ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

พาณิชย์ เผย 10 อันดับธุรกิจยอดนิยม ที่มีการจัดตั้งสูงสุดในปี 66 มีรายได้เติบโตแรง จนถึงปัจจุบัน


กรมพัฒนาธุรกิจการค้าติดตามแนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจใหม่ และการนำข้อมูลงบการเงินมาร่วมวิเคราะห์ พบ 10 อันดับธุรกิจยอดนิยมที่มีการจัดตั้งสูงสุดในปี 66 และมีรายได้เติบโตแรง เผยธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ มอเตอร์และอุปกรณ์ยานยนต์ไฟฟ้า มาแรงอันดับหนึ่ง ตามด้วยธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ธุรกิจจัดอีเวนต์ ธุรกิจe-Commerce ธุรกิจเครื่องสำอาง ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจของเล่น ปิดท้ายด้วยธุรกิจความเชื่อและศรัทธา ระบุยังมีธุรกิจที่เติบโตแบบก้าวกระโดดอีก ทั้งผลิตน้ำมันถั่วเหลือง เหมืองเกลือแร่สินเธาว์ รถทัวร์ ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ และแผงลอยตลาด
         
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ เพื่อวิเคราะห์ทิศทางการเติบโตของธุรกิจในประเทศ ประกอบกับนำข้อมูลการนำส่งงบการเงินประจำปี 2566 (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย.2567) มาวิเคราะห์ พบว่า ธุรกิจติดเทรนด์ที่มีการจัดตั้งเพิ่มขึ้น และยังทำรายได้ดี โดยมีธุรกิจที่ติด 10 อันดับที่มีการจัดตั้งสูงสุดในปี 2566 ได้แก่ ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ มอเตอร์และอุปกรณ์ยานยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ธุรกิจจัดอีเวนต์ ธุรกิจe-Commerce ธุรกิจเครื่องสำอาง ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจของเล่น และธุรกิจความเชื่อและศรัทธา

สำหรับรายละเอียดในแต่ละธุรกิจ อันดับที่ 1 ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่ มอเตอร์และอุปกรณ์ยานยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งผลิตแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มีธุรกิจจำนวน 885 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 91 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 27 ราย คิดเป็น 42.19% โดยตลอดปี 2566 สร้างรายได้ 2.09 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 0.24 ล้านล้านบาท คิดเป็น 13.27% (ส่วนใหญ่เป็นขนาด L สร้างรายได้ถึง 2.06 ล้านล้านบาท) โดยเป็นการเติบโตตามกระแสความนิยมในการหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจที่ผลิตส่วนประกอบหรืออะไหล่รถยนต์เติบโตตามไปด้วย อาทิ ธุรกิจผลิตแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอรี่และหม้อสะสมไฟฟ้า ผลิตรถยนต์ส่วนบุคคล และผลิตยานยนต์อื่น ๆ ที่ใช้เพื่อการโดยสาร โดยจังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ สมุทรปราการ 1.04 ล้านล้านบาท ระยอง 0.30 ล้านล้านบาท และกรุงเทพมหานคร 0.29 ล้านล้านบาท

อันดับที่ 2 ธุรกิจท่องเที่ยว มีธุรกิจจำนวน 53,696 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 7,402 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 2,178 ราย คิดเป็น 41.69% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 0.85 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 0.23 ล้านล้านบาท คิดเป็น 36.32% จากปี 2565 สอดรับกับการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในปี 2566 ที่มีจำนวนกว่า 28 ล้านคน (ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) จึงส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องตามไปด้วย อาทิ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและห้องชุด นำเที่ยว ขายปลีกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และร้านอาหาร จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุดคือ กรุงเทพมหานคร 0.61 ล้านล้านบาท ภูเก็ต 0.06 ล้านล้านบาท และชลบุรี 0.03 ล้านล้านบาท

อันดับที่ 3 ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้า มีธุรกิจจำนวน 8,233 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 601 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 23 ราย คิดเป็น 3.98% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 0.65 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 7,000 ล้านบาท คิดเป็น 1.09% โดยธุรกิจนี้ผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และผู้บริโภคมีความต้องการใช้เครื่องไฟฟ้ามากขึ้นเพื่อความสะดวกสบาย ผ่อนคลายความร้อนจากสภาพอากาศที่มีความร้อนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละปี อาทิ ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และร้านขายปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 0.35 ล้านล้านบาท ชลบุรี 0.08 ล้านล้านบาท และระยอง 0.04 ล้านล้านบาท
         
อันดับที่ 4 ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ขายอาหาร อุปกรณ์และดูแลสัตว์ มีธุรกิจจำนวน 5,009 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 785 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 73 ราย คิดเป็น 10.25% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 0.26 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 0.01 ล้านล้านบาท คิดเป็น 5.80% ธุรกิจสัตว์เลี้ยงเติบโตขึ้นเพราะไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หันมาเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นเพื่อนคลายเหงา และผู้บริโภคมีทางเลือกในการจับจ่ายเยอะขึ้นเพราะสินค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ การทำฟาร์มสัตว์ อาหารสำเร็จรูปสำหรับสัตว์เลี้ยง ขายส่งอาหารสัตว์ และขายสัตว์เลี้ยงหรืออุปกรณ์ รวมไปถึงการดูแลสัตว์ จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 0.11 ล้านล้านบาท สมุทรปราการ 0.03 ล้านล้านบาท และนนทบุรี 0.01 ล้านล้านบาท

อันดับที่ 5 ธุรกิจจัดกิจกรรม งานประชุม นิทรรศการ อีเวนต์ มีธุรกิจจำนวน 22,192 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 2,286 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 349 ราย คิดเป็น 18.02% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 0.22 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 0.04 ล้านล้านบาท คิดเป็น 25.90% โดยธุรกิจนี้เติบโตสอดรับการขยายตัวของการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเสริมความคึกคักให้ธุรกิจท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น อาทิ ธุรกิจจัดเลี้ยง โฆษณา ถ่ายภาพ และจัดประชุม แสดงสินค้า จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 0.19 ล้านล้านบาท นนทบุรี 0.01 ล้านล้านบาท และปทุมธานี 5,000 ล้านบาท

อันดับที่ 6 ธุรกิจ e-Commerce มีธุรกิจจำนวน 7,962 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 1,713 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 254 ราย คิดเป็น 17.41% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 0.18 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 4,000 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.12% ธุรกิจ e-Commerce ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องจากพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ได้อย่างสะดวก มีโอกาสได้เลือกสินค้าได้หลากหลาย และใช้เวลาในการตัดสินใจได้ อาทิ การขายปลีกทางอินเตอร์เน็ต จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 0.15 ล้านล้านบาท นนทบุรี 0.02 ล้านล้านบาท และสมุทรปราการ 2,000 ล้านบาท

อันดับที่ 7 ธุรกิจเครื่องสำอาง มีธุรกิจจำนวน 10,320 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 1,267 ราย ลดลงจากปี 2565 จำนวน 90 ราย คิดเป็น 6.63% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 0.16 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 9,000 ล้านบาท คิดเป็น 5.99% สอดรับกับแนวคิดของคนยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลบุคลิกภาพของตัวเอง และเครื่องสำอางมีความหลากหลาย มีการแข่งขันที่สูงขึ้นด้วยการนำนวัตกรรมต่าง ๆ มาช่วยในการผลิตสินค้าให้มีคุณภาพมากขึ้น อาทิ ธุรกิจขายปลีก ส่งเครื่องสำอาง จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 0.13 ล้านล้านบาท นนทบุรี 4,300 ล้านบาท และปทุมธานี 4,000 ล้านบาท

อันดับที่ 8 ธุรกิจสุขภาพ มีธุรกิจจำนวน 9,761 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 1,670 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 333 ราย คิดเป็น 24.91% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 0.07 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 0.01 ล้านล้านบาท คิดเป็น 17.94% ภายหลังจากที่โลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทุกคนก็ได้หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ ทั้งการสร้างสุขภาพให้แข็งแรงและรักษาอาการเจ็บป่วย ส่งผลให้ธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพเติบโตขึ้นไปด้วย อาทิ โรงพยาบาลเฉพาะทาง ทันตกรรม กายภาพบำบัด ฟิตเนส และสปา จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 54,000 ล้านบาท นนทบุรี 2,800 ล้านบาท และสมุทรปราการ 2,700 ล้านบาท
         
อันดับที่ 9 ธุรกิจของเล่น มีธุรกิจจำนวน 1,087 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 120 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 49 ราย คิดเป็น 69.01% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 0.02 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 300 ล้านบาท คิดเป็น 1.57% โดย Art Toy เป็นส่วนสำคัญที่สร้างรายได้ให้กับธุรกิจนี้ และเป็นสินค้าที่มีกระแสนิยม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ อาทิ ผลิตตุ๊กตา เกมและของเล่นอื่น ๆ ทั้งขายส่งและขายปลีก จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 9,000 ล้านบาท สมุทรปราการ 3,000 ล้านบาท และสมุทรสาคร 1,600 ล้านบาท

อันดับที่ 10 ธุรกิจความเชื่อและศรัทธา มีธุรกิจจำนวน 151 ราย ปี 2566 มีการจัดตั้ง 33 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 9 ราย คิดเป็น 37.50% โดยปี 2566 สร้างรายได้ 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 80 ล้านบาท คิดเป็น 52.92% โดยเป็นความเชื่อความศรัทธาของแต่ละบุคคลที่สามารถนำมาสร้างเป็นธุรกิจได้ และที่ผ่านมาธุรกิจสายมูเตลูเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมของคนรุ่นใหม่ทั้งการใช้สินค้าที่เกี่ยวกับความเชื่อ และยังเชื่อมโยงไปถึงการท่องเที่ยวในแหล่งที่เป็นความเชื่อได้อีกด้วย อาทิ การดูดวง ดูฮวงจุ้ย และกำหนดฤกษ์ยาม จังหวัดที่สร้างรายได้สูงสุด คือ กรุงเทพมหานคร 140 ล้านบาท นนทบุรี 40 ล้านบาท และปทุมธานี 10 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจที่น่าจับตามองและมีผลประกอบการที่สะท้อนถึงการเติบโตอย่าวก้าวกระโดดจากปี 2565 อาทิ ธุรกิจผลิตน้ำมันถั่วเหลือง เติบโต 9,744% ธุรกิจเหมืองเกลือแร่สินเธาว์ เติบโต 3,207% ธุรกิจรถขนส่งผู้โดยสารทางประจำทางระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดอื่น เติบโต 1,095% ธุรกิจผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพ เติบโต 1,032% และธุรกิจขายปลีกอาหารบนแผงลอยและตลาด เติบโต 844% โดยกรมจะติดตามการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจของไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อวิเคราะห์และเป็นข้อมูลเชิงลึกให้ธุรกิจหรือนักลงทุนได้รับทราบพร้อมปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างทันท่วงทีต่อไป