ในการทำธุรกิจหรือสร้างแบรนด์สักแบรนด์หนึ่งต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างเพื่อให้คนจดจำ ซึ่งวิธีที่ทำให้คนจดจำแบรนด์ดังต่างๆ คงหนีไม่พ้นโลโก้ แล้วเคยสังเกตไหมว่าโลโก้ของแบรนด์ดังๆ ทำไมต้องเลือกใช้สีนั้นๆ แล้วผลของสีมีผลต่อการสร้างแบรนด์ หรือสร้างธุรกิจให้คนจดจำได้อย่างไร
อิทธิพลของ “สี” สามารถเป็นตัวสร้างการจดจำให้กับแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ รวมถึงสามารถสร้างอารมณ์ได้จริงตามหลักจิตวิทยา ที่สำคัญสีสามารถสร้างคาแรคเตอร์ให้กับธุรกิจที่คุณต้องการสื่อได้ดีเลยทีเดียว แล้วสีแต่ละโทนมีความแตกต่างกันอย่างไร และแต่ละเฉดสีมีความแตกต่างและเหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง มาดูกันเลย
1.สีน้ำเงิน
สีน้ำเงิน ให้ความรู้สึกหนักแน่น จริงใจ ความรับผิดชอบ ให้ความน่าเชื่อถือ รวมถึงเป็นผู้นำเทคโนโลยี เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความ่นาเชื่อถือ ซึ่งธุรกิจที่เหมาะกับสีน้ำเงินนี้จะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการสื่อสาร เทคโนโลยี อย่างเช่น ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook , HP คอมพิวเตอร์
หรืออีกนัยหนึ่งสีน้ำเงินก็สามารถสื่อไปถึงท้องฟ้า น้ำทะเลได้ ธุรกิจเกี่ยวกับน้ำก็นิยมใช้สีน้ำเงินเป็นโลโก้ของแบรนด์เช่นกัน เช่นร้านอาหารทะเลอย่างแหลมเจริญซีฟู๊ด ให้คาแรคเตอร์ร้านอาหารทะเลที่มีความคลาสสิคมีระดับ สีน้ำเงินถือว่าเป็นสีกลางๆ ที่สามารถใช้กับธุรกิจได้หลากหลายเลยทีเดียว
2.สีเหลือง
ตามหลักจิตวิทยา สีเหลือง ทำให้เกิดแรงกระตุ้น ความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่ธุรกิจประเภท ของเล่นเด็ก รวมทั้งร้านอาหารระดับโลกอย่าง Mc Donald หรือจะแบรนด์เฟอร์นิเจอร์อย่าง IKEA ก็ใช้สีเหลืองเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของแบรนด์เช่นกัน นอกจากให้ความโดดเด่น และดึงดูดแล้ว ยังให้คาแรคเตอร์ที่เป็นกันเอง สนุกสนาน ความคิดสร้างสรรค์ อีกด้วย
3.สีแดง
สีแดง ถือเป็นเฉดสีที่สามารถดึงดูดผู้เห็นได้ดี ยกตัวอย่างง่ายๆ คือป้ายลดราคาสินค้าต่างๆ ก็ล้วนจะใช้เป็นสีแดง ซึ่งสีแดงนี้จะให้ความรู้สึกตื่นเต้น กระตุ้นอารมณ์ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง Coca Cola ,Netflix , Youtube รวมถึงแบรนด์อาหารอย่าง KFC ต่างก็ใช้สีแดงเป็นสีหลัก ซึ่งสีแดงนี้สามารถกระตุ้นความอยากอาหารได้ด้วยนะ
4.สีส้ม
สีส้ม ถูกจัดว่าเป็นสีที่ “เป็นมิตร” รวมทั้งสื่อถึงการเดินทาง การผจญภัย ความสนุกสนาน นั่นจึงทำให้แบรนด์ยักษ์อย่าง Nike เลือกใช้สีส้มเป็นสีหลักในการสร้างแบรนด์ ซึ่งไม่ใช่แค่แบรนด์กีฬาระดับโลกเท่านั้น แบรนด์หรูอย่าง Hermes ก็เลือกสีส้มเป็นสีหลักในโลโก้ รวมทั้งในแพคเกจจิ้งเช่นเดียวกัน สีส้มเป็นอีกหนึ่งโทนที่เป็นมิตรและดูอ่อนโยนกว่าสีแดง
5.สีเขียว
สีเขียว สื่อถึงธรรมชาติ สุขภาพ ความสดชื่น ความสงบ แบรนด์ในวงการเภสัชหรือเกี่ยวกับการแพทย์จึงนิยมใช้สีเขียวเป็นสีหลัก แต่วงการอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอาหารคลีน ร้านสลัด ก็มักจะใช้สีเขียวเป็นส่วนประกอบในการสร้างแบรนด์เช่นเดียวกัน รวมถึงแบรนด์ยักษ์อย่าง Starbucks ก็เลือกใช้สีเขียวเพื่อที่จะสื่อถึงเครื่องดื่มคุณภาพ บวกกับแคมเปญการลดการใช้พลาสติกของแบรนด์ที่ใช้แก้วกระดาษ ยิ่งทำให้แบรนด์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เสริมภาพลักษณ์การรักษ์โลกได้มากขึ้น
6.สีม่วง
สีม่วง เป็นสีแห่งความคิดสร้างสรรค์ ความปราดเปรื่อง ความแข็งแกร่ง ซึ่งแบรนด์ที่เลือกใช้สีนี้จะทำให้เกิดคาแรคเตอร์ที่น่าค้นหา ลึกลับ ในอดีตวงการอาหารไม่ค่อยนิยมใช้สีม่วงเป็นส่วนประกอบของแบรนด์สักเท่าไหร่ เพราะสีม่วงถือเป็นสีที่ลดความอยากของอาหาร แต่ในปัจจุบันเริ่มมีแบรนด์ร้านอาหารเริ่มมีการใช้สีม่วงในการสร้างแบรนด์ อย่างเช่นแบรนด์ Taco Bell ใช้สีม่วงในการสร้างคาแรคเตอร์ที่น่าค้นหา พร้อมความคิดสร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์คนยุคมิลเลนเนียล เป็นอีกหนึ่งสีมาแรงที่วงการอาหารจะต้องติดตาม
7.สีขาว
เป็นสีให้ที่อารมณ์เงียบ สงบ โปร่งสะอาดสะอ้าน ช่วยให้สินค้าดูเรียบหรูและโดดเด่นได้ ซึ่งแบรนด์ที่ใช้สีขาวในการสร้างแบรนด์รวมทั้งผลิตภัณฑ์ก็คงหนีไม่พ้นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง Apple นั่นเอง แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ตั้งแต่มือถือ Macbook ไปยัน Gadget อื่นๆ แบรนด์ Apple จะเลือกใช้สีขาวเป็นหลัก จะเห็นได้เพียงการใช้สีมินิมอลง่ายๆ อย่างสีขาวก็สามารถช่วยเสริมคาแรคเตอร์ให้ดูแพงได้โดยไม่ต้องใช้สีเยอะเลย
8.สีดำ
เป็นอีกหนึ่งสีที่ช่วยสร้างคาแรคเตอร์หรูหราได้ไม่แพ้กับสีขาว ถ้าสีขาวดูสะอาดเรียบหรูแล้ว สีดำนี้จะช่วยสร้างคาแรคเตอร์ที่ดูเท่ สุขุม และมีระดับ ตัวอย่างบัตรเครดิต Black Card บัตรเครดิตไฮเอนด์สำหรับผู้มีระดับก็เลือกใช้สีดำที่ผลิตจากไททาเนียมมอโนไดซ์ เพิ่มความหรูหราเหนือนะดับอย่างไม่ต้องปฏิเสธ ซึ่งสีดำนีแหละเป็นตัวช่วยสร้างสถานะทางสังคม ให้คาแรคเตอร์ผู้ดี ได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Living Insider