ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

กะเพราซาวห้า แฟรนไชส์อาหารยอดฮิต เปี่ยมไปด้วยนวัตกรรม


พาไปเปิดมุมมองการทำธุรกิจยอดฮิตติดปากคนไทยกับแบรนด์ “กะเพราซาวห้า” สตรีทฟู้ดที่เปี่ยมไปด้วยความสร้างสรรค์และนวัตกรรม พร้อมหลอมรวมประสบการณ์มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจจนกลายเป็นแฟรนไชส์ระบบมาตรฐานตามแบบฉบับ ลงทุนน้อย ขายง่าย คืนทุนไว กำไรดี

 

คุณตั้ม พงษ์พนัส มังคละคีรี เจ้าของธุรกิจ กะเพราซาวห้า เล่าว่า เมนูกะเพราจะเป็นเมนูง่าย ๆ แต่แบรนด์กะเพราซาวห้าถือเป็นเจ้าแรก ๆ ในประเทศไทย ที่นำมาต่อยอดเป็นธุรกิจแฟรนไชส์เมนูข้าวผัดกะเพราราคาย่อมเยาเพียง 25 บาท ซึ่งปัจจุบันร้านกะเพราซาวห้ามีทั้งสิ้น 60 สาขาทั่วประเทศ จุดเริ่มต้นธุรกิจนี้ เกิดจากการได้รับรู้ถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจจนทำให้ราคาข้าวของแพงขึ้น และด้วยขณะนั้นได้เปิดร้านอาหารอยู่แล้ว จึงต้องการพิสูจน์ตัวเองดูว่าถ้าเราตั้งราคาถูกจะทำได้มั้ย จึงเลือกเป็นเมนูกระเพรา เพราะเป็นเมนูทำง่าย แต่ก็ยังไม่รู้จะขายเท่าไหร่ จนสรุปได้ว่าจะขายในราคา 25 บาท ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “ซาวห้า” ในภาษาอีสานนั่นเอง

แม้การทำร้านอาหารของตนเองในอดีตมักจะเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบด้วยการทำเมนูต่าง ๆ เพื่อให้ร้านได้ผลกำไรมากที่สุด แต่ด้วยผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจกันทั่วหน้า ร้านกะเพราซาวห้าจึงปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่เพื่อให้ต้นทุนถูกลง แต่ยังคงความคุ้มค่า ผ่านการนำเทคนิคของพ่อครัวมืออาชีพมาใช้ในการนำเสนอ เช่น การผัดหมูโดยไม่ใช้น้ำมัน ซึ่งเชฟส่วนใหญ่ก็จะรู้อยู่แล้วว่าการผัดหมูรูปแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันก็ได้ เพราะจะมีข้อดีตรงที่ทำให้หมูแห้ง ไม่แฉะ และมีความอร่อยกว่า รวมถึงเทคนิคอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการเขย่ากระทะ การดึงไฟ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เลียนแบบได้ยาก รวมถึงเอกลักษณ์เรื่องความเข้มข้นของรสชาติและที่สำคัญคือความคุ้มค่าราคาประหยัด

 

ด้านการลงทุนแฟรนไชส์กะเพราซาวห้ามีให้เลือกทั้งหมด 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบรถเข็น ราคา 45,555 บาท ซึ่งทางแบรนด์ได้ร่วมมือกับ สวทช. พัฒนาเป็นรถเข็นบำบัดควัน บำบัดน้ำเสียได้ในตัว ส่วนรูปแบบที่ 2 ราคา 35,000 บาท เป็นลักษณะคีออสทั่วไป โดยทั้ง 2 รูปแบบจะได้รับอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน อาทิ เตาผัด 2 หัว อุปกรณ์การผัด ซอสสำเร็จรูปและการเทรนนิ่งเรื่องการผัด การหุงข้าว การรักษาวัตถุดิบ ในระยะเวลาการอบรมทั้งสิ้น 3 วัน เพื่อให้แฟรนไชส์ซีมีความชำนาญมากที่สุด ส่วนสิ่งที่ต้องสั่งกับทางแบรนด์ก็จะมีเพียงซอสกะเพราสำเร็จรูปขนาด 1,000 มิลลิลิตร ราคา 60 บาท ผัดได้ 40 ห่อ กับแพ็กเกจจิ้งเท่านั้น

 

 

สำหรับการคืนทุน ราคาค่าเช่าทำเลมีผลต่อระยะเวลาการคืนทุนมาก อย่างวัตถุดิบ-อุปกรณ์ชุดเริ่มต้น จะสามารถขายได้ถึง 1 พันห่อ ถ้าขายหมดก็ได้ยอดขาย 25,000 บาท ซึ่งโดยเฉลี่ยขาย 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน ก็สามารถคืนทุนได้ไม่ยาก ยกตัวอย่างร้านสาขาขอนแก่น เปิดขายตั้งแต่ 5 โมงเย็น ถึง 1 ทุ่มครึ่ง ใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง ในแต่ละวันทางร้านจะใช้เนื้อหมู-เนื้อไก่ 30 กิโลกรัม ซึ่งหมู 1 กิโลกรัม เมื่อนำมาผัด 1 กระทะก็จะได้ 10 ห่อ โดยเฉลี่ยใน 1 วัน สาขานี้จะขายได้ 300 ห่อ

 

สิ่งที่ทำให้กะเพราซาวห้าประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ มองว่ามาจากความซื่อสัตย์ต่อคู่ค้าและลูกค้า และเรายังโชคดีที่มีเชฟกระทะเหล็กอย่างเชฟจุมพล และอาจารย์หลายท่านคอยเป็นที่ปรึกษามาตลอด ทั้งแนะนำเรื่องการบริหารจัดการ แหล่งผลิต การลงทุนพัฒนา ฯลฯ เพื่อเป้าหมายของเราคือการทำอาหารที่ดีที่สุดในราคาที่คุ้มค่าที่สุด รวมถึงการสร้างอาชีพให้ผู้คน หากนับรวมทุกสาขาแล้วกะเพราซาวห้าของเราได้ส่งต่อเมนูกะเพราไปสู่ผู้บริโภคได้ถึงเดือนละ 4-5 แสนห่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจมาก

 

สำหรับใครที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แนะนำให้ถามตัวเองก่อนว่าอยากทำจริงไหม เพราะถ้าเราทำตามกระแส คู่แข่งทางการตลาดต้องเยอะตามมาแน่นอน เราต้องเริ่มจากความชอบ เพราะถ้าความชอบนั้น ถึงมันเป็นธุรกิจที่อยู่ในกระแส เราก็จะทำมันได้ดีอย่างแน่นอน ขอให้เริ่มต้นจากการคิดให้รอบครอบและทำด้วยความรักแล้วทุกอย่างก็จะออกมาดีเอง

ส่วนใครที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ แต่ยังไม่มีเงินทุน หรือใครที่กำลังมองหาแหล่งเงินทุน ตอนนี้ทางธนาคาร ออมสิน ก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มาเริ่มต้นธุรกิจกับแบรนด์ “กะเพราซาวห้า” ได้ โดยสามารถติดต่อขอ “สินเชื่อ สร้างงานสร้างอาชีพ” เพื่อประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ สแกน QR CODE เพื่อลงทะเบียนขอสินเชื่อ วงเงินกู้สูงสุด 100,000 บาท โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน ต้องขอขอบคุณ ธนาคารออมสิน ที่สนับสนุนให้คนไทยมีอาชีพ มีรายได้