ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ชี้ช่องรวยแนะ คนที่อยากรวย อยากเป็นเศรษฐี นอกจากทำมาหากินแล้วลองฝีก 5 นิสัยนี้ไว้ให้เคยชิน

ใครอยากเป็น “เศรษฐี” ฉันน่ะสิ ฉันน่ะสิ แฮ่!!! เชื่อได้เลยว่า ไม่มีใครไม่อยากเป็น “เศรษฐี” แต่จะทำอย่างไรที่จะให้คำๆ นี้เฉียดหรือย่างกรายมาเราแบบง่ายๆ ก็คงตอบได้เลยว่า ยาก หากคุณไม่เริ่มต้นเปลี่ยนพฤติกรรมหรือนิสัยนี้ และไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาค่อนแคะให้คุณจิตตก อย่าลืมว่า “หากแคร์คำคน ความจนก็จะอยู่กับตนตลอดไป” ชี้ช่องรวย มี 5 ข้อง่ายๆ มาให้คุณๆ ลองฝึกกัน หากฝึกจนเป็นนิสัย จะทำให้คุณห่างไกลคำว่า จน ไม่มากก็น้อย ลองนำไปปฏิบัติดูกัน

1.ใช้คูปองส่วนลดให้มากที่สุด

อย่าคิดว่าคูปองส่วนลดเล็กๆ น้อยๆ ไม่กี่สตางค์จะไม่มีประโยชน์กับคุณนะคะ เพราะจากผลสำรวจชี้ชัดเลยว่า คนรวยครองสถิติใช้คูปองส่วนลดแบบกระดาษในการจับจ่ายมากกว่า 71 % ส่วนสถิติใช้คูปองออนไลน์ก็สูงถึง 54 % ต่อเดือน เลยทีเดียวนะ

2.มีมาก ก็ไม่จำเป็นต้องใช้มาก จริงไหม

ให้เก็บคำว่า “มีมากใช้มาก มีน้อยใช้น้อย” เข้ากรุความคิดไว้ตลอดกาล แล้วเปลี่ยนมาเป็น “มีมากใช้น้อย มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง (อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน ฮา!) ดูตัวอย่างจาก วอร์เรน บัฟเฟต มหาเศรษฐีด้านการลงทุน ถึงแม้เขาจะมีเงินมากเป็นพันๆ ล้าน แต่กลับอยู่ในบ้านหลังกะทัดรัด รถที่ใช้ก็เป็นรถยนต์ธรรมดา ๆ ไม่ใช่รถหรูหราอะไร ส่วนเจ้าพ่อเฟซบุ๊กอย่างมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ยังใช้รถเก๋งราคาแค่ล้านต้น ๆ กับเสื้อผ้าสีพื้นเดิม ๆ ซึ่งทำให้เห็นเลยว่าแม้จะมีเงินมหาศาล แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินให้มากเท่าที่หามาได้ เราควรจะต้องรู้ว่าใช้เงินไปกับอะไร เพื่ออะไร และทำไมต่างหาก

3.มีแล้วต้องแบ่งปัน

เราจะเห็นตามข่าวออนไลน์ทั่วไปว่ามหาเศรษฐีรวยระดับโลกมักจะมีนิสัยใจบุญ ชอบเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ดูอย่างบิล เกตต์, วอร์เรน บัฟเฟต, มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หรือไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีระดับโลกเหล่านี้ก็มักจะมีรายชื่อเป็นผู้ร่วมบริจาคให้แก่องค์กรการกุศลต่าง ๆ เป็นหลักพันล้าน ซึ่งนับว่าเป็นการต่อยอดเม็ดเงินที่มีให้ได้ทำประโยชน์กับส่วนรวม ซึ่งแนวคิดดี ๆ เช่นนี้อาจส่งเสริมให้เขาเป็นที่รู้จักและมีคอนเนคชั่นหลาย ๆ ทาง พาให้ธุรกิจของตัวเองราบรื่นมากยิ่งขึ้นก็ได้

4.จ่ายเงินซื้อคุณภาพมากกว่าปริมาณที่ได้

นิสัยประหยัดไม่ได้แปลว่าต้องซื้อแต่ของราคาถูกเท่านั้น ทว่าคนรวยเขาคิดและไตร่ตรองก่อนจ่ายเงินซื้อสินค้าทุกครั้งว่าสินค้าชิ้นนั้นมีคุณภาพมากแค่ไหน คุ้มค่ากับเงินที่จะต้องเสียไปหรือเปล่า และแม้สินค้าชิ้นนั้นจะมีราคาสูงมาก แต่คุณภาพคับแน่นก็ไม่เห็นต้องเสียดายเม็ดเงินที่เสียไปเลยนี่นา

5.ไม่พกเงินสดติดตัวเยอะ

จากผลสำรวจพบว่า คนมากกว่า 86 % มักจะจ่ายเงินสดซื้อรถหรูหรือสินค้าแบรนด์เนมเพื่ออวดร่ำอวดรวยว่ แต่สำหรับเศรษฐีจริงๆ จะไม่พกเงินสดติดตัวเป็นฟ่อนๆ เพราะเขามักจะใช้เงินด้วยสติ และพยายามจะหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้บัตรเครดิต ยิ่งหากต้องซื้อของชิ้นใหญ่ราคาสูงมากๆ ประเด็นนี้ต้องใช้เวลาขบคิดถึงประโยชน์และความคุ้มค่าอยู่นานพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างอยู่ที่ใจของคุณล้วนๆ เพราะถ้าคุณหนักแน่นก็ไม่มีใครมาล้วงเงินจากกระเป๋าของคุณได้แน่นอน อยากรวยก็ขอให้ฉุกคิดก่อนจะล้วงเงินออกจากกระเป๋า