหยียดขายหมดใน 1 ชั่วโมง คุณติ๊ก เจ้าของ “ร้านหมูกรอบเร็กเก้” ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ป “ไม่อร่อยให้เตะ น้ำจิ้มรสชาติบัดซบ” ก่อนหน้านี้ตนเป็นช่างซ้อมรถบัส ในช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมาไม่มีงานทำให้ขายรายได้ จึงตัดสินใจลาออก และเริ่มหันมาขายอย่างจริงจัง ด้วยความที่เป็นช่างมาก่อนไม่ได้มีความรู้ด้านค้าขายเริ่มชายช่วงแรกในช่วงฤดูฝน ทำให้ขายไม่ได้ ขาดทุนจนเกือบจะถอดใจเลิกขาย เงินทุนก้อนสุดท้ายในชิวิตก็จะหมด แต่ยังโชคดีที่มีแฟนเป็นคนให้กำลังใจให้สู้ต่อ ตนจึงหันมาสู้อีกครั้งโดยใช้รถมอเตร์ไซค์คันเก่าที่มีอยู่มาทำเป็นร้านต่อที่ตั้งตู้กระจกด้านหลัง แล้วมาขายอีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้มีลูกค้าเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น มีคนถ่ายไปลงโซเชียลมากขึ้น จนมียูทูปเปร์ชื่อดังมาถ่ายรายการคนก็ยิ่งรู้จักมากไปอีก สำหรับความโดดเด่นที่ไม่เหมือนใคร คุณติ๊ก บอกว่า ตนเป็นคนภาคเหนืออยู่ จ.แพร่ แม่ของตนทำแคปหมูขายเป็นอาชีพ จึงนำเอามาดัดแปลงจนได้ความกรอบออกมาไม่เหมือนใคร จะเป็นสไตล์แคปหมูกึงหมูหัน ซึ่งหากดูหน้าตามันก็อาจจะเหมือนกับทั่ว ๆ ไป แต่รสชาติและรสสำผัสแตกต่างจากที่อื่นอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีน้ำจิ้มสูตรพิเศษอย่าง ซีฟีด และน้ำจิ้มหวาน ไว้ทานคู่กัน จำหน่ายในราคาขีดละ 70 บาท 3 ขีด […]

5 เทคนิค Viral Marketing สร้างคอนเทนต์ดีให้ดัง ปังและโดน

Viral Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในยุคโซเชียลมีเดีย เป็นการสร้างเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่น่าสนใจ น่าตื่นเต้น สร้างกระแสเพื่อให้เข้าถึงสายตาและความคิดของผู้ชมให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ หากแบรนด์อยากทำแคมเปญขายสินค้าอะไรสักอย่างหนึ่ง ก็มักจะใช้วิธีนี้ทำการตลาดในการโปรโมตและขายสินค้าได้มากขึ้น จะมีอะไรบ้างไปดู! 1.หาไอเดียสร้างสิ่งใหม่ การทำคอนเทนต์ที่ดีต้องมีไอเดียที่ใหม่ มีความแปลก แตกต่างถึงจะสร้างให้เป็นไวรัลดัง ๆ ได้ คุณอาจไปหาหนังดูสักเรื่อง ไปท่องเที่ยวที่ใหม่ ๆ ไปต่างประเทศ ไปเอาวัฒนธรรมอะไรบางอย่างที่อาจดูแปลจากวัฒนธรรมเรามาดัดแปลงทำเป็นกระแส หรือถ้าไม่อยากไปก็ลองหาไอเดียจากสื่อออนไลน์หรืออ่านหนังสือ อาจช่วยให้คุณหาไอเดียที่แปลกมาใช้งานได้ 2.เข้าใจฐานผู้ชมตัวเอง ก่อนจะทำการตลาดในรูปแบบใดก็ตามต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายตัวเองเป็นอย่างไร ทำความเข้าใจพวกเขาให้ลึกซึ้ง คอยดูว่าปัญหาและความต้องการของคนกลุ่มนี้คืออะไรบ้าง แล้วหาวิธีสร้างคอนเทนต์นำเสนอจูงใจเขาให้ดู ให้เขาถูกใจ พร้อมสอดแทรกวิธีแก้ปัญหาที่เขาเจออยู่เข้าไปด้วยก็ได้ ยิ่งกลายเป็นไวรัลเท่าไรยิ่งดี แบรนด์คุณจะมีภาพลักษณ์ทางบวกขึ้น ยอดขายก็อาจบวกตามไปด้วย 3.เล่าเรื่องกระตุ้นต่อมผู้ชม ผู้ชมมักชอบเรื่องราวที่น่าสนใจ เรื่องราวที่น่าค้นหา อาจเริ่มมาด้วยการตั้งคำถาม หรือสร้างสถานการณ์เรื่องราวที่ทิ้งปมไว้อย่างนึง ไม่รู้ว่ามันจะจบอย่างไร อาจทำเป็นหนัวสั้นเล็ก ๆ หรือคลิปถ่ายทั่วไปตรง ๆ เลยก็ได้ แต่มาโฟกัสที่เรื่องราวมากกว่าว่าจะเล่าอย่างไรให้คนติดตาม ที่สำคัญต้องกระตุ้นอารมณ์ผู้ชมให้ได้ด้วย ให้เกิดการแชร์ออกไปในวงกว้าง คิดเลยว่าอยากให้ผู้ชมรู้สึกอย่างไร หัวเราะ สนุกสนาน ตกใจ ชวนคิดตาม ประหลาดใจ หรือเศร้าอินไปกับเนื้อหา 4.สั้น กระชับ […]

สร้างอาชีพ ขายผักพื้นบ้าน ภายนอกดูเรียบง่าย แต่รายได้ใช่ย่อย

อาชีพขายผักพื้นบ้าน เป็นอาชีพที่มองดูแล้วอาจดูธรรมดา เรียบง่าย แต่กลับมีรายได้ที่ไม่ธรรมดา สามารถขายตามตลาดนัดหรือออนไลน์ก็ได้ มีพื้นที่ในบ้านก็สามารถปลูกได้ หรือใครอยู่คอนโดก็สามารถเริ่มจากพื้นที่เล็ก ๆ ได้เช่นกัน หาผักที่ชอบแล้วสามารถลองดูได้ เมล็ดพันธุ์ที่ต้องเตรียม ผักบุ้ง: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง คะน้า: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง กวางตุ้ง: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง ผักชี: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง ผักกาดขาว: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง โหระพา: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง กะเพราเขียว: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง ขึ้นฉ่าย: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง ใบแมงลัก: ราคาประมาณ 10 บาทต่อซอง อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยอินทรีย์ 50 – 200 บาท/กระสอบ ดินปลูก 50 […]

5 วิธีสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้โดนใจ ใช่สำหรับผู้บริโภค เห็นแล้วเชื่อใจ น่าใช้บริการ

การสร้างภาพลักษณ์ เป็นหนึ่งในวิธีสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถแข่งขันกับแบรนด์อื่น ๆ ได้อย่างสูสี เพราะนอกจากคุณภาพสินค้าและบริการแล้ว ก็มีภาพลักษณ์องค์กรด้วยที่จะต้องมีคุณภาพเช่นเดียวกัน ให้ลูกค้าเห็นแล้วเกิดความมั่นใจ ไว้ใจ เชื่อใจ ในองค์กรของคุณ แล้วจะสื่อสารเรื่องนี้ไปได้อย่างไรลองไปหาคำตอบกัน! 1.First Impression ครั้งแรกย่อมสำคัญเสมอ ถ้าลูกค้ายังไม่ได้รู้จักแบรนด์เรา หรือยังไม่เคยใช้สินค้าของเรามาก่อน การสร้างประสบการณ์แรกนั้นจำเป็นที่สุด ลูกค้าจะรู้เลยว่าแบรนด์คุณเป็นอย่างไรตั้งแต่แรกเห็น อาจเห็นแบรนด์คุณจากเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย คำบอกเล่า ถ้าแบรนด์คุณมีดีไซน์ที่สวย ดูดี เรียบง่าย มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ ก็สามารถสร้างความประทับใจและรู้สึกดีต่อแบรนด์คุณได้ 2.ขายจุดเด่นของสินค้า ทุกสินค้าต่อให้จะเหมือนกันแต่ก็จะต้องมีตุดแตกต่างที่เป็นขอโดดเด่นของตนเอง ไม่ว่าคุณภาพ สีสัน รูปทรงบรรจุภัณฑ์ วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ราคา ให้ใช้จุดนั้นเป็นตัวชูโรงในการขายสินค้า เพื่อสร้างมูลค่าและคุณค่าในตัวมันเอง 3.ตอบคอมเมนต์อย่างฉลาด ในโลกออนไลน์ใช่ว่าจะมีแต่คอมเมนต์ด้านบวกเสมอไป คอมเมนต์ด้านลบก็มีมากไม่น้อยเช่นเดียวกัน แต่มันอยู่ที่ว่าจะจัดการคอมเมนต์เหล่านั้นอย่างไร ไม่นิ่งเฉย ผิดก็แก้ ลูกค้าไม่พอใจก็ไปขอโทษ ภาพของแบรนด์จะดูเป็นเชิงบวกมากขึ้น น่าเข้ามามากยิ่งขึ้น 4.สร้างการมีส่วนร่วมบนโลกออนไลน์ ทุกช่องทางบนโลกออนไลน์ทั้ง Website Facebook Instagram TikTok ฯลฯ เราจำเป็นต้องสื่อสารกับผู้บริโภค โต้ตอบกับลูกค้า ทั้งการพูดคุย จัดกิจกรรม […]

5 เทคนิคการตั้งชื่อแบรนด์ จดจำง่าย ลูกค้าจำได้ งานขายก็รอด

การตั้งชื่อแบรนด์ เป็นเทคนิคสำคัญในการสร้างภาพจำและการจดจำให้กับลูกค้า บางคนอาจมองเป็นเรื่องเล็ก แต่ความจริงมันส่งผลต่อรายได้อย่างมาก หากต้องการให้สินค้าเป็นที่รู้จัก น่าจดจำ ก็ต้องตั้งชื่อที่ดึงดูดความสนใจได้มากพอ เพราะนั่นจะเป็นสิ่งแรกที่คนจะกล่าวถึง แล้วจะมีหนทางอะไรบ้างในการตั้งชื่อ ไปดูกันเลย! 1.ชื่อยาวไป คนไม่จำ ชื่อแบรนด์ที่ดีไม่จำเป็นต้องตั้งให้ยาว คำยิ่งยาวยิ่งทำให้จำยากมากขึ้น ตอนที่เราต้องโฆษณาจะยุ่งยากสุด ๆ หากชื่อแบรนด์ยาวจนไม่สามารถเขียนจบได้ในย่อหน้าสั้น ๆ ในช่วงเวลาที่คนมักเลื่อนผ่านหน้าจอ หากชื่อสินค้าของมีความยาวประมาณ 4 พยางค์ จะถือว่าดำลังดี อ่านได้ง่าย กวาดตามองทีเดียวก็รู้ หรือ หากจะใช้คำสองคำรวมกัน แต่อาจจะเกิน 4 พยางค์ไปสักหน่อย แต่ทำให้คนเข้าใจ หรือง่ายต่อการออกเสียงก็ยังถือว่าได้อยู่ เลือกใช้คำที่มีความหมายจบในคำเดียว ไม่ต้องยืดเยื้อ 2.ชื่อสั้นไปก็ไม่ได้อีก การตั้งชื่อสั้นให้กระชับ เข้าใจง่าย อ่านแล้วรู้เลยนั้นว่าขายอะไรนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ แต่ข้อควรระวังมันก็มีด้วยเช่นกันว่าคำที่เราใช้นั้นสื่อไปไหนทางไหนใดบ้าง บางคำที่ห้วนเกินไปก็อาจก่อให้เกิดความสับสนได้ และต้องดูด้วยว่าพยางค์เดียวที่เราเลือกใช้นั้นไปซ้ำกับชื่อของสินค้าแบรนด์อื่นหรือไม่ด้วย ซ้ำมากก็มีโอกาสโดนฟ้องได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจำนวนคำที่เหมาะสม สั้น เข้าใจง่ายจึงสำคัญที่สุด 3.คำนึงถึงความหมายของคำ การเลือกใช้คำนั้นก็ควรเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเสมอ เพราะคำแต่ละคำนั้นมีความหมาย บางคำมีมากกว่า 1 ความหมาย […]

เจ๊งไม่เป็นท่า! 5 ปัจจัยเสี่ยงส่งธุรกิจลงหลุมแบบโตไม่ขึ้น

ทุกธุรกิจย่อมมีปัจจัยเสี่ยงแฝงอยู่เสมอ อยู่ที่ว่าคุณจะไม่ทำให้มันเกิดขึ้นได้หรือเปล่า ต้องวางแผนให้ดีจริง ๆ ก่อนริเริ่มทำธุรกิจเพื่อกันการเจ็บตัว ดังนั้นชี้ช่องรวยขอมาบอก 5 ปัจจัยเสี่ยงส่งธุรกิจลงหลุมแบบโตไม่ขึ้น ใครกำลังเป็นให้รีบแก้ไขโดยไว 1.เป็นเดอะแบก หลายคนมักเริ่มต้นธุรกิจด้วยตัวเองคนเดียว ขอฉายเดี่ยวจะอุ่นใจกว่า แต่นั่นก็เพิ่มโอกาสสูงที่จะทำงานหลายอย่างมากเกินไป บ้างาน เพราะด้วยข้อจำกัดและความจำเป็นหลายอย่าง แต่เมื่อธุรกิจเติบโตได้ระดับหนึ่งแล้วคุณยังเป็นคนทำงานทุกอย่างเหมือนอย่างที่เคยเป็น จะทำให้กรอบความคิดในการที่จะหาโอกาสหรือทำให้ธุรกิจเติบโตก็จะถูกจำกัด หรือสู้คนที่เชี่ยวชาญกว่าไม่ได้ หมายความว่า คุณกำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับคู่แข่ง 2.”พอ ใจ แล้ว” ความพึงพอใจเป็นดาบสองคมจริง ๆ การพอใจในสิ่งที่มีก็ถือว่าให้ความสงบทางใจ พอใจเท่าที่มีแค่นี้พอแล้ว แต่โลกของธุรกิจนั้นคนละเรื่อง พอใจได้แต่ต้องไม่หยุด การพอใจแล้วเหมือนการย่ำอยู่ที่เดิม ไม่ต้องการไปมากกว่านี้ นั่นทำให้คุณถดถอยลงไปเรื่อย ๆ เพราะธุรกิจมันต้องโตและโตไม่หยุด ถ้าคุณพอใจในสิ่งที่เป็นตอนนี้แสดงว่าคุณเริ่มตามหลังแล้ว และธุรกิจคุณจะสู้คู่แข่งไม่ได้ไปเรื่อย ๆ จนเจ๊ง 3.ไม่วางแผน ไม่ว่างไว้ก็เหมือนเดินเรือโดยไร้เข็มทิศ ไม่มีจุดหมาย ไม่มีเป้าหมาย เคว้งคว้าง การทำธุรกิจต้องมีแผนไว้เสมอทั้งระยะสั้น กลาง ยาว แผนที่ดีก็ควรรวมถึงจุดที่บริษัทหรือองค์กรกำลังจะไปถึงในอีก 3-5 ปีข้างหน้าเมื่อคิดเกี่ยวกับการขยายบริษัท คุณเองจำเป็นต้องคำนึงและทำการวิจัยตลาด การวิเคราะห์การตลาดของคู่แข่ง พฤติกรรมผู้บริโภค และวางกลยุทธ์ให้ธุรกิจคุณ หากไม่มีข้อมูลและการวางแผนทีดี คุณจะไม่สามารถทำให้บริษัทเติบโตได้ […]

ไอเดียสร้างอาชีพ น้ำแข็งไส ทีเด็ดสู้อากาศร้อนเมื่องไทย ต้องลงทุนเท่าไรบ้าง?

“น้ำแข็งไส” อีกหนึ่งเมนูของหวานที่น่าจะขายดีไม่แพ้ไอศกรีมในช่วงที่อากาศประเทศไทยเข้าเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะมีฝนอยู่บ้าง วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาแนะนำอาชีพนี้ว่าจะต้องทำอย่างไร ใช้งบลงทุนเท่าไร พร้อมกับแจกสูตรให้ไปทำขายสร้างกำไรกันด้วย เรามาดูกันเลยว่าจะต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง วัตถุดิบที่จำเป็น น้ำหวานสีต่าง ๆ 5 สี 175 บาท นมข้นหวาน 21 บาท/กระป๋อง น้ำตาลทราย สำหรับทำน้ำเชื่อม 21 บาทต่อกิโลกรัม น้ำแข็งหลอด 10 บาท/ถุง ขนมปังปอนด์ 25 บาท/ปอนด์ เฉาก๊วย 10 บาท/ก้อน วุ้น 10 บาท/ก้อน เยลลี่รูปตุ๊กตา 50 บาท/ถุง ถ้วยโฟม 70 บาท/ 100 ใบ ช้อนพลาสติก 40 บาท/ 100 […]

7 ขั้นตอนคิดกำไร ขาดทุน รู้ก่อนเก่งก่อน เหมาะสำหรับเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร

ขั้นตอนคิดกำไร ขาดทุน เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจในทุกประเภทต้องรู้ ดูเป็น ทำเป็น จัดการและควบคุมได้ เพราะธุรกิจจะไปต่อหรือพอแค่นี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณมีกำไรพอหรือไม่ หรือขาดทุนมากเกินไปหรือเปล่า มันจะช่วยให้ช่วยให้มองเห็นที่มาที่ไปของกำไร-ขาดทุนได้ชัดเจนขึ้น นำข้อมูลไปวิเคราะห์และวางแผนดำเนินธุรกิจต่อไปได้ หากคุณมีร้านอาหารต้องไม่พลาด! 1.คิดกำไรเบื้องต้นก่อน กำไรขั้นเบื้องต้นหาได้จากการสมการ (ยอดขาย-ต้นทุนอาหาร) ผลลัพธ์ที่ได้คือกำไรที่จะบอกได้ว่าการบริหารต้นทุนของร้านเราดีมากน้อยเพียงใด และโดยทั่วไปแล้วต้นทุนควรอยู่ประมาณ 30-35% ของยอดขายรวมทั้งหมด เช่น มียอดขาย 10,000 บาท ต้นทุนควรอยู่แค่ 3,000 – 3,500 บาทกำลังดี 2.คำนวณค่าแรง ดูว่าใรร้านตัวเองมีพนักงานอยู่เท่าไร นำค่าแรงของพนักงานทั้งหมด รวมไปถึงค่าล่วงเวลา เบี้ยขยัน ค่าเดินทางหรือสวัสดิการอื่น ๆ มารวมกัน เกณฑ์ที่ดีนั้นยอดรวมควรอยู่ที่ 20-25% ของยอดขายทั้งหมด 3.คำนวณค่าเช่าที่ ในส่วนนี้จะเป็นของคนที่ไม่มีทำเลร้านเป็นของตนเอง ต้องจ่ายค่าเช่าที่เป็นรายเดือนหรือรายปีตามแต่ตกลงกันมา ถ้าต้องการให้รายได้ไม่เหลือน้อยจนเกินไป ควรมีราคาค่าเชาที่อยู่ที่ 10-20% ของยอดขายก็พอ ใครไม่มีตรงส่วนนี้ก็สามารถนำไปพัฒนาด้านอื่นได้ 4.ค่าใช้จ่ายแฝง ทุกธุรกิจจะมีค่าใช้จ่ายแฝงอยู่เสมอ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเสื่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ […]

5 ปัญหาร้านอาหารที่ผู้ประกอบการต้องเจอ แก้ได้ก็ไปต่อ จมบ่อก็เสี่ยงเจ๊ง

หลายคนคงกำลังเจอกับปัญหาร้านอาหารที่แก้ยังไม่ตก หรือยังไม่รู้ว่าถ้าเจอแบบนี้ควรแก้ไขอย่างไร บ้างก็เพราะยังไม่มีประสบการณ์ คิดว่าธุรกิจร้านอาหารน่าจะไปได้ดีก็ลองดูเลย โดยอาจยังไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่มากมายเสียเหลือเกิน การทำร้านอาหารไม่ใช่แค่คุณภาพ ราคา รสชาติอร่อย แต่ต้องบริหารจัดการเรื่องยิบย่อยให้เป็น งั้นปัญหานั้นมีอะไรบ้าง? 1.ตั้งราคาไม่เป็น แค่การตั้งราคาเหมือนจะง่ายแต่เอาเข้าจริงต้องมีการคิดอยู่มากพอสมควร จะตั้งตามความพึงพอใจของตัวเองอย่างเดียวหรือตั้งราคาให้ใกล้เคียงกับคู่แข่งนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะต้นทุนการผลิตมันคนละอย่างกัน การตั้งราคาควรเอาต้นทุนการทำของเราเป็นที่ตั้ง คำนวณให้ดีว่าวัตถุดิบที่ใช้มีกี่อย่าง ต้องแจกแจงออกมาละเอียดเลยว่าค่าวัตถุดิบ เครื่องปรุง ค่าแก๊ส ค่าน้ำ บรรจุภัณฑ์ รวมออกมาเป็นเท่าไร ถ้าขืนตั้งราคามั่วซั่วไปอาจขาดทุนได้ง่าย ๆ และควรทำกับทุกเมนูในร้าน 2.ทำเลไม่ดี ลูกค้าหาไม่เจอ เข้าใจว่าหลายคนที่อยากเปิดร้านอาหารคงมีทำเลบ้าง หรือไม่ก็ไปหาซื้อทำเลสักที่หนึ่งเพื่อให้ได้เปิดร้าน การมีทำเลว่าสำคัญแต่การพิจารณาว่าทำเลนั้นสมควรจะเปิดร้าน ทำธุรกิจหรือไม่นั้นสำคัญกว่า เราคงเคยเห็นพวกร้านลับ ร้านคาเฟ่ที่หายาก แล้วลูกค้าชอบไป ถ้าคุณเจ๋งพอแบบนั้นก็มีโอกาสไปต่อได้บ้าง แต่ความเป็น ร้านอาหาร กับ คาเฟ่ นั้นมันต่างกัน คาเฟ่จะเป็นพวกวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ คนวัยทำงานบ้างที่ชอบการค้นหา อยากไปที่แปลกใหม่ แต่ร้านอาหารคือไปเป็นครอบครัว มีผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุบ้าง ถ้าหายาก อยู่ในซอยลึก ดูเปลี่ยว ลูกค้าก็ไม่เลือกจะไป หรือต่อให้ทำเลคุณมีคนสัญจรเยอะ […]

7 ทักษะผู้บริหารที่ควรมี หลักสำคัญช่วยธุรกิจโตอย่างมีคุณภาพ

ทักษะผู้บริหาร ถิอเป็น Soft Skill ในรูปแบบหนึ่งที่ควรมีติดตัวและต้องมีให้ได้ การจะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องของเงินทอง โอกาสหรือประสบการณ์ในสายอาชีพนั้นเพียงอย่างเดียว แต่ทักษะสำคัญในการบริหารก็ควรมีด้วยเช่นกัน จะฉลาดแต่ด้าน IQ ไม่พอ ต้องมี EQ ที่สูงด้วยถึงจะปกครองคนได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่าทักษะอะไรบ้างที่คนเป็นผู้บริหารควรมี เพื่อพาพนักงานและบริษัทให้เจริญเติบโต 1.ทักษะด้านอารมณ์ เจ้าของกิจการจำเป็นต้องมีทักษะการจัดการอารมณ์ที่ดี ฉลาด ต้องพยายามหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในด้านอารมณ์ของผู้อื่นว่าเป็นอย่างไร จากนั้นวิเคราะห์ให้มองเห็นถึงคำตอบ เมื่อรู้ต้นตอปัญหาก็จะแก้ไขได้ง่าย กลายเป็นคนที่ควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ โดยง่าย 2.ทักษะการโน้มน้าวใจ ศิลปะการพูดเป็นอาวุธสำคัญในการดำเนินธุรกิจและการบริหารทั้งบริษัทและพนักงาน พูดดี โน้ใน้าวได้ดีก็มักส่งผลดีให้กับทุกฝ่าย โน้มน้าวเรื่องการขายก็สามารถทำยอดขายได้ โน้มน้า่วพูดคุยกับพนักงานก็ช่วยให้ทุกคนคล้อยตามคำพูด เชื่อมั่น เชื่อฟังได้ สามารถนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จระยะยาวได้ไม่ยาก 3.ทักษะการสื่อสาร การจะโน้มน้าวใครได้ แรกเริ่มต้องฝึกการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพเสียก่อน เพราะแต่ละคนมีลักษณะ เทคนิคในการสื่อสารต่างกันออกไป การสื่อสารไม่ได้จำกัดเพียงแค่คำพูดอย่างเดียว แต่รวมไปถึงกริยา สีหน้า ท่าทาง น้ำเสียงต่าง ๆ ถ้าเราสามารถจับจุดถูกว่าคู่สนทนากำลังรู้สึกอย่างไร การสื่อสารจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น 4.ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ความคิดสร้างสรรค์เป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยต่อยอดธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ ความคิดทีี่แปลก แหวกแนวแต่ยังสร้างสรรค์จะทำให้เกิดไอเดีย แนวคิดใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ สามารถสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น […]

5 เทคนิคสร้าง Interactive Content เพิ่มการมีส่วนร่วม เน้นสนุก คอเมนต์ แชร์โพสต์

Interactive Content เป็นหนึ่งในเทคนิคทางการตลาดที่เน้นความสนุกสนานกับผู้ติดตาม สร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อคาดหวังการตอบกลับ การมีส่วนร่วมจากผู้ชม ยิ่งมีผู้ชมมาคอมเมนต์ แชร์ออกไปมากเท่าไร ยิ่งเพิ่มยอด engagement และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีมากขึ้นเท่านั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะทำให้คอนเทนต์นี้เสร็จสมบูรณ์ 1.ตั้งคำถามง่าย โดยทั่วไปคอนเทนต์นี้เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชมอยู่แล้ว อาจตั้งคำถามง่าย ๆ ลงแพลตฟอร์มที่ถนัดอย่าง Facebook จะใช้เป็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเราโดยตรงก็ได้ หากคุณเปิดร้านอาหาร ก็ลองตั้งคำถามว่า “เมนูในวัยเด็กของคุณคืออะไร?” แล้วให้ผู้คนมาแชร์ประสบการณ์ในวัยเด็กว่าชอบทานอะไรกัน ชอบเมนูแบบไหน ทำให้เกิดการโต้ตอบ เกิดการแสดงความคิดเห็น กระตุ้นความสนใจของผู้คนได้อย่างมาก 2.ทำโพลสอบถาม ไม่ว่าจะช่องทาง Facebook หรือ Instagram จะมีฟังก์ชันสร้างโพลได้โดยเฉพาะ ลองออกแบบโพล สร้างคอนเทนต์ให้ลูกค้าเลือกว่าชอบแบบใดมากกว่ากัน เพื่อสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่ง หรืออาจสำรวจทิศทาง กระแสนิยม ในประเด็นอื่น ๆ เพื่อสร้าง Engagement เพิ่มเติม โดยไม่ได้มีวาระพิเศษก็ได้ เช่น “เส้นบะหมี่กลม vs เส้นบะหมี่แบน” ก็สามารถรู้ได้เบื้องต้นว่าผู้ติดตามชอบเส้นแบบใดมากกว่ากัน 3.ทำโพสต์ให้คนมาเมนต์ หลายคนคงเคยเห็นโพสต์ถามคำถาม หรือสุ่มเลือกคน เช่น “จงบอกความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์ ถูกใจสุ่มแจกของ” โพสต์แนวนี้จะกระตุ้นให้ลูกค้าที่ชอบอุดหนุนเราเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก […]

เลือกทำเลต้องรู้ ! 5 วิธีหาพื้นที่ตั้งร้านให้ลูกค้าชอบ เรียกเงินรับทรัพย์ได้ทั้งปี

การเลือกทำเล เป็นหนึ่งในสิ่งที่ควรพิถีพิถันมากเป็นพิเศษ เพราะการตั้งร้านขึ้นมาสักหนึ่งร้านก็ควรจะหาพื้นที่ที่เหมาะสมมากที่สุดเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจเราเอง เราจะได้ยินบ่อยครั้งว่า “พื้นที่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” นั่นไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย ยิ่งเป็นพื้นที่ที่คนเห็นเรามากเท่าไร ผลดีก็ยิ่งเกิดขึ้นมากเท่านั้น วันนี้เราจะมาบอกว่ามีวิธีอะไรบ้างที่ควรใช้เพื่อเลือกพื้นที่ที่ใช้ให้กับคุณ 1.ลงพื้นที่จริง การจะหาพื้นที่ที่เหมาะสมได้นั้นก็ควรลงไปดูพื้นที่จริงว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นอย่างไร ที่สำคัญคือ กลุ่มเป้าหมายของเรามีอยู่ในบริเวณนั้นหรือไม่ เช่น เราตั้งกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นนักเรียน – นักศึกษา แต่พื้นที่ที่ไปดูไม่ได้ใกล้เคียงกับกลุ่มเป้าหมายเลย อาจเป็นพนักงานออฟฟิศมากกว่า คุณก็ต้องเลือกแล้วว่าจะเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ได้พื้นที่ที่มี หรือเปลี่ยนไปหาที่ใหม่เพื่อให้ใกล้กับกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ 2.เข้าถึงได้ง่าย หากพื้นที่นั้นใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมายดีแล้ว แต่การเข้าถึงนั้นยากเกินไปก็ดูไม่เหมาะสม เพราะภาพรวมของพื้นที่ที่ดีนั้นควรจะมีการเดินทางที่เข้าถึงง่าย เข้าได้หลายทาง มีที่จอดรถสะดวกสบาย จะเดิน ขับรถ นั่งรถไฟฟ้าควรจะสะดวกทางใดทางหนึ่ง หากผ่านเกณฑ์ก็ถือว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นขุมทองที่น่าจับจองอย่างมาก 3.ค้นหาคู่แข่งในพื้นที่ จุดสำคัญไม่แพ้กันในการหาพื้นที่ตั้งร้านคือ คู่แข่ง หากพบว่ามีคู่แข่งมากก็อาจทำให้การแข่งขันรุนแรงขึ้น มีการแย่งลูกค้ากันค่อนข้างมาก แต่ขณะเดียวกันก็ถือเป็นโอกาสในการดึงดูดลูกค้าให้มาที่ร้านของคุณเช่นกัน ดังนั้นควรพัฒนาสินค้าและบริการให้เหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกมาซื้อของที่ร้านของคุณ ทว่าหากพบว่ามีคู่แข่งน้อย ก็ถือเป็นโอกาสทองที่จะสร้างความประทับใจในบริการตั้งแต่ครั้งแรกที่ลูกค้าเข้ามา เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างภาพจำให้กับลูกค้า และเมื่อพวกเขาคิดอยากจะซื้อสินค้าสักชิ้น ก็มักจะคิดถึงร้านคุณเป็นอันดับแรก ก็จะส่งผลให้ธุรกิจของคุณเติบโต 4.ราคาค่าเช่า ค่าเช่า เป็นตัวแปรสำคัญที่พลิกสถานการณ์ของหลายธุรกิจมามากมาย เพราะพื้นที่ที่ดี ราคาค่าเช่าจะสูงก็ไม่แปลก แต่ก็ต้องสูงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม และสอดคล้องกับงบประมาณที่ตัวเองมีด้วย ถ้าเกินตัวเกินไปมันก็คงอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือน สู้หาที่ที่ดีน้อยลงหน่อย […]

7 วิธีการเปิดร้านขายของให้ไม่เสี่ยงขาดทุน รู้ก่อนดีกว่า ไม่พลาดท่าเมื่อเริ่มทำ

การเปิดร้านขายของชำ หรือ ร้านค้าปลีก ถือเป็นธุรกิจที่อยู่คู่กับสัคมบ้านเรามาอย่างยาวนาน และเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมอยู่เรื่อย ๆ หลายคนที่มองเห็นธุรกิจนี้ว่าน่าทำ พอทำได้ มีโอกาสสร้างงาน สร้างอาชีพ แต่ถ้าไม่รู้อะไรเลยก็เสี่ยงเจ๊งแน่นอน วันนี้ชี้ช่องรวยจึงขอมาบอกวิธีสักเล็กน้อยที่จะช่วยให้คุณลงทุนได้แบบไม่เสี่ยงขาดทุน 1.บริหารจัดการแบบยุคใหม่ ยุคใหม่ในที่นี้คือการทำร้านให้สู้กับร้านสะดวกซื้อได้ สามารถสแกนจ่ายเงินได้ มีการทำบัญชี คำนวณต้นทุนให้ชัดเจน สต๊อกของมีเท่าไร อันไหนใกล้หมดอายุ อันไหนควรเติมต้องรู้ แบ่งหมวดหมู่สินค้าให้ชัดเจน เมื่อทุกอย่างเป็นระบบลูกค้าก็ใช้ง่าย เจ้าของก็บริหารง่าย 2.หาสินค้าที่ตรงความต้องการกลุ่มเป้าหมาย ทั่วไปเราจะใช้การคาดคะเนเอาว่าสินค้าประเภทใดจะขายได้บ้างโดยไม่ได้มองว่าลูกค้าบริเวณนั้นมีความต้องการแบบใด หากร้านตั้งในพื้นที่ชุมชนมีหมู่บ้าน โรงเรียน จากที่จะขายเพียงข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน อาจเพิ่มพวกดินสอ ยางลบ ปากกาเพื่อดึงดูดนักเรียนให้มาซื้อ เป็นการขยายฐานลูกค้าอย่างหนึ่ง 3.ความประทับใจแรกสำคัญ การบริการและการอำนวยความสะดวกยังไงก็สำคัญ ภายในร้านควรมีไฟส่องสว่างชัดเจน ป้ายร้านที่มองไกล ๆ ก็เห็น จะเพิ่มตู้ Vending หน้าร้านก็ช่วยให้ครบวงจรมากขึ้น และอย่าลืมการบริการที่เป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เหวี่ยงวีน 4.สร้างจุดแข็งของร้าน การเป็นร้านค้าปลีกธรรมดาก็ไม่ได้ผิดแต่ควรพิเศษมากขึ้นกว่านี้ สร้างที่ส่วนกลางให้คนมานั่งพูดคุย มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งผ่อนคลาย มีตู้กดน้ำ ตู้ขนมจำหน่าย เหมือนคาเฟ่ out door ไปในตัว 5.ติดราคาให้เด่นชัด […]

มนุษย์เงินเดือนฟัง! อยากมีธุรกิจต้องรู้ 4 สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนลาออกมาเปิดกิจการ ลดความเสี่ยงก่อนเกิดผลเสีย

มนุษย์เงินเดือนตอนนี้คงมีความคิดที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง อาจเพราะเหนื่อยจากการทำงานเดิม ๆ สภาพแวดล้อม เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน อยากมีเวลามากกว่านี้ กำหนดเวลาทำงานเองได้ อยากเป็นนายตัวเอง หรือ ต้องการรายได้ที่ดีขึ้นมากกว่านี้ แต่จู่ ๆ จะเปลี่ยนเลยก็ไม่ได้ วันนี้เราจะมาบอกว่า ก่อนลาออกจากงานต้องเตรียมตัวอย่างไรสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ 1.เตรียมพร้อมเรื่องค่าใช้จ่าย ข้อดีของการเป็นพนักงานประจำคือ ความมั่นคง รายได้แน่นอน ไม่ต้องเสี่ยงอะไรมาก แต่การมีธุรกิจเองนั้นตรงกันข้าม คุณต้องแบกค่าใช้จ่าย ๆ ต่าง ๆ เองทั้งหมด ดังนั้นก่อนลาออกต้องมาดูก่อนว่าค่าใช้จ่ายประจำตัวเองมีอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเดินทาง หรือค่าผ่อนอื่น ๆ ที่ยังค้างอยู่ ควรตรวจสอบดูให้หมดว่ามีอะไรบ้าง รวมแล้วเท่าไรต่อเดือน และต้องมีเผื่อฉุกเฉินไว้ด้วยอย่างน้อย 30% ของรายจ่ายทั้งหมดเพื่อป้องกันความเสี่ยง 2.ประเมินรายรับ การเป็นพนักงานประจำย่อมมีความมั่นคงทางการเงินมากกว่า เพราะยังไงก็จะได้เงินเท่าเดิมแน่ ๆ ทุกเดือน จึงไม่ต้องกังวลใด ๆ เรื่องเงิน แต่ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะลาออก ก็ต้องประเมินและจัดการให้ดีว่ารายรับที่จะได้จากธุรกิจส่วนตัวจะเพียงพอกับรายจ่ายที่มีหรือไม่ ถ้าธุรกิจที่จะทำมีแนวโน้มหรือสามารถหารายได้ได้มากกว่ารายจ่ายที่มีก็ไม่มีปัญหา สามารถออกได้อย่างสบายใจ 3.เงิบเก็บจำเป็นมาก ในโลกของธุรกิจนั้นมีความเสี่ยงมากกว่าความแน่นอน […]

6 ทริคหาลูกค้าใหม่ให้ธุรกิจ ก้าวหน้าต่อเนื่อง เติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง

ทุกธุรกิจจำเป็นต้องหาลูกค้าใหม่อยู่เสมอ เพื่อให้ธุรกิจโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีความก้าวหน้า สร้างรากฐานลูกค้าที่รักและภักดีต่อแบรนด์ให้แข็งแรงขึ้นไปอีก เพราะลูกค้าที่ดีและมีจำนวนมากจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้ดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น งั้นเราจะมาดูกันว่ามีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ ๆ ได้ 1.ใช้ฐานข้อมูลเดิมหาลูกค้ากลุ่มใหม่ ทุกร้านย่อมมีฐานข้อมูลลูกค้าเดิมเก็บไว้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดอยู่แล้ว เราก็นำข้อมูลนั้นมาจำแนกแยกหมวดหมู่และวิเคราะห์ใหม่ให้ข้อมูลเป็นปัจจุบัน เช่น เพศ อายุ ความสนใจ สินค้าที่ชอบ รายได้ อาชีพ พฤติกรรมการซื้อต่าง ๆ แล้วนำจุดเชื่อมโยงไปหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ต่อไป 2.ฝากบอกต่อ การบอกต่อได้ผลดีกว่าการทำสื่อโปรโมตหลายเท่ามาก เพราะคนจะเชื่อคำพูดคนรอบข้างหรือคนสนิทมากกว่าสื่อที่เน้นขาย เน้นโปรโมตมากกว่าอยู่แล้ว เราอาจให้ลูกค้าประจำของเราฝากบอกต่อหรือแนะนำร้านเราให้หน่อยว่าดีอย่างไร สินค้าโฮเคหรือไม่ น่าอุดหนุนแค่ไหน ถ้าเขาแนะนำลูกค้าใหม่ ๆ มาได้ อาจมอบส่วนลดพิเศษให้เป็นการตอบแทนก็ได้ 3.ทำโปรโมชันเรียกแขก โปรโมชันเป็นสิ่งที่ลูกค้าทุกคนใฝ่หา ไม่ว่าจะลด แลก แจก แถม ขอแค่ให้มันดูคุ้มดว่าซื้อแบบปกติก็สนใจทั้งสิ้น ถ้าสินค้าเราเป็นสินค้าที่เข้ากันได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย การทำโปรโมชันนี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าหน้าเก่าและใมห่เข้ามาใช้บริการได้มากขึ้น ลูกค้าเก่าที่ชอบอยู่แล้วก็ชอบขึ้นไปอีก ลูกค้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาแล้วชอบในสินค้าก็มีโอกาสกลับมาซื้อว็ำ กลายเป็นลูกค้าประจำของร้านต่อไป 4.เทรนพนักงานขายหน้าร้าน ลูกค้าจะชอบหรือไม่มันก็ขึ้นอยู่กับการบริการด้วยเช่นกัน บริการดีมีชัยไปเกินครึ่ง พนักงานต้องมีใจรักการบริการ รู้ลึกทุกข้อมูลสินค้าเพื่อแนะนำที่ถูกต้อง ตรงประเด็น ชัดเจน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี […]

สร้างอาชีพ กาแฟโบราณ อร่อยมานานหลายปี การันตีความนิยม

กาแฟโบราณ เป็นหนึ่งในเมนูคลาสสิกวัยเด็กของใครหลายคน ด้วยความง่าย อร่อย เข้มข้น เข้ากับชีวิตประจำวันของคนไทย หลายคนอาจมองเป็นแค่เครื่องดื่มธรรมดา แต่วันนี้มันคือ อาชีพที่สร้างรายได้มหาศาล ลงทุนง่าย คืนทุนไว ใครอยากรู้วิธีสร้างรายได้จากกาแฟโบราณแบบครบสูตร รอติดตามกันได้เลย! วัตถุดิบที่จำเป็น ผงกาแฟ 1 กก. 117 บาท ผงชาไทย 450 ก. 140 บาท ผงชาเขียว 450 ก. 95 บาท ผงโกโก้ 200 ก. 140 บาท ผงโอวัลติน 700 ก. 138 บาท นมข้นหวาน 2 กก. 150 บาท นมข้นจืด 1 ลิตร 58 บาท น้ำตาลทราย 5 กก. 135 บาท ครีมเทียม […]

5 เทคนิคการบริหารเงินในธุรกิจขนาดเล็ก – SME ตัวช่วยดี ๆ สร้างรากฐานให้ธุรกิจมั่นคง

การบริหารเงินในธุรกิจที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจไปต่อได้อย่างไม่มีสะดุด เพราะนี่ถือเป็นหน้าที่สำคัญในการบริหารธุรกิจ ยิ่งบริงานเงินดีเท่าไร มันจะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีเสียรภาพและมั่นคงมากยิ่งขึ้น การทำกิจการต่าง ๆ หรือการพัฒนาธุรกิจให้ยกระดับขึ้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย วันนี้เราจะมาบอกวิธีดี ๆ ว่า ทำอย่างไรได้บ้างถึงจะบริหารเงินได้อย่างดี 1.ตรวจสอบกระแสเงินสดสม่ำเสมอ กระแสเงินสดที่หมุนเวียนในธุรกิจนั้นมีความสำคัญอย่างมาก คนเป็นเจ้าของธุรกิจควรจะต้องรู้ว่าบัญชีบริษัทมีเงินสดเท่าไร ยังพอมีทุนที่สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้หรือไม่ ถ้าจะให้ดีก็ควรตรวจสอบบัญชีทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อเราจะได้ทราบถึงจำนวนรายรับรายจ่าย รวมถึงเงินที่ยังคงค้างชำระ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาวิเคราะห์สถานการณ์และวางแผนการบริหารจัดการเงินสดเพื่อนำไปใช้จ่ายต่อไปได้ 2.เก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบระเบียบ การทำเรื่องการเงิน แน่นอนว่าจะต้องทำในรูปแบบของบัญชีรายรับ-รายจ่าย เพื่อให้ได้ทราบว่าตอนนี้สถานการณ์การเงินของธุรกิจเป็นอย่างไร ดังนั้นควรแบ่งสัดส่วนการทำบัญชีให้ชัดเจน รายจ่ายอะไรบ้าง รายรับอะไรบ้าง อันไหนค้างชำระ ต้องทำให้ดูง่าย เพื่อที่เวลากลับมาตรวจสอบอีกครั้งจะได้ไม่สับสน 3.คิดก่อนใช้ทุกครั้ง เรื่องการเงินเป็นเรื่องที่ยากและละเอียดอ่อนมาก ดังนั้นจะใช้อะไรก็ควรคิดก่อน ประเมินรายรับที่คาดว่าจะได้รับแล้วนำมาเทียบราคาต้นทุนก่อนที่คุณจะซื้ออะไรก็ตามครั้งต่อไป คิดก่อน คิดถูก ใช้อย่างฉลาด เงินก็เหลือมากพอที่จะนำไปต่อยอดส่วนอื่น ๆ ได้ 4.ตัดค่าใช้จ่ายบางตัว เชื่อว่าแทบทุกที่จะมีรายจ่ายฟุ่มเฟือย หรือคือ ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น อันไหนลดได้ให้ลดออกไป อันไหนยังไม่จำเป็นต้องหาซื้อใช้ก็ให้ตัดออกไปก่อน ไว้ถึงคราวจำเป็นแล้วค่อยหาซื้อมาก็ย่อมได้ เรียกว่าอะไรหยัดได้ ก็ขอให้ประหยัดไปก่อน ถ้าวันข้างหน้าธุรกิจเราเติบโตไปไกลมากกว่านี้ก็ค่อยฟุ่มเฟือยมากขึ้นต่อไปได้ แต่ก็ขอให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดี 5.หาที่ปรึกษาทางการเงิน หลายคนเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก หรือ […]

สายงานอาชีพอิสระควรรู้! ฟรีแลนซ์ต้องจัดการภาษีอย่างไรให้ถูกต้อง

อาชีพอิสระ หรือ ฟรีแลนซ์ เป็นสายงานที่ทั้งเวลานี้และคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจสูงขึ้นต่อเนื่อง เพราะสามารถบริหารงานและเวลาได้เอง เลือกรับงานเองได้ ไม่ต้องฟังคำสั่งเจ้านาย เรียกว่ามี “ความอิสระ” เต็มที่ แต่หลายคนอาจลืมไปว่ายังต้องมีการเสียภาษีด้วยนะ วันนี้ชี้ช่องรวยก็จะมาบอกวิธีการสำหรับฟรีแลนซ์ว่าจัดภาษีอย่างไรให้ถูกต้อง 1. คำนวณเงินได้สุทธิ สำหรับสายอาชีพฟรีแลนซ์ทั้งหลาย สิ่งที่เอามาคำนวณภาษี คือ จำนวนเงินได้สุทธิ ที่คิดจาก ‘เงินได้พึงประเมิน’ หากเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปในบริษัทปกติจะมีใบที่คุ้นเคยกันคือ ‘ทวิ 50’ เป็นข้อมูลเงินเดือน โบนัส ประกันสังคม ฯลฯ ซึ่งสามารถนำไปเป็นหลักฐานประกอบการยื่นภาษีได้เลย แต่สายฟรีแลนซ์ที่ไม่มี ทวิ 50 จะต้องเตรียมเอกสาร และคำนวณเงินได้พึงประเมินด้วยตัวเอง หลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ ก็คือ ‘ใบหักภาษี ณ ที่จ่าย’ ที่จะได้รับจากผู้ว่าจ้างหรือลูกค้า สำหรับเงินค่าจ้างเกิน 1,000 บาท ขึ้นไป แต่สำหรับกรณีเงินค่าจ้างไม่เกิน 1,000 บาท อาจจะเก็บเป็นหลักฐานการโอนเงิน รวบรวมเอาไว้ทุกครั้ง เพราะต้องนำมาคิดรวมเป็นเงินได้พึงประเมินด้วยเช่นกัน เมื่อรวบรวมเงินได้พึงประเมินของทั้งปีเอาไว้แล้ว ก็เอามาคำนวณเงินได้สุทธิ เพื่อนำไปเทียบอัตราภาษีที่ต้องเสีย ตามสูตร : เงินได้สุทธิ […]

สร้างอาชีพขาย สุกี้แห้ง เมนูข้อถกเถียง จะผัดหรือไม่ ก็ได้กำไรเข้าตัว

สุกี้แห้ง เป็นหนึ่งในเมนูฮิตของร้านอาหารตามสั่งที่เราคุ้นเคยกันอย่างดี แต่ดันมีเกิดข้อถกเถียงกันว่า ควรจะ “ผัด” หรือ “ไม่ผัด” กันแน่ แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ยังถือเป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่สามารถขายได้ง่าย สร้างกำไรได้เป็นอย่างดี เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกเพศทุกวัย ในราคาไม่แพงมาก มาดูกันเลยดีกว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง? วัตถุดิบที่จำเป็น กระเทียม 1 กก. 110 บาท ผักกาดขาว 5 กก. 45 บาท เนื้อหมู 3 กก. 420 บาท น้ำจิ้มสุกี้ 700 มิลลิลิตร 70-80 บาท วุ้นเส้น 500 กรัม 40-50 บาท ผักบุ้งจีน ราคาต่อกิโลกรัม 30-40 บาท ขึ้นฉ่าย ราคาต่อกิโลกรัม 80-100 บาท ไข่ไก่เบอร์ 2 (แผงละ 30 ฟอง) 100-110 บาท น้ำมันพืช […]

1 2 … 41