“วีรศักดิ์” นำ 3 หน่วยงานพาณิชย์ลงพื้นที่พบปะเกษตรกร สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดระยอง วันที่ 24 ส.ค.นี้ เตรียมช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับ “ขนุนทอดกรอบ” สินค้าดาวรุ่งตัวใหม่ของจังหวัด ทั้งการทำตลาดในประเทศ และการส่งออกต่างประเทศด้วยการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ พร้อมดันขึ้นทะเบียน GI เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เผยยังมีกำหนดดูความคืบหน้าการพัฒนาร้านค้าส่งค้าปลีก ร้านโชวห่วยในพื้นที่ด้วย
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 24 สิงหาคม 2563 ก่อนที่จะเข้าร่วมการประชุม ครม. สัญจร ในวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ณ จังหวัดระยอง จะนำผู้แทนจากกรมต่างๆ ของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่หารือกับเกษตรกร สหกรณ์ และวิสาหกิจในท้องถิ่น เพื่อช่วยพัฒนาศักยภาพของสินค้าชุมชนให้มีโอกาสทางการตลาดเพิ่มขึ้น ทั้งการจำหน่ายในประเทศและการขยายตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ
ทั้งนี้ มีกำหนดหารือกับวิสาหกิจชุมชนบ้านโป่งสะท้อน อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง เพื่อสำรวจศักยภาพการแปรรูปขนุนพันธุ์ทองประเสริฐเป็นสินค้าขนุนทอดกรอบ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพสูงในการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศ
เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดกลุ่มรักสุขภาพได้ดี เพราะเป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและสามารถทดแทนขนมขบเคี้ยวที่มีขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาดได้ และที่สำคัญขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ ยังปลูกได้ง่าย ให้เปอร์เซ็นต์เนื้อในผลเยอะ สามารถรองรับอุตสาหกรรมการแปรรูปเพื่อการส่งออกได้
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ในการทำตลาดต่างประเทศ จะแนะนำให้ใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ในการส่งสินค้าไปขาย โดยปัจจุบันคู่เจรจาเอฟทีเอ 17 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง
ไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าขนุนสดที่ส่งออกจากไทยแล้ว ยกเว้นเกาหลีใต้ที่เก็บภาษีนำเข้าขนุนสดที่อัตรา 36% ส่วนสินค้าขนุนอบแห้งหรือขนุนทอดกรอบของไทยไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้าใน 15 ประเทศคู่เอฟทีเอ ยกเว้นเพียง เกาหลีใต้ อินเดียและสปป.ลาว ที่คงภาษีนำเข้าที่อัตรา 36% 30% และ 5% ตามลำดับ
ขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะดำเนินการศึกษารายละเอียดของสินค้าดังกล่าวว่ามีคุณสมบัติเข้าข่ายที่จะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ได้หรือไม่ หากทำได้ จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน
จากนั้นจะเดินทางไปที่ร้านวรรณ (บริษัท วัชราวรรณ (2008) จำกัด) ซึ่งเป็นร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบที่ได้รับการส่งเสริมพัฒนาจากกระทรวงพาณิชย์ มีร้านค้าปลีกสาขา จำนวน 3 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง และมีสมาชิกเครือข่ายร้านค้าปลีก/ร้านโชวห่วย จำนวนกว่า 2,000 ร้านค้า
โดยจะไปรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ทั้งจากร้านค้าส่งค้าปลีก และร้านโชวห่วย เพื่อนำมาปรับปรุงแผนการส่งเสริมและพัฒนาให้ตรงตามเป้าหมายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ร้านค้าส่งค้าปลีกและร้านโชวห่วย มีการพัฒนาและสามารถแข่งขันกับโมเดิร์นเทรดได้ และเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูก
สำหรับการส่งออกขนุนของไทยในช่วง 6 เดือนปี 2563 (ม.ค. – มิ.ย.) มีมูลค่าสูงกว่า 13 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.94% โดยมีตลาดส่งออกหลัก คือ มีตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ จีน มูลค่าการส่งออก 7,217,647 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 6.16% เวียดนาม มูลค่าการส่งออก 5,709,021 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 54.22% สปป.ลาว มูลค่าการส่งออก 162,566 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 464.01% เยอรมนี มูลค่าการส่งออก 85,179 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 682.46% และเมียนมา มูลค่าการส่งออก 63,976 เหรียญสหรัฐ เพิ่ม 34,486.61%
ผู้สนใจข้อมูลการค้าระหว่างประเทศและการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ สามารถหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ www.dtn.go.th หรือติดต่อ ศูนย์บริการข้อมูล FTA (FTA Center) โทร 0-2507-7555