ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

6 ข้ออ้าง ต้นตอบั่นทอนให้ธุรกิจของคุณไปไม่ถึงไหน


เอสเอ็มอี ชี้ช่องรวย ได้พบบทความดีๆ และคาดหวังว่าจะเป็นอีกบันดาลใจหนึ่งที่จะช่วยให้คุณมีแรงฮึดสู้ ทำในสิ่งที่ฝัน ให้คุณก้าวไปในธุรกิจที่ฝันได้อย่างมั่นใจมาฝากค่ะ

โดยบทความของคุณปรีชา ตรีสุวรรณ ประธานบริหาร Thailand Tanzania Business Center ได้กล่าวไว้ว่า ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตที่อยากจะไปให้ถึง คงไม่มีใครที่ไม่เคยคิดอยากเป็น ไม่อยากทำ ไม่อยากได้ ทุกคนอยากประสบความสำเร็จทั้งนั้น ยิ่งยุคสมัยปัจจุบัน ความอยากเหล่านี้เริ่มเข้ามาในชีวิตของเรามากมายไปหมด ทุกคนอยากประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ อยากไปให้ถึงเป้าหมายในชีวิตของเรา

คำถามคือ แล้วเราทำอะไรบ้าง เพื่อให้ชีวิตของเราไปถึงเป้าหมายนั้น??

คนบางคนมีแต่ความฝันอันสวยงาม มีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ก็มีแค่เพียงฝัน แต่ไปไม่ถึงสักที เพราะไม่เคยคิดที่จะเริ่มต้นทำ ได้แต่คิด แต่ไม่เคยลงมือทำเลย และก็มักจะมีข้ออ้างอยู่เสมอ เพื่อทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง และมีเหตุผลมากพอกับตนเองที่จะไม่เริ่มต้นลงมือทำอะไรสักอย่าง ลองมาดูข้ออ้างต่าง เหล่านี้ดูว่ามีอะไรบ้าง แต่อย่านำไปใช้เป็นข้ออ้างแล้วกัน

1.เด็กเกินไป

ข้ออ้างแรกที่มักจะได้ยินเสมอกับเด็กวัยรุ่น หรือ คนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานใหม่ แล้วคิดอยากจะประสบความสำเร็จมากๆ แต่ก็มักจะมีข้ออ้างที่ยังไม่เริ่มต้นลงมือทำว่า “เรายังเด็กเกินไปที่จะทำการใหญ่” เราลองดูคนที่ประสบความสำเร็จมากๆ สิครับ บางคนอายุยังไม่ถึง 30 เลยด้วยซ้ำตอนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ดังนั้นข้ออ้างนี้จึงไม่สมเหตุผล และก็ยังมีบางประเภทที่ไม่อยากทำแต่บอกว่ายังอ่อนวัยอยู่

2.มีประสบการณ์น้อยเกินไป

นี่ก็เป็นอีกข้ออ้างหนึ่งที่ทำให้เราไม่คิดจะเริ่มต้นทำอะไร คิดแค่ว่า เรายังมีประสบการณ์น้อยเกินไปที่จะเริ่ม คำถามก็คือ ถ้าเราไม่เริ่มทำ แล้วเราจะมีประสบการณ์มากขึ้นได้อย่างไร ดังนั้นข้ออ้างนี้ก็ตกไปอีกเช่นกัน

3.ยังไม่มีอารมณ์

ข้ออ้างนี้ก็มักจะได้ยินอยู่เสมอๆ ว่ายังไม่มีอารมณ์จะเริ่มต้นทำอะไร ถามลึกๆ เข้าว่า ทำไมไม่มีอารมณ์ทำ คนส่วนใหญ่ก็จะตอบไม่ได้ว่าทำไม เพราะจริงๆ แล้วมันคือข้ออ้างที่ยังไม่อยากทำมากกว่า จริงๆ แล้วถ้าคนเรามีความตั้งใจจริงๆ มีปณิธานที่แรงกล้าจริงๆ ผมเชื่อว่า ยังไงก็มีอารมณ์ทำ เพราะความตั้งใจมันมาแรงกว่าอารมณ์แน่นอน แต่ที่บอกว่าไม่มีอารมณ์ทำนั้น ก็เพราะไม่มีความตั้งใจจริงๆ ที่จะทำมากกว่า ดังนั้นข้ออ้างนี้จึงไม่สมเหตุผลอีกเช่นกัน

4.ไม่เก่งพอ หรือ ไม่ฉลาดพอ

ข้ออ้างนี้ก็เป็นอีกข้ออ้างหนึ่งที่คนเราชอบใช้กัน ถามจริงๆ นะครับว่า มีใครที่เก่ง หรือฉลาดมาตั้งแต่เกิดหรือเปล่า หรือมีใครที่เก่ง หรือฉลาดไปซะทุกเรื่องหรือไม่ จริงๆ ก็คือ ไม่เลย ทุกคนล้วนแต่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์กันหมด ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วเก่งเลย ถ้าคุณเก่งพอที่จะรู้ตัวว่าคุณไม่เก่ง หรือไม่ฉลาดพอ ผมคิดว่านี่แหละคุณก็เก่งพอที่จะเริ่มต้นทำอะไรได้แล้ว

5.ไม่มีเวลา

นี่ก็เป็นอีกข้ออ้างยอดฮิตที่ชอบพูดกันมาก จริงๆ บางคนพูดจนติดปากไปแล้วก็มี คนเราทุกคนมีเวลาเท่ากันหมด คือวันละ 24 ชั่วโมง ดังนั้นการที่พูดว่าไม่มีเวลาจึงไม่เป็นความจริงเลย ความจริงคือ เราไม่สามารถจัดการกับการใช้เวลาในชีวิตของเราเองได้มากกว่า เราเอาเวลาไปทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ หรือทำในสิ่งที่เรารู้สึกสบายกับมันใช่หรือไม่ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่น Face book, Line, We chat และอื่น ๆ จนทำให้เวลาที่ควรจะใช้ในการทำตัวเองให้ประสบความสำเร็จมันหายไปหมด ดังนั้นข้ออ้างนี้จึงฟังไม่ขึ้น

6.กลัวไม่สำเร็จ

อีกข้ออ้างหนึ่งก็คือ กลัวว่าทำไปแล้วจะไม่สำเร็จ แค่คิดแบบนี้ ก็ไม่สำเร็จไปแล้วตั้งแต่ต้น ล่ะครับ เพราะถ้าคนเราตั้งใจจริงๆ ความตั้งใจนี่แหละครับ ที่จะทำให้เราไม่กลัวความล้มเหลว เพราะด้วยความตั้งใจนี่เอง ที่จะทำให้เราหาทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น และหาทางที่จะทำให้มันสำเร็จให้จงได้ ดังนั้นถ้าเรากลัวว่าไม่สำเร็จ แปลง่ายๆ ว่า เราไม่มีความตั้งใจจริงที่จะทำมันเช่นกัน

ท่านทั้งหลายเคยใช้ข้ออ้างเหล่านี้บ้างไหมครับ ผมเองก็เคยใช้มันในบางข้อเหมือนกัน แต่ใช้เพื่อเป็นการถ่อมตนมากกว่าเพราะอยากจะให้เขาบอกว่าคุณทำได้และยอมให้ทำแบบที่เขายินดี จะได้ไม่มีคู่แข่ง

แต่ถ้าเราใช้มันบ่อยๆ ชีวิตเราก็จะไม่ไปถึงไหน เพราะเราจะทำอยู่กับอะไรแบบเดิมๆ ไม่มีการพัฒนาต่อยอดอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นความรู้ใหม่ๆ ทักษะใหม่ๆ หรือความสำเร็จที่เราต้องการ เพราะเราจะวนอยู่ที่เดิม ด้วยเหตุผลและข้ออ้างเหล่านี้ ก็เลยไม่ได้เริ่มต้นลงมือทำอะไรสักที

ผมเคยถูกบอกให้แสดงออกมาก ๆ ไม่ต้องเกรงใจใครเพราะมักจะมีคนชอบทำตัวว่าตนเองทำได้แล้วอาสาที่จะทำแล้วผลที่ออกมามันไม่ได้เรื่องตามที่เขาบอกไว้ แต่ต่างกันกับผมที่ถูกบังคับให้พูดออกมาบ้างเพราะเขาทราบว่าทำได้ คนที่บอกผมนั้นเป็นผู้ใหญ่และทราบดีว่าผมทำได้แต่ไม่ชอบออกหน้า ชอบอยู่เบื้องหลังแต่สุดท้ายก็ต้องออกมายืนข้างหน้า เพราะหมดคนที่อวดว่าทำได้แล้วทำไม่ได้ครับ

ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก : คุณปรีชา ตรีสุวรรณ ประธานบริหาร Thailand Tanzania Business Center