เครื่องดื่มชานมไข่มุก ถือว่าเป็นเครื่องดื่มสุดฮิตและเป็นความฝันของใครหลายคนที่ต้องการจะเป็นเจ้าของกิจการร้านชานมไข่มุก ซึ่งหากพูดถึงแฟรนไชส์ “ชานมไข่มุก” ถือว่ามีหลากหลายแบรนด์มากในตลาด และมีการแข่งขันสูง แต่สิ่งที่จะทำให้ธุรกิจชานมไข่มุกของคุณสามารถยืนหยัดอยู่ในตลาดได้ คำว่า “คุณภาพ” เป็นสิ่งสำคัญ
“โชบุชา” คือแฟรนไชส์ชานมไข่มุก ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจจริงของ ดร.พิริยะ (คุณปุ้ม) และ คุณพัส- พัสรี โพธิ์วิจิตร เพราะชื่นชอบการดื่มชานมไข่มุก และนำเอาความชอบนั้นมาต่อยอดธุรกิจสู่แบรนด์ “โชบุชา” ที่มีจุดเด่นในเรื่องของวัตถุดิบและรสชาติที่ต้องบอกว่าอยู่ในเกรดระดับพรีเมียม แต่ไม่น่าเชื่อว่าราคาขายจะอยู่ที่เพียงแก้วละ 29 บาท
ปัจจุบันธุรกิจชานมไข่มุกมีหลากหลายแบรนด์ ซึ่งตัว “คุณพัส” เองบอกว่า แต่เดิมไม่ได้คิดที่จะทำเป็นธุรกิจ เพราะตลาดชานมไข่มุกกลายเป็นกระแส และส่วนตัวแล้วก็ไม่อยากทำธุรกิจเพื่อแข่งขันกับใคร วันหนึ่งได้มีโอกาสดื่มชานมไข่มุกที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองในราคาแก้วละร้อยกว่าบาท และรู้สึกว่ายังไม่ได้กลิ่นและรสชาติของชาอย่างแท้จริง จึงตัดสินใจศึกษาตลาดชานมไข่มุก หาแหล่งวัตถุดิบพร้อมทั้งสร้างความแตกต่างให้กลายเป็นจุดเด่น จนสุดท้ายมาลงเอยด้วยการทำธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ชานมไข่มุกแบรนด์ “โชบุชา”
“จุดเด่นของ “โชบุชา” คือ วัตถุดิบต้องได้คุณภาพ 100 % อย่างใบชาเรานำเข้ามาจากประเทศไต้หวัน ไข่มุกของเรามี บราวน์ชูการ์เป็นส่วนผสมเมื่อดื่มแล้วจะได้กลิ่นหอมของใบชา และได้ความหอมหวานของตัวไข่มุก นอกจากนี้วัตถุดิบส่วนผสมทุกอย่างเราคัดสรรที่มีคุณภาพจริงๆ เราให้ความสำคัญเรื่องการต้มชา ชาของเราบรรจุขนาด 600 กรัมต่อถุง เราพิถีพิถันเรื่องการต้มชา โดยแบ่งใช้ชา 300 กรัมต่อปริมาณน้ำ 1 หม้อใหญ่ ชา 1 ถุง 600 กรัม สามารถต้มชาได้ 2 หม้อ เราใส่ครีมที่ไม่มีกลิ่นทำให้ได้กลิ่นหอมของใบชาชัดเจน นอกจากนี้ เราได้ตั้งมาตรฐานความหวานของชานมไข่มุก ซึ่งใช้น้ำเชื่อมเป็นส่วนผสมน้อยที่สุด เนื่องจากเราใช้ข้นหวานลงไปแล้ว ชาของเราจึงมีความหอม มัน หวานไม่มากเพราะเราจะกำหนดความหวานของเราไว้ที่ 50 % หากลูกค้าชอบหวานมาก เราก็จะให้ลูกค้าเติมไซรัปเอง”
สำหรับราคาขายของชานมไข่มุกโชบุชานั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ที่แก้วล่ะ 29 บาท เพราะดูจากคุณภาพของวัตถุดิบที่ต้องนำเข้าจากประเทศไต้หวัน และส่วนผสมทุกอย่างอยู่ในระดับพรีเมียมเลยทีเดียว
“เรากล้าการันตีคุณภาพเลยว่าเทียบเท่าราคาแก้วละ 100 กว่าบาท สาเหตุที่เรากำหนดราคาขายไว้ที่ 29 บาท เพราะเราสั่งซื้อวัตถุดิบแบบล็อตใหญ่เป็นคันรถ และสั่งซื้อโดยตรงจากประเทศไต้หวัน การสั่งซื้อจำนวนมากทำให้ราคาถูกลง เราสั่งซื้อล็อตใหญ่โดยจ่ายเป็นเงินก้อน เพื่อนำมาขายให้กับแฟรนไชส์ซีในราคาปกติ เราขายชาถุงละ 220 บาท สิ่งที่แฟรนไชส์ซีจะต้องซื้อกับเรา คือ ชา ครีมเทียม และตัวไข่มุก ซึ่งจุดเด่นของไข่มุกเรา คือ มีบราวน์ชูการ์ผสมอยู่ในเม็ดไข่มุก เมื่อต้มแล้วจะมีความหอมของกลิ่นบราวน์ชูการ์ เมื่อผสมรวมกับกลิ่นของชาชั้นดีจากไต้หวันจะทำให้ได้รสชาติและกลิ่นที่ลงตัวมาก เหมือนเราดื่มชานมไข่มุกในระดับราคา 100 กว่าเลยทีเดียว ทีเด็ดของเราอีกอย่าง คือ เม็ดบุกบราวน์ชูการ์ที่มีความนุ่มกรอบ ซึ่งราคาขนาดนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการคนไหนทำ นอกจากเม็ดบุกแล้ว ยังมีลาวาราดอยู่ในแก้ว พร้อมทั้งตัวบุกและไข่มุกซึ่งเราใส่ให้ลูกค้าเรียกว่า แน่นมาก”
ปัจจุบัน “โชบุชา” มีจำนวน 6 สาขา ได้แก่
1.เพลินนารี่มอลล์ วัชรพล
2.น้อมจิตต์ บางกะปิ
3.เกตเวย์ ชั้น 4 เอกมัย
4.เดอะสตรีท รัชดา
5.ฟอร์จูน รัชดา
6.เอ็มบีเค มาบุญครอง
โดยสาขาเพลินนารี มอลล์ เป็นสถานที่ฝึกอบรมการต้มชาให้กับแฟรนไชส์ซี และเป็นสถานที่เจรจาสำหรับผู้ที่สนใจทำธุรกิจ
“ที่ผ่านมาเราลงทุนสาขาเอง จากนั้นก็จะส่งต่อให้กับผู้ลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ อย่างที่ฟอร์จูนก็เป็นในรูปแบบแฟรนไชส์ มีลูกค้ามาชิมแล้วชอบก็ซื้อแฟรนไชส์เลย ในส่วนของต่างจังหวัดขณะนี้ก็มีลูกค้าเดินเข้ามาสอบถามมากพอสมควร อย่างเช่นที่ อยุธยา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เราอยากที่จะทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า เพราะเรามีความตั้งใจที่จะทำจึงอยากจะให้ออกมาอย่างดีที่สุด โดยเราอาจจะมีสาขาที่เป็นของเราจริงๆ ประมาณ 2-3 สาขา ที่มีที่นั่งสำหรับลูกค้า แม้ว่าเราจะเพิ่งเริ่มทำธุรกิจมาเพียง 5-6 เดือน แต่ได้รับการตอบรับดีมากจากลูกค้าและผู้สนใจจะร่วมลงทุนแฟรนไชส์กับเรา นอกจากชานมไข่มุกแล้ว ในร้านเรายังมีเมนูของหวานอย่างบิงซู แพนเค้ก รสชาติต่างๆ ไว้สำหรับรับประทานคู่กับชานมไข่มุกอีกด้วย”
สำหรับรูปแบบการลงทุนนั้น ผู้สนใจลงทุนเพียง 190,000 บาท จะได้รับของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ป้ายไฟ ป้ายโลโก้ วัตถุดิบการทำชานมไข่มุกเรียกว่ามีทุกอย่างให้ครบ แฟรนไชส์ซีลงทุนแค่เพียงซื้อถังน้ำแข็งและเคาท์เตอร์เองเท่านั้น เพราะขึ้นอยู่กับพื้นที่และขนาดของร้านที่จะเปิดขาย นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมวิธีการต้มชา การชง และเทคนิคการทำชานมไข่มุกให้มีรสชาติเกรดพรีเมียม โดยทีมงานมืออาชีพที่จะมาช่วยเหลือเรื่องการดูทำเลให้กับลูกค้าด้วย รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ในส่วนของการตลาด บริษัทมีการโปรโมทธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมแบรนด์ให้โชบุชาเป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านช่องทางสื่อทีวี สื่อออนไลน์ต่างๆ บริษัทมีการตรวจเช็คคุณภาพอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยจะเช็คในเรื่องของรสชาติ ความสะอาด วิธีการต้มชา ซึ่งหากแฟรนไชส์ซีคนใดทำไม่ได้ก็ต้องกลับมาเรียนใหม่จนทำได้
“เรามีหลักสูตรอบรมเกี่ยวกับการต้มชา ต้มไข่มุกต้องต้มอย่างไร โดยเราจะใช้สาขาเพลินนารี่มอลล์ วัชรพล เป็นสถานที่สอน เราใช้เครื่อง POS ซึ่งมีความแม่นยำในการตรวจสอบ สามารถตรวจเช็คยอดขายว่าขายได้กี่แก้วของแต่ละวัน โดยที่เราไม่เข้าร้านก็สามารถตรวจเช็คได้ผ่าน Smart Phone เพียงเครื่องเดียวได้ นอกจากนี้ เครื่องซีนของเราก็จะมีนับจำนวนแก้วที่ขายไปได้ด้วย ซึ่งเราจะนำเอาระบบนี้ไปใช้ในทุกสาขาที่เปิดทำการ”
ขณะนี้ “โชบุชา” มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้สนใจ ลงทุนเพียง 180,000 บาท ถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยผู้ลงทุนจะได้อุปกรณ์เครื่องชง และวัตถุดิบทั้งหมดประมาณ 3,000 แก้ว จำนวน 35 เมนู และยังมีเพิ่มเมนูพ่นไฟ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีมาก ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อกลับบ้าน ในราคาเราขายเพียง 49 บาท ซึ่งถ้าหากขายตามห้างใหญ่จะอยู่ที่ราคา 100 บาทขึ้นไป เหตุที่ตั้งราคาเท่านี้เพราะต้องใส่ชีสเป็นส่วนผสมเข้าไปด้วย
นอกจากจะขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์แล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้ “โชบุชา” ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจเพิ่มเติมในรูปแบบ “ฟู้ดทรัค” อีกด้วย ซึ่ง “คุณปุ้ม” ได้กล่าวถึงที่มาและโอกาสการเติบโตของตลาดฟู้ดทรัค
“เราแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.ในแบบรถฟู้ดทรัค เพราะเป็นโอกาสทางด้านการตลาดและขาย เราอยากจะขยายสาขาในแบบเฉพาะกิจ 2.รูปแบบแฟรนไชส์ฟู้ดทรัค โดยจะมีสินเชื่อให้ผู้สนใจโดยซื้อไปทั้งรถ รถฟู้ดทรัคของเราสามารถใช้ได้ทั้งขนสินค้าวัตถุดิบรวมทั้งออกแบบให้เป็นร้านค้าได้ด้วย ซึ่งตอนนี้เรามีการเจรจากันระหว่างบริษัทอีซูซุ ซึ่งฟู้ดทรัคเรามีความแตกต่าง คือ ทั่วไปจะเป็นรถแบบหัวเดียว 4 ล้อใหญ่ ผู้ซื้อแฟรนไชส์สามารถนำเอารถกระบะจะเป็นแบบตอนเดียว หรือเป็นกระบะแค้ป แล้วสามารถต่อเป็นฟู๊ดทรัค ซึ่งข้อดีของรถกระบะคือเมื่อนำไปขายต่อแล้วราคาจะไม่ตก หรือหากคุณมีรถกระบะอยู่แล้วก็สามารถเข้ามาแล้วซื้อแฟรนไชส์ทำต่อได้เลยโดยไม่ต้องไปลงทุนเพิ่ม โดยเราจะแนะนำบริษัทต่อรถให้ เมื่อต่อเสร็จก็เอาแบรนด์เราเข้าไปใส่ แต่ถ้าจะซื้อรถจากเราก็ทำได้ โดยเราจะมีราคาให้”
ข้อดีของฟู้ดทรัค คือ สามารถไปขายทำเลไหนก็ได้ และยังสามารถพับเก็บได้สะดวก สามารถเดินทางไปขายตามแหล่งชุมชน หรือที่มีคนพลุกพล่านได้ สามารถขายได้โดยไม่จำกัดพื้นที่ และไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ ทำให้ช่วยลดต้นทุนได้ระดับหนึ่ง โดยเราตีราคารถไว้ที่หลัก 6 แสนกว่าบาท และมีค่าใช้จ่ายเรื่องต่อรถเป็นฟู้ดทรัคซึ่งคิดว่าราคาไม่น่าจะแพงมาก คิดว่าถ้าไม่รวมค่าแฟรนไชส์คาดว้าน่าจะอยู่ที่ 7 แสนกว่าบาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นรถด้วย และภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้เราวางแผนจะออกรถฟู้ดทรัค 1 คัน
สำหรับแผนการประชาสัมพันธ์ธุรกิจ “คุณปุ้ม” บอกว่าเรามีจุดแข็งเนื่องจากทำรายการทีวีเอง กอปรกับตอนนี้มีธุรกิจของคุณพ่อ (คุณเป็ด เชิญยิ้ม) ที่จะนำเอาแบรนด์โชบุชาเข้าไปสู่รายการต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้โดยทั่วไป และถือเป็นการช่วยโปรโมทแบรนด์ให้แฟรนไชส์ซีสามารถทำธุรกิจสร้างยอดขายได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ “คุณปุ้ม” ยังมีแผนต่อยอดธุรกิจไม่ว่าจะเป็น แฟรนไชส์กาแฟโดยมีน้องชายของคุณปุ้มดูแล นอกจากนี้ ทางคุณเป็ด เชิญยิ้มเองก็มีแผนทำธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ โดยมีแผนจะเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งตู้กาแฟหยอดเหรียญนี้สามารถนำไปติดตั้งตามแหล่งชุมชน โดยใช้เหรียญ 10 บาท หรือ เหรียญ 5 บาท 2 เหรียญก็สามารถดื่มกาแฟร้อนราคาถูกได้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
“สำหรับผู้ที่กำลังมองหาธุรกิจที่มีความมั่นคง และมีตัวตน ธุรกิจชานมไข่มุกหลายคนอาจมองว่าเป็นธุรกิจที่ฉาบฉวยอยู่ไม่นานก็หายไปและยังมีคู่แข่งเยอะ แต่เราไม่ได้คิดอย่างนั้น เรามีความตั้งใจที่จะทำธุรกิจอย่างจริงจัง และไม่ได้หยุดพัฒนาแค่ชานมไข่มุก เรายังคิดสูตรเพิ่มความหลากหลายของเมนู เพื่อสร้างความแปลกใหม่และเป็นทางเลือกให้กับผู้ชื่นชอบเครื่องดื่มชานมในอนาคตต่อไป”
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่ :
095-652-4146 คุณพัสรี
Facebook Page : Chobucha โชบุชา