ปัจจุบันประเทศไทยยังมีชุมชนในพื้นที่ห่างไกล ที่ยังคงขาดแคลนระบบไฟฟ้าอยู่ โดยเฉพาะประชาชนหมู่บ้านสาขาที่อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่สูงตามเขตชายแดนไทย-พม่า คือหนึ่งในพื้นที่ห่างไกลระบบส่งไฟฟ้า ไม่มีระบบสื่อสาร โทรคมนาคม ยังเข้าไปไม่ถึง ดังนั้นเพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับชุมชนด้อยโอกาสที่ดีขึ้นอย่างเพียงพอ และการเข้าถึงการบริการอินเทอร์เน็ต มูลนิธิวิสาหกิจพลังงานชุมชน (มวพ.) จึงได้ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนเงินจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) โดยได้ดำเนินโครงการ ขยายผลศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อสังคมผู้ด้อยโอกาสกลุ่มบ้านสาขาบนพื้นที่สูง เพื่อพัฒนา”คน”ในพื้นที่ด้อยโอกาสของหมู่บ้านสาขาในพื้นที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุมชนชาติพันธุ์ ให้มีทักษะความรู้ ความสามารถในการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีพลังงานเพื่อการสื่อสาร และเทคโนโลยีการสื่อสารดิจิทัล และมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการสื่อสารเพื่อขับเคลื่อนสังคมพื้นที่สูง ให้ก้าวไปถึงขีดความสามารถในการพัฒนาชุมชนพึ่งตนเองอย่างเท่าเทียม และยั่งยืน
นายธวัชชัย สุริยะวงศ์ (ครูพายุ) ครูห้องเรียนสาขาบ้านทีซอแม โรงเรียนชุมชนท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก กล่าวว่า สาขาบ้านทีซอแม เป็นหนึ่งในชุมชนที่ มูลนิธิวิสาหกิจพลังงานชุมชน(วิสาหกิจเพื่อสังคม) ได้เลือกให้เข้าร่วมดำเนินโครงการ กลุ่มบ้านสาขาในพื้นที่สูงเป็นพื้นที่พิเศษที่มีความเหลื่อมล้ำทุกมิติ เมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่น สาเหตุของปัญหาต้องแก้ไขที่ “คน” เทคโนโลยีการสื่อสารดิจิทัล จะเป็นเครื่องมือที่เติมเต็ม ให้คนในพื้นที่สูงนั้นใช้ประโยชน์ สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างเท่าเทียม มูลนิธิฯ และคนในชุมชนจึงมีการออกแบบกระบวนการขับเคลื่อนการสื่อสารเพื่อพัฒนาสังคมด้วยกันตั้งแต่เริ่มต้น โดยมีเทคโนโลยีดิจิทัล อินเทอร์เน็ต เป็นเครื่องมือ แล้วมีการขยายผล สร้างกระบวนการใช้ประโยชน์ และสามารถบริหารจัดการสื่อสาร และบริการสื่อสารชุมชนในรูปแบบ “กิจการบริการสื่อสารเพื่อสังคม”ที่สามารถแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ของชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลลัพธ์คือเด็กนักเรียน มีโอกาสได้ใช้คอมพิวเตอร์ ค้นคว้าข้อมูล และเรียนรู้ จากอินเทอร์เน็ต ครูก็สามารถส่งรายงาน ติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานราชการได้อย่างสะดวก เยาวชนนอกระบบการศึกษา กลุ่มแรงงานนอกระบบ ได้ใช้ความรู้จากอินเทอร์เน็ต มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตช่วยเหลือตนเองได้อย่างรู้เท่าทันสถานการณ์
นายภาคภูมิ สกุลมณีสุข ผู้ใหญ่บ้านทีจอชี ตำบลกล้อทอ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก กล่าวว่า บ้านทีจอชี เป็นศูนย์กลางในการสื่อสารเรียนรู้ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนที่ดีขึ้น คือ เด็กกว่า 200 คน และพ่อแม่ทุกคน ที่ต้องการให้ลูกหลานมีความรู้เท่าเทียม เหมือนกับหมู่บ้านอื่นๆ เมื่อมีโครงการ ขยายผลศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อสังคมผู้ด้อยโอกาสกลุ่มบ้านสาขาบนพื้นที่สูง ผมเป็นคนหนึ่งในคณะ ที่มูลนิธิเลือกให้เข้าค่ายเรียนรู้ และพัฒนาทักษะการใช้อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และเครื่องมือสื่อสารดิจิทัล โดยแบ่งภาระหน้าที่กันถ่ายทอดทักษะความรู้ให้กับกลุ่มต่าง ๆ ผมรับภารกิจ สอนกลุ่มคนวัยทำงาน ผลลัพธ์คือ ผมในฐานะผู้ใหญ่บ้านสามารถติดต่อประสานงานอำเภอได้อย่างสะดวก ไม่ต้องเดินทางไกล ส่งข้อมูลข่าวสารให้ชาวบ้านระวังภัยธรรมชาติน้ำหลาก และการป้องกันดูแลสุขภาพ ชาวบ้านให้ความร่วมมือ มีการใช้ประโยชน์ด้านอินเทอร์เน็ตมาประยุกต์ใช้ ทดลองปฏิบัติ โดยเฉพาะชุดความรู้ด้านการเกษตร และทักษะช่าง
นายเอกพล เสมเจริญ เยาวชนครูพี่เลี้ยงโครงการต้นแบบศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตบ้านดอยแก้ว อำเภอดอยเต่า จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งผมเป็นเยาวชนกระเหรี่ยง ที่ได้มีโอกาสได้ถ่ายทอดประสบการณ์ร่วมกับมูลนิธิ ขยายผลดำเนินโครงการเพิ่มอีก 2 พื้นที่ คือ 1. ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อสังคมห้องเรียนสาขาทีซอแม (โรงเรียนชุมชนบ้านท่าสองยาง) และ2. ศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อสังคมห้องเรียนสาขาทีจอชี (โรงเรียนบ้านกล้อทอ) เพื่อขยายผลในการส่งเสริมและการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสังคมของกลุ่มบ้านสาขา โรงเรียนสาขาบนพื้นที่สูง ห่างไกลระบบส่งไฟฟ้า ที่ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่การให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัล ให้ก้าวไปถึงขีดความสามารถในการบริการอินเทอร์เน็ตเพื่อสังคมในรูปแบบ “วิสาหกิจบริการอินเทอร์เน็ตเพื่อสังคม” พึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ขอรับการสนับสนุนค่าบริการอินเทอร์เน็ตจากภาครัฐในอนาคต
นายรังสฤษฏ์ คุณชัยมัง ประธานมูลนิธิวิสาหกิจพลังงานชุมชน(วิสาหกิจเพื่อสังคม) เราได้รับการส่งเสริมโอกาสพัฒนาการสื่อสาร จากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ(กทปส) จะเป็นหน่วยงานศูนย์กลางในการขับเคลื่อนความร่วมมือการมีส่วนร่วมของหน่วยงานทุกภาคส่วน โดยยึดโยงประชาชนในกลุ่มบ้านสาขา โรงเรียนสาขา เป็นศูนย์กลางขับเคลื่อนกระบวนการมีส่วนร่วมเชิงพื้นที่ ตั้งแต่การออกแบบ การกำหนดแนวทางการพัฒนาชุมชน การติดตั้งเทคโนโลยีพลังงานเพื่อการสื่อสาร เทคโนโลยีดิจิทัล โครงข่ายอินเทอร์เน็ต การใช้ประโยชน์ และการบริการโดยชุมชนได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ให้ก้าวไปถึงขีดความสามารถในการพึ่งพาตนเองสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
การดำเนินโครงการนี้ จะเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการ โดยมีศูนย์บริการสารสนเทศเพื่อสังคมผู้ด้อยโอกาสบนพื้นที่สูง เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนกระบวนการมีส่วนร่วมที่สรรค์สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการจัดการสุขภาพ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งหมายถึง การที่กลุ่มประชาชน หรือขบวนการที่สมาชิกของชุมชนที่กระทำการออกมาในลักษณะของการใช้ประโยชน์นวัตกรรมเชิงพื้นที่ร่วมกัน ที่จะแสดงให้เห็นถึงความต้องการร่วม ความสนใจร่วม มีความต้องการที่จะบรรลุถึงเป้าหมายร่วมทางเศรษฐกิจและสังคมหรือการเมือง ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม