ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

5 ข้อชวนคิด สำหรับผู้เริ่มต้น “ธุรกิจสลัด” หากจับจุดตลาดได้ รับรองรุ่งแน่


อีกหนึ่งในอาหารรักษ์สุขภาพที่ผู้คนนิยมรับประทานกันในยุคนี้ คือ “สลัด” ไม่ว่าจะเป็นสลัดผักหรือผลไม้ก็ล้วนแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายแทบทั้งสิ้น จึงไม่แปลกใจเลยว่า ร้านอาหารเพื่อสุขภาพหรือร้านสลัดจึงขายดี เพราะไม่ว่าจะจะไปเดินตลาดนัดเล็กๆ ไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ จะต้องมีเมนูสลัดติดร้านไว้เสมอ จนบางคนเห็นเป็นช่องทางทำเงินจึงลงทุนเปิดร้านขายสลัดอย่างจริงจังเลยก็มี

ดังนั้น สำหรับใครที่กำลังมีแนวคิดจะทำสลัดขายไม่จะขายตามแหล่งชุมชน ตลาดนัด หรือจะผ่านช่องทางออนไลน์ ชี้ช่องรวย ก็อยากจะขอให้คำนึงถึง 5 หลักก่อนเปิดร้าน เพื่อนำไปพัฒนาและประยุกต์ให้เข้ากับรูปแบบร้านของคุณ ดังนี้

1.จุดเด่นอยู่ที่ “น้ำสลัด”

กลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่ม มีความชื่นชอบในรสชาติต่างกัน หากสามารถจำแนกได้ว่า น้ำสลัดชนิดไหนเหมาะกับกลุ่มลูกค้าประเภทใด เช่น กลุ่มลูกค้าเด็ก ผู้เริ่มรับประทานผัก กลุ่มลูกค้าวัยทำงาน กลุ่มลูกค้าผู้ชาย กลุ่มลูกค้าผู้สูงวัย เป็นต้น และหากทำให้มีหลากหลายรสชาติแล้ว มีส่วนผสมของ ผัก ผลไม้สด ทำให้มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น ไม่หวานมากนัก ไขมันต่ำ แคลอรี่ต่ำ ก็สามารถสร้างความแตกต่างของธุรกิจสลัดได้เป็นอย่างดี

2.ทำแบบ”สลัดโรล” ที่หยิบทานง่าย ทุกที่ทุกเวลา

ปัจจุบันผู้บริโภคต่างนิยมความสะดวกในการรับประทานมากขึ้น หากเปลี่ยนแปลงจากสลัดที่ต้องใช้ภาชนะ ต้องมีช้อนส้อม ต้องมีอุปกรณ์ สถานที่ในการทาน ที่มีความยุ่งยากอยู่แล้ว ให้กลายเป็นทานสลัดแบบง่ายๆ ที่ไหนก็ได้
ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากนัก ไม่หกเลอะเทอะ ดัดแปลงเมนูใหม่ๆ ทำแบบพอดีคำให้ง่ายต่อการรับประทาน พยายามสร้างความสะดวกให้กับลูกค้า ก็ยิ่งทำลูกค้าประทับใจในสินค้ามากขึ้น

3.ผักต้อง “สด ใหม่- มีที่มา- ใส่ใจ”

ผักถือเป็นหัวใจหลักของการทำธุรกิจสลัด ต้องเลือกใช้ผักที่มีความสด ใหม่ ไม่ช้ำ ไม่เหี่ยว ใช้ผักปราศจากสารพิษ หรือผักออแกนิก มีที่มาของฟาร์มอย่างชัดเจน ที่มีกระบวนการผลิตที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพของผู้รับประทาน เป็นการแสดงถึงความจริงใจที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า และลูกค้าสามารถรับรู้ถึงความใส่ใจของร้านค้า

4.รูปแบบของผลิตภัณฑ์ ต้อง “สวยงามและทันสมัยเหมาะสมกับสินค้า”

รูปลักษณ์ของสินค้าจัดเป็นด่านแรกที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ดังนั้น แพคเก็จที่สวยงาม และทันสมัย ย่อมเป็นที่ดึงดูดสายตาของลูกค้าได้มากกว่า นอกจากนั้น แพคเก็จที่ดีต้องปกป้องสินค้าให้ปลอดภัย ไม่แตกหัก สามารถรักษาคุณภาพให้ดีที่สุดก่อนถึงมือลูกค้า หากเป็นแพคเก็จที่วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก็สามารถสร้างความแตกต่างของธุรกิจ และสร้างภาพลักษณ์ของร้านได้เป็นอย่างดี

5.ผู้ขายหรือพนักงานต้อง “รู้จักสินค้าของตัวเอง”

ศึกษา เรียนรู้ ทำความเข้าใจในสินค้าตัวเอง ว่ามีลักษณะพิเศษ หรือจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร ลูกค้ามีความจำเป็นหรือต้องการอะไรจากเรา เช่น หากลูกค้าไม่ชอบน้ำสลัดที่มีรสเปรี้ยว หรือบางอย่างไม่สามารถทานได้ เราก็สามารถแนะนำรสชาติอื่น ให้ลูกค้าได้ทดลองชิม บอกถึงวัตถุดิบ ส่วนผสม มีอะไรบ้างที่ลูกค้าสามารถทานทดแทน หรือหลีกเลี่ยงได้ ข้อนี้สามารถสร้างความประทับใจ ทำให้ลูกค้ารับรู้ถึงความใส่ใจ และเชื่อใจว่าเราสามารถเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับปัญหาของเขาได้