หากเอ่ยชื่อ “วิเชียร กุศลมโนมัย” หลายคนฟังแล้วอาจไม่รู้จักหรือรู้สึกคุ้นๆ กับชื่อนี้ แต่ถ้าเอ่ย “ดีเจเพชรจ้า” หลายคนต้องร้องอ๋อและคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี เพราะเขาคือคนในวงการบันเทิงที่ประสบความสำเร็จในแทบทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การเป็นดีเจจัดรายการวิทยุ นักแสดง และพิธีกรรายการ หรือธุรกิจคาร์แคร์ และยังเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารเสริมอีกด้วย ที่สำคัญเขาประสบความสำเร็จกับการทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ เอสเอ็มอี ชี้ช่องรวย วันนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้ถึงแนวคิดการทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จกันค่ะ
ในงานเสวนาหัวข้อ “ก้าวทันเทรนด์โลก รับธุรกิจออนไลน์ ปี 2019” ในโครงการ “เปิดบ้าน DITP (Open House) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่ง “ดีเจเพชรจ้า” ได้เป็น 1 ในผู้เข้าร่วมการเสวนาโดยเขาได้เล่าถึงความเป็นมาก่อนที่จะสำเร็จในธุรกิจออนไลน์
ผมเป็นคนหนึ่งที่อยู่ในวงการบันเทิงและไม่ได้มีความคิดที่จะทำธุรกิจออนไลน์เลย เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาเป็นยุคที่มีกระแสเรียกว่า โซเชียลเน็ตเวิร์ก ทุกคนเริ่มเล่นไอจี (Instargram) เมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ไอจีเพิ่งมาเมืองไทยใหม่ๆ จำได้ว่าภรรยา (คุณนิวเคลียร์ หรรษา) เพิ่งจะสมัครสมาชิกอินสตาร์แกรมให้เอง และภรรยาก็บอกว่าจะลองขายของออนไลน์ดู ซึ่งตอนนั้นผมเองยังไม่มีความรู้เรื่องออนไลน์เท่าใดนัก คิดแต่เพียงว่าหากจะขายของก็ต้องไปขายในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ ที่มีหน้าร้านให้ขายของ และคิดว่าความที่เราเป็นดาราน่าจะขายดีกว่า แต่ภรรยาบอกว่ายุคนี้มันต้องออนไลน์ คือเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมาผมอ่อนในเรื่องเทคโนโลยีมากจึงให้ภรรยาลองขายของบนโลกออนไลน์ดู
โดยสินค้าแรกที่ภรรยาขาย คือ หมวกแก๊ปธรรมดาๆ เท่านั้นหลังจากขายได้ประมาณ 3-4 เดือน ผ่านช่องทางไอจี มียอดขายประมาณกว่าล้านบาท เกิดความรู้สึกประหลาดใจขายได้ยังไงตั้งล้านกว่าบาท ก็เริ่มมองเห็นแววของธุรกิจนี้ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่สนใจเพราะเงินเพียงล้านกว่าบาทคิดว่าผมเองก็ยังพอหาได้ และอายุภรรยาก็อ่อนกว่าเป็น 10 ปี ยังไงก็หาได้อยู่แล้ว แต่ในที่สุดก็ต้องยอมรับว่าเขาสามารถหาเงินได้มากกว่าเรา
“วันหนึ่งภรรยาเข้ามาปรึกษาเพราะเห็นโอกาสของช่องทางออนไลน์ จึงคิดที่จะนำเงินจำนวนล้านกว่าบาทจากการขายหมวกแก๊ปมาต่อยอดมาทำสินค้าของตัวเอง คือ เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควบคุมน้ำหนัก ก็ลองปล่อยให้ภรรยาลองทำดู หลังจากนั้นอีก 1 ปี ภรรยาสามารถทำยอดขายได้มากถึง 100 กว่าล้านบาท ตอนนั้นประหลาดใจมากจากที่ไม่เคยสนใจโลกออนไลน์เลย ถูกสอนมาว่างานประจำคือดีที่สุด เราทำงานพิธีกรวันหนึ่งถ่าย 5 รายการทำงานอย่างนี้ทุกวัน แต่พอภรรยาบอกทำธุรกิจออนไลน์ได้เงิน 100 กว่าล้านบาท ก็เกิดความคิดว่าถ้าน้องทำเงินได้มากเท่านี้ ซึ่งตอนนั้นภรรยาอายุน่าจะประมาณ 20 ปี แต่สามารถทำงานมีรายได้มากอย่างนี้ เราอายุมากกว่า กว้างขวางกว่าน่าจะทำให้มากกว่า”
จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจเข้าสู่โลกของธุรกิจออนไลน์ “ดีเจเพชรจ้า” เริ่มศึกษาโดยให้ภรรยาสอนวิธีขายของบนโลกออนไลน์ เขาบอกว่าตอนนั้นเรื่องออนไลน์ถือเป็นเรื่องใหม่มาก เมื่อเริ่มศึกษาก็ฝึกลงมือทำ
“ในยุคนั้นอาจเป็นเพราะผมยังไม่มีความรู้เรื่องนี้มาก คือ สร้างผลิตภัณฑ์โดยที่ไม่ได้นึกถึง Branding หรือให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์เท่าใดนัก เพียงแค่ชอบใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็สร้างผลิตภัณฑ์แต่ไม่ได้เน้นสร้างแบรนด์ ทำมาจนครบ 5 ปีทำให้รู้ว่า เจ้าของผลิตภัณฑ์จะต้องนำเอาสิ่งที่ดีที่สุดมาขายอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญมากกว่าโปรดักส์คือการสร้าง Branding เพราะสามารถทำให้สินค้าของเราอยู่ในตลาดได้ เราต้องสร้างแบรนด์ของเราให้แข็งแรง เมื่อแข็งแรงแล้วก็จะสามารถแตกยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นได้ ทั้งหมดคือเป็นที่มาของ 5 ปีของการค้าขายออนไลน์ครับ”
ปัจจุบันบริษัทฯ ของ “ดีเจเพชรจ้า” มีลูกน้องประมาณ 30 กว่าคน และจะกระจายส่งตัวลูกน้องไปเรียนหรือศึกษาเกี่ยวกับช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม ส่วนตัวเขาเองจะชอบเรียนรู้จากทางกูเกิ้ลหรือยูทูบบ้าง เขาบอกว่าปัจจุบันสินค้าแทบทุกอย่างสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้แทบทั้งหมด ซึ่งตัวเขาเองนั้นซื้อสินค้าทุกอย่างผ่านออนไลน์แทบทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่อาหารเครื่องดื่มต่างๆ จึงมั่นใจได้ว่าหากขายผ่านช่องทางนี้สามารถสร้างยอดขายได้อย่างแน่นอน ซึ่งก็มีลูกน้องชอบมาถามว่าจะขายอะไรดี
“อยากจะแนะนำว่า สำหรับผู้ที่เริ่มต้นจะขายของออนไลน์จะต้องถามตัวเองก่อนว่า ชอบอะไร หรือมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไร หรือสนใจอะไรเป็นพิเศษ อย่างบางคนครอบครัวทำซาลาเปาขาย ฉะนั้น ซาลาเปาคือต้นทุนของคุณ เพราะคุณมีความรู้เรื่องซาลาเปามากกว่าคนอื่น ดังนั้น ลองทำซาลาเปาที่เข้ากับคนในสมัยนี้ดู และขายผ่านออนไลน์ ทุกวันนี้เขาได้เป็นเจ้าของธุรกิจขายซาลาเปาบนโลกออนไลน์ บางครั้งคนเราอาจจะมองข้ามสิ่งที่ใกล้ตัวของเราไป การขายซาลาเปาหากมีการครีเอทแพ็คเกจบรรจุภัณฑ์ให้น่าซื้อน่ารับประทาน การประยุกต์คิดสูตรอะไรใหม่ๆ ให้ตรงใจกับผู้บริโภค แล้วนอกจากจะขายทางหน้าร้านแล้ว ก็มาเพิ่มช่องทางการขายผ่านช่องทางออนไลน์ สร้างความน่าสนใจสิ่งเหล่านี้จะสามารถสร้างยอดขายของคุณได้จากต้นทุนที่คุณมีโดยที่ไม่ต้องไปหาที่ไหน เมื่อมีการสั่งซื้อสินค้าก็อาจจะใช้บริการบริษัทฯ ขนส่งสินค้า เช่น Line Man ดังนั้น คนจึงไม่จำเป็นที่จะต้องมาต่อแถวเพื่อซื้อสินค้า หน้าร้านเป็นเพียงที่โชว์สินค้าเท่านั้น”
ปัจจุบัน “ดีเจเพชรจ้า” นำเข้าเวย์โปรตีนจากสหรัฐอเมริกา เพราะมองเห็นเทรนด์เกี่ยวกับสุขภาพกำลังมา และราคาเวย์โปรตีนที่ประเทศไทยราคาสูงมาก ซึ่งราคาที่ต่างประเทศราคาเพียง 2,000 บาทต่อกระปุก แต่ที่เมืองไทยขายราคา 4,000 บาทต่อกระปุก จึงมีแนวคิดนำเข้าเวย์โปรตีนในราคาที่คนไทยสามารถซื้อหาได้ นอกจากนี้ เขายังมีฐานแฟนคลับจาก IG กว่าล้านคน โดยให้คนไทยเป็นคนกำหนดราคาเอง จากเวย์โปรตีนเขาคิดต่อยอดโดยการเพิ่มสินค้าที่สามารถทานคู่กับเวย์โปรตีนนั่นก็คือ ซีเรียลเพื่อสุขภาพ
“เราต้องหาสิ่งที่สร้าง Passion ให้กับตัวเราในการที่เราจะลงไปขลุกอยู่กับมัน อะไรที่เราชอบกิน ชอบใส่ ชอบใช้ หรืออะไรที่เราชอบทำ เหล่านี้สามารถครีเอทออกมาเป็นสินค้าที่เป็นรูปลักษณ์ของเรา ลองคิดทุกวินาทีแล้วจะคิดออกเองว่า เราควรจะทำอะไร”