ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

EXIM BANK คว้า 3 รางวัล จากงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นประจำปี 2563


พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงานมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (State-owned Enterprise Award : SOE Award) ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “รัฐวิสาหกิจร่วมใจ ไทยปลอดภัยเข้มแข็ง” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กระทรวงการคลัง เพื่อสนับสนุนรัฐวิสาหกิจที่มีความสามารถในการปรับตัวและบริหารจัดการผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563
ในโอกาสดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้มอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่นให้แก่ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) จำนวน 3 รางวัล ประกอบด้วย

รางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น ได้แก่ นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK โดยพิจารณาจากการบริหารจัดการองค์กรดีเด่น มีคะแนนผลการดำเนินงานองค์กร ปี 2562 ตั้งแต่ 4.5 คะแนนขึ้นไป รวมทั้งผลประกอบการตามภารกิจ ผลประกอบการทางการเงิน การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล การบริหารจัดการ วิสัยทัศน์ของผู้นำ การถ่ายทอดวิสัยทัศน์ไปสู่การปฏิบัติ บทบาทของผู้นำในการสร้างกลยุทธ์ที่ทำให้ประสบความสำเร็จ การให้ความสำคัญและการดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและความรับผิดชอบต่อสังคม (CG & CSR) การให้ความสำคัญและการดำเนินการเพื่อพัฒนาองค์กรให้ยั่งยืน การนำประเด็น Thailand 4.0 มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการองค์กร รวมถึงการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ

นอกจากเกณฑ์การพิจารณาข้างต้นแล้ว ผลงานของกรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ที่สำคัญ อาทิ การบริหารจัดการและจัดให้มีมาตรการพิเศษเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ในภาวะวิกฤต เช่น มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การออกผลิตภัณฑ์และมาตรการพิเศษทั้งด้านการเงินและมิใช่การเงินเพื่อบรรเทาผลกระทบและป้องกันความเสี่ยงทางการค้าระหว่างประเทศในภาวะวิกฤตต่าง ๆ อาทิ สงครามการค้าและเงินบาทแข็งค่า การพัฒนาองค์กรเพื่อเป็นที่พึ่งและสร้างโอกาสธุรกิจใหม่ ๆ แก่ผู้ประกอบการ การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศตลาดใหม่ การสนับสนุนการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อยกระดับศักยภาพและนวัตกรรมของภาคธุรกิจ เป็นต้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK ได้รับรางวัลผู้นำองค์กรดีเด่น

รางวัลความสามารถในการจัดการวิกฤตโควิด-19 ดีเด่น เป็นรางวัลพิเศษที่ สคร. มอบให้รัฐวิสาหกิจในปี 2563 สำหรับรัฐวิสาหกิจที่มีความโดดเด่นในการบริหารจัดการวิกฤติโควิด-19 มีการเตรียมความพร้อมและดำเนินการอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลพนักงาน ลูกค้า ผู้ประกอบธุรกิจส่งออกและลงทุน ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงชุมชนและสังคมได้อย่างเหนือความคาดหมาย ตั้งแต่การบริหารจัดการองค์กรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เข้าสู่สังคม มีมาตรการด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในระดับที่เข้มข้นกว่ามาตรการของภาครัฐ มีผลทำให้ไม่มีบุคลากรและผู้เช่าอาคารของ EXIM BANK เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 จัดทำแผนสำรองฉุกเฉินในทุกสถานการณ์เพื่อให้สามารถดูแลและให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเยียวยาและช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยติดต่อไปยังลูกค้าทุกรายเพื่อสอบถามความต้องการความช่วยเหลือ ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าด้วยการพักการชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เปิดคลินิกให้คำปรึกษาและแนะนำทางการเงินแก่ผู้ประกอบการทั่วไปทางโทรศัพท์ และจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ สนับสนุนธุรกิจเกษตรผ่านเครือข่ายพันธมิตร รวมทั้งดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม โดยร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชน ส่งมอบความช่วยเหลือไปยังชุมชนและสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงและขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่าง ๆ ภายใต้โครงการ “EXIM ร่วมใจสู้ภัยโควิด” เพื่อให้ทุกภาคส่วนก้าวผ่านสถานการณ์ความยากลำบากจากผลกระทบของโควิด-19 ไปด้วยกัน

รางวัลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาดีเด่น ด้านความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ประเภทดีเด่น เป็นรางวัลที่มอบให้แก่รัฐวิสาหกิจที่อยู่ในกลุ่มการพิจารณารางวัลที่รัฐวิสาหกิจส่งเข้าประกวด เป็นรางวัลความร่วมมือของรัฐวิสาหกิจเพื่อสนับสนุนการดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ของแต่ละองค์กร โดย EXIM BANK ได้รับรางวัลร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ใน “โครงการส่งเสริมศักยภาพและสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)” ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานใช้ความสามารถพิเศษหรือจุดแข็งของทั้งสามองค์กรร่วมกันพัฒนาผู้ประกอบการภาคการเกษตรผลิตสินค้าที่มีนวัตกรรมและส่งออกได้ กล่าวคือ ธ.ก.ส. มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่คุณค่าสินค้าเกษตร วว. สนับสนุนการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร และ EXIM BANK ใช้องค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศเสริมสร้างความรู้ จับคู่ธุรกิจให้ผู้ประกอบการภาคเกษตรที่มีสินค้านวัตกรรมหรือมีมูลค่าเพิ่มสามารถส่งออกได้สำเร็จ ผลการดำเนินงานโครงการจนถึงปัจจุบันในปี 2563 สามารถสร้างผู้ประกอบการภาคการเกษตรที่มีศักยภาพส่งออก ได้รับมาตรฐานการรับรองผลงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม และได้รับการต่อยอดให้มีองค์ความรู้ด้านการส่งออก ตลอดจนจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ จนทำให้ผู้ประกอบการภาคการเกษตรเจรจาค้าขายระหว่างประเทศกับประเทศคู่ค้าได้ เป็นมูลค่าการส่งออกราว 597.82 ล้านบาท

“รางวัลเกียรติยศแห่งความภาคภูมิใจที่ EXIM BANK ได้รับจำนวน 3 รางวัลในปีนี้เป็นผลสำเร็จร่วมกันของคณะกรรมการธนาคาร ผู้บริหาร พนักงาน และบุคลากร EXIM BANK ในการทำงานกับทุกภาคส่วนตามภารกิจหน้าที่อย่างดีที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนจากลูกค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ประกอบการ และสาธารณชนที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนการดำเนินงานของ EXIM BANK ด้วยดีเสมอมา ทั้งนี้ โดยสอดคล้องกับแผนแม่บทปี 2570 และกระบวนการปรับเปลี่ยนองค์กร (Transformation) ที่ EXIM BANK เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 เพื่อส่งมอบผลลัพธ์ที่ดี สร้างการเติบโตของ EXIM BANK ควบคู่กับการเติบโตของภาคเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายพิศิษฐ์ กล่าว
EXIM BANK เคียงข้างผู้ส่งออกไทย ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ติดต่อ EXIM BANK โทร. 0 2617 2111
Email: [email protected]
Website: www.exim.go.th

#EXIMBANKเคียงข้างผู้ส่งออกไทย #EXIMBankofThailand #EXIMBANK #ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย