สำหรับปัญหาของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ โดยเฉพาะมือใหม่จะพบเจอทุกครั้งในการโพสต์ขายสินค้าผ่านช่องทาง Facebook ก็คือ การถูกระบบปิดกั้นการมองเห็น ทำให้มีผู้เห็นรายละเอียดสินค้าน้อยมาก จนทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดได้
ชี้ช่องรวย จึงมีข้อแนะนำดีๆ จากผู้ใช้ Facebook ชื่อว่า ADVERRA ได้ให้ข้อแนะนำวิธีการแก้ไขปิดกั้นการเข้าถึงโดยมีรายละเอียด ดังนี้
คำถามอีกคำถามที่ผมเจอทุกวัน “รับแก้เฟสปิดการมองเห็นไหมคะ”
ก่อนคุณจะแก้คุณต้องมาดูก่อนครับ มันมีสองส่วน
-คำว่าเฟส คือเฟสโปรไฟล์ทั่วไป
-คำว่าเพจ คือ เพจที่อยู่ในโปรไฟล์นั้นๆ ที่เฟสนั้นเป็นแอดมิน
ดังนั้นเฟสปิดการมองเห็น กับเพจปิดการมองเห็นมันจึงไม่เหมือนกันครับ
เฟสถ้าปิดการมองเห็น นั่นคือ โพสเท่าไร ก็ไม่มีคนมาดูเลย อาจเป็นเพราะเราไปทำอะไรให้เฟสมันปิดกั้น ส่วนใหญ่จะแชร์เยอะไป ดังนั้นวิธีแก้ คือ หยุดแชร์ หยุดโพสสัก 1 อาทิตย์ครับ แล้วเฟสมันจะกลับมาเอง
วิธีที่สอง ลองใช้พวกฟังชั่น “กดถูกใจโพสเพื่อน” หรือ “อวยพรวันเกิดเพื่อน” อันนี้มันจะทำให้มีปฎิสัมพันธ์ดีขึ้นครับ แต่อย่าทำเยอะไป ทำวันละ 50 60 คนก็พอ
ส่วนเพจถูกปิดการมองเห็น มันจะมีสองแบบนะครับ
– ปิดการมองเห็นแบบคนเข้าถึง 0 เลย แบบนี้อาจเกิดจากเราโพสข้อความหรือรูปที่มีการละเมิด facebook เช่นรูปโป๊ ขายสัตว์ อาวุธ ของปลอม ซึ่งตรงนี้ ให้ลองดูคุณภาพเพจครับ ตามรูปแล้ว facebook จะบอกครับ ว่าเพราะอะไร วิธีแก้ข้อนี้ ก็ลบข้อมูลในแฟนเพจออกให้หมดครับ หรือลบเฉพาะบางโพสที่เราคิดว่าละเมิดออก จากนั้นรอสัก 1 อาทิตย์แล้วค่อยโพสอะไรลงไปครับ ก็น่าจะกลับมาเหมือนเดิม
– ลดการมองเห็น แบบนี้คือลดการมองเห็น ซึ่งไม่ได้เรียกว่าปิด แบบนี้เจอบ่อยสุดครับ ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของ facebook เองที่มันปรับอัลกอรึทึมแล้วทำให้บางเพจการมองเห็นลดลง วิธีการแก้ไขคือ ลองส่งข้อความหาลูกค้าในแฟนเพจ หรือ เชิญคนถูกใจโพสมากดถูใจเพจ หรือ ภายใน 2-3 อาทิตย์มันน่าจะกลับมาปกติครับ ซึ่งบางทีคนอาจจะเข้าใจผิดว่า เพราะส่งข้อความหาลูกค้าเยอะไป หรืออะไร มันไม่เกี่ยวครับ เพราะเพจเองทำมาเพื่อให้เราส่งข้อความหาลูกค้าได้เยอะๆ อยู่แล้ว นอกจากเราจะไปส่งอะไรที่ไม่เหมาะสมให้ลุกค้าถึงเป็นกรณีนั้น หรือในบางครั้ง facebook ลดดื้อๆ โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย ดังนั้นไม่ต้องตกใจ มันเป็นเรื่องปกติที่เจอกันแทบทุกเพจ เดี๋ยวมันจะปกติเอง หากเราทำคอนเทนต์ดีๆ
วิธีเหล่านี้อาจช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ ลองทำดูครับ
ขอขอบคุณที่มา Facebook : ADVERRA