ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

7 สิ่งจำเป็นต้องรู้เตรียมตัวให้พร้อมก่อนบุก ”ตลาดจีน”


“ตลาดจีน” เป็นหนึ่งในตลาดที่ล่อตาล่อใจผู้ประกอบการไทยอย่างมาก ด้วยปัจจุบันประเทศจีนมีประชากรทะลุ 1,400 ล้านคน หากสามารถเจาะตลาดได้เพียงแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดก็เหมือนขายของให้คนไทยทั้งประเทศ จึงไม่แปลกที่ตลาดนี้จะน่าสนใจและเป็นที่ใฝ่ฝันของผู้ประกอบการไทย คำถาม : แล้วจะทำอย่างไรถึงจะเจาะตลาดจีนได้ วันนี้ ชี้ช่องรวย ได้นำแนวทางดี ๆ มาให้ใครก็ตามที่มีแผนจะบุกตลาดจีนได้เตรียมความพร้อมก่อนลุยมาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1.อินเตอร์เน็ตเข้าถึงประชากรจีนกว่า 58% ของประชากรทั้งหมด

ประเทศจีน มีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงถึง 829 ล้านราย มากกว่าไทยราว 10 เท่า และเกือบ 100% ที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน และอีกตัวเลขที่น่าสนใจ คือ คนจีนใช้อินเตอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลในเมืองจีนมีมากถึง 1.5 ชั่วโมงต่อวัน แต่ยิ่งไปกว่านั้นตลาดจีนถือว่าเป็นตลาดที่พัฒนาก้าวไกลกว่าประเทศอื่น ๆ

ในเรื่องของแอพพลิเคชั่นและแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยปัจจุบันมีอัตราการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตมากถึง 58% ของประชากรทั้งหมด จึงหาทำให้การตลาดออนไลน์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับบริษัทไทยที่ไม่ควรมองข้าม

2.แพลตฟอร์มในจีน

รู้หรือไม่แพลตฟอร์มที่เรารู้จักกันอย่าง Facebook YouTube Twitter Instagram ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างไรแต่เป็นมานานหลายปีแล้วช่วยทำให้เมืองจีนเองมีการพัฒนา เช่น Weibo ซึ่งเปรียบเสมือน Facebook & Twitter หรือใช้ Baidu แทน Google แม้แต่ Amazon ก็ไม่สามารถใช้ได้ และหันมาใช้ TMall, Taobao, JD แทน นักการตลาดจะต้องศึกษาแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นอย่างดีเพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคจีนได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น

3.ต้องหาวิธีแจ้งเกิดให้ได้

ในส่วนของการทำการตลาดในประเทศจีนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากมีจำนวนประชากรมหาศาล มีการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มออนไลน์ในระดับสิบล้านครั้งภายใน 60 วินาที ยกตัวอย่างข้อมูลที่ทาง AVG Thailand พบเช่น มีการจ่ายเงินบน Alipay 15,397,092 ครั้ง, มีการเสิร์ชบน Baidu 4,166,667 ครั้ง หรือมีการส่งแมสเสจบน QQ 11,111,111 ครั้ง (ขอบคุณข้อมูลจาก brandbuffet)

จากจำนวนปริมาณที่มากทำให้ยากที่จะมองเห็นคอนเทนต์ทั้งหมด ดังนั้น ควรเลือกลงโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีอยู่ในจีน แต่การจะจะลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ ต้องผ่านการตรวจสอบยืนยันตัวตนอย่างเคร่งครัดจากภาครัฐ ซึ่งมีผลทำให้คนจีนจำนวนไม่น้อยมั่นใจว่าผู้ที่ลงโฆษณาได้คือคนที่น่าเชื่อถือจริง และมีตัวตนจริง ทำให้คนจีนมีอัตราการคลิกโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากกว่าผู้บริโภคในประเทศอื่น ๆ

4.เขามองสินค้าจากต่างประเทศอย่างไร

ผลิตภัณฑ์จากต่างประเทศมักถูกมองว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและน่าเชื่อถือมากกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศจีน ดังนั้นสินค้าจากไทยถือว่าได้เปรียบเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ของจีนเอง แม้การขออนุญาตนำเข้าของผลิตภัณฑ์จะใช้เวลานาน แต่ก็คุ้มค่าเพราะเมื่อสามารถวางขายในประเทศจีนได้เองแล้วนั้นการเข้าถึงของลูกค้าจะสะดวกมากขึ้น

และนี่เองก็เป็นเหตุผลที่ทำไมนักท่องเที่ยวจีนนิยมซื้อของในประเทศไทยโดยเฉพาะใน Duty Free ถ้ามีความเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ที่ซื้อจากต่างประเทศนั้นมีคุณภาพและภาพลักษณ์ที่ดีเหมาะสำหรับการซื้อเป็นของฝาก บริษัทไทยจึงควรที่จะเน้นการรับรู้ของแบรนด์ให้ลูกค้าทราบถึงที่มาที่ไปของบริษัทรวมถึงคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์มากกว่าการสื่อสารเรื่องคุณภาพ

5.แล้วจะแข่งขันกับจีนได้อย่างไร

คนจีนไม่ได้ซื้อของเก่งอย่างเดียว อย่างที่รู้คนจีนขายของเก่งเช่นกัน ดังนั้น ลืมความคิดแบบเดิม ๆ ได้เลยว่าสินค้าของจีนด้อยคุณภาพ ดังนั้นคุณภาพของสินค้าไทยที่จะไปตีตลาดจีนนั้นต้องทำให้ดีกว่า นั่นหมายถึงการสำรวจตลาดจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ การเจาะตลาดคนจีนโดยใช้คนจีนที่มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ช่วยติดต่อสอบถามหรือค้นหาตลาดได้

6.เลิกใช้กลยุทธ์เก่า แล้วเปลี่ยนมาใช้กลยุทธ์ใหม่

ปัญหาที่จะพบบ่อยโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ในไทยก็คือการวางแผนกลยุทธ์โดยใช้ตลาดไทยเป็นบรรทัดฐาน นอกจากผู้บริโภคของจีนยังมีความต้องการและความชอบแตกต่างกับผู้บริโภคในไทย ทั้งการรับรู้ของแบรนด์ไทยที่ยังไม่เคยไปบุกตลาดจีนอย่างจริงจัง ด้วยเหตุผลนี้เองผลิตภัณฑ์ไทยที่มีชื่อเสียงและประวัติความเป็นมาอันยาวนานไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าจะประสบความสำเร็จในตลาดจีน

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนก็ตามควรทำการทดลองตลาดกับผู้บริโภคกลุ่มย่อย ๆ ก่อนที่จะลุยตลาดจีนเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมบริโภคของจีนและผลตอบรับต่อผลิตภัณฑ์เผื่อที่ว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับนิสัยและความต้องการของลูกค้าจีนก่อน

7.WeChat เครื่องมือสำคัญอย่ามองข้าม

ทุกบริษัทจำเป็นต้องมี WeChat ไว้คอยติดต่อสื่อสารกับลูกค้าไม่ว่าจะเป็น การปิดการขายหรือบริการลูกค้าล้วนใช้ WeChat ในการติดต่อสื่อสารกันทั้งนั้น แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ทราบก็คือ WeChat เป็นมากกว่าโปรแกรมไว้คุยกัน คนจีนส่วนใหญ่ใช้ WeChat ในการเข้าถึงบริการอื่น ๆ เช่นการจ่ายค่าน้ำค่าไฟการจองตั๋วหนัง ตัวเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ หรือแม้แต่การเรียกแท็กซี่

และการสั่งซื้อของออนไลน์ล้วนแล้วสามารถทำได้ใน WeChat ทั้งหมด บริษัทไทยจึงควรหาฟังก์ชั่นที่เกี่ยวข้องและสามารถใช้ในการ promote สินค้าและผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้นโดยใช้แพลตฟอร์ม WeChat นี้เป็นหลัก

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ผู้ประกอบการควรจะรู้ก่อนจะลุยตลาดจีน สำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่ต้องการนำสินค้าไปเปิดที่ตลาดจีน แต่ยังไม่มีความรู้หรือยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประเทศจีน ชี้ช่องรวย ขอแนะนำหลักสูตรที่น่าสนใจ คือ Smart Manual for Entering Chinese Market “ปูพื้นการตลาดจีน ยกระดับการขยายตลาดจีนอย่างยั่งยืน” ที่จะช่วยให้คุณมีความรู้เท่าทันกับกฎหมายและรายละเอียดต่างๆ ในการลงทุนที่ประเทศจีน

โดยหลักสูตรนี้จะสอนให้คุณรู้จักประเทศจีนแบบครอบคลุมทุกจุด รวมไปถึงตลาดในจีนและผู้บริโภคชาวจีน ที่รูปแบบการสอนจะเน้นให้คุณมองภาพเหมือนเดินทางไปตลาดจีนแบบ Step by Step สอนโดย คุณสุวัฒน์ รักทองสุข ผู้บริหาร บริษัท Lert Global Group จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดจีนและธุรกิจ Ecommerce จะมาให้ความรู้การตลาดจีนและโอกาสการเข้าไปเปิดตลาดจีน พร้อมทั้งให้ความรู้และตอบข้อสงสัยให้กับคุณได้

โดยการอมรมแบบเข้มข้นใน 1 วัน + Workshop 1 วัน และ Product Testing !!! มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ดังนี้

1.ภาพรวมตลาดจีน: ศักยภาพ

  • ศักยภาพทางเศรษฐกิจ
  • ตลาดการบริโภคสินค้า
  • เทรนด์อุตสาหกรรม
  • การแบ่งทางภูมิศาสตร์และเศรษฐกิจในประเทศ

2.รู้จักประเทศจีนดีแล้วหรือยัง? พฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน

  • การแบ่งผู้บริโภค 4 ด้าน
  • ประเภทของผู้บริโภคและความชอบของผู้บริโภค
  • เทรนด์ของผู้บริโภคในปี 2020-2021
  • “เศรษฐกิจของกลุ่มแฟนคลับ” ผลลัพธ์จากดาราไทย

3.สินค้าขายดีในตลาดจีน: เทรนด์ของสินค้าและการผลิตที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทันที

  • เทรนด์ของสินค้า
  • สินค้าขายดี

4.กลยุทธ์การเข้าตลาดจีน

  • วิเคราะห์ว่าคุณพร้อมไปตลาดจีนหรือยัง
  • ชื่อจีนและโลโก้
  • การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
  • งานวิจัยตลาดจีนและผู้บริโภคจีน
  • วิเคราะห์ช่องทางการขายและโมเดลการส่งออก
  • การหานายหน้า
  • การเริ่มทำการตลาดและ Branding
  • การขายบน e-Commerce จีน

ประเทศจีนถือเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้น โอกาสที่จะนำสินค้าไทยเข้าไปเปิดตลาดจึงมีความเป็นไปได้สูง เพราะผู้บริโภคชาวจีนเชื่อมั่นในสินค้าไทย จากการเปิดรับสินค้าและผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยแทบจะทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนั้น การศึกษาตลาด ขนบธรรมเนียมประเพณี และกฎหมายของจีนจะช่วยให้คุณก้าวไปเปิดตลาดในจีนได้อย่างมั่นใจ

สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 094-915-4624