ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

BBL แนะกลุ่มอี-คอมเมิร์ชต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับเทรนด์


แบงก์กรุงเทพ (BBL) มองบวกกลุ่มเอสเอ็มอี คาดว่าสินเชื่อ SME ปี 62 โต 4-5% แนะลูกค้ากลุ่มอีคอมเมิร์ซต้องเร่งปรับตัวให้เร็ว รับเทรนด์โลกเปลี่ยนแปลงเร็ว กลุ่มที่มีโอกาสคืออาหาร ก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง

นายวีระศักดิ์ สุตัณฑวิบูลย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) เติบโตใกล้เคียงกับช่วงปีที่ผ่านมาที่ระดับ 4-5% การเติบโตในกลุ่มลูกค้าดังกล่าวของธนาคารยังเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ เชื่อว่าแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของตลาดโลกไม่น่าจะกระทบต่อตัวลูกค้าธนาคารมากนัก เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) มีการส่งสัญญาณบางอย่างบ่งบอกถึงการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต หากเป็นเช่นนี้ดอกเบี้ยทั่วโลกมีโอกาสชะลอตัวตามได้

สำหรับภาพรวมเอสเอ็มอีในปีนี้มองว่าผู้ประกอบการควรรีบปรับตัวให้เร็วที่สุด เนื่องจากโลกมีการปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หากไม่มีการปรับเปลี่ยนก็อาจก่อให้เกิดผลเสียขึ้นได้ โดยเฉพาะลูกค้าอีคอมเมิร์ซ (การค้าผ่านตลาดออนไลน์) ในอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูงมากถึง 3.2 ล้านล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณ 10-13%

ขณะที่การทำบัญชีเดียวเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากทำให้ธนาคารสามารถเห็นข้อมูลได้ชัดเจนในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้า โดยกฎหมายบัญชีเดียวได้เริ่มใช้อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2562 ที่ผ่านมา สำหรับลูกค้าธนาคารกรุงเทพส่วนใหญ่มีการทำบัญชีเดียวไปหมดแล้ว

“กลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารในปีนี้มองว่าจะเติบโตประมาณ 4-5% โดยกลุ่มที่ยังเติบโตได้ดี คือกลุ่มก่อสร้าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มอาหาร และเชื่อว่าการลงทุนของภาครัฐจะช่วยผลักดันให้กลุ่มเอสเอ็มอีเติบโตต่อไปได้” นายวีระศักดิ์ กล่าว

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์สงครามทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มองว่าจะเป็นผลบวกกับประเทศไทยมากกว่า เพราะจีนจะเลือกไทยกับเวียดนามเป็นฐานกำลังผลิตแห่งใหม่แทน