ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

มูลนิธิสัมมาชีพ เดินหน้าภารกิจ “สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่” เตรียมจัดงานใหญ่ “15 ปีสัมมาชีพ สานพลังไทย สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่”


มูลนิธิสัมมาชีพครบรอบ 15 ปี ประธานมูลนิธิฯ เผยเดินหน้าสานต่อภารกิจสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ เชื่อมโยงภาคีรัฐ เอกชน ชุมชน เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก พร้อมหนุนพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนบนฐาน BCG เตรียมจัดงานฉลองใหญ่ 29 พ.ย.นี้ ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพ

 

 

 

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่าในวาระที่มูลนิธิสัมมาชีพดำเนินงานมาครอบ 15 ปี ในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 มูลนิธิจึงเตรียมจะจัดงานครบรอบ 15 ปี ภายใต้แนวคิด “15 ปีสัมมาชีพ สานพลังไทย สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่” โดยงานจะมีขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานและสร้างการรับรู้ถึงภารกิจของมูลนิธิที่มุ่งสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ หรือส่งเสริมการประกอบการภายใต้กรอบสัมมาชีพ คือ การมีอาชีพที่ไม่เบียดเบียนตนเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนสิ่งแวดล้อม มีรายจ่ายน้อยกว่ารายได้ อันเป็นแนวทางที่ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษามูลนิธิสัมมาชีพ และเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ ได้นิยามไว้

 

 

ทั้งนี้ เมื่อมีการนำหลักคิดสัมมาชีพไปปฏิบัติในทุกพื้นที่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ จะมีการประกอบอาชีพที่สุจริต ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่โกง ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข การสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่จึงเป็นแนวทางที่ ศ.นพ.ประเวศ มองว่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมมีศานติสุขอย่างแท้จริง

“ขอยกคำกล่าวของท่านอาจารย์หมอประเวศที่กล่าวไว้อย่างเห็นภาพว่า การมีสัมมาชีพเต็มพื้นที่ จะเป็น จุดคานงัดประเทศ สู่สัมมาพัฒนาใน 8 มิติ เรียกว่า มรรค 8 ของการพัฒนาประเทศที่เชื่อมโยงกัน ไม่แยกส่วน ได้แก่ มิติเศรษฐกิจ(ที่ดี) จิตใจ(ที่ดี) สังคม(ที่ดี) สิ่งแวดล้อม(ที่ดี) วัฒนธรรม(ที่ดี) สุขภาพ(ที่ดี) การศึกษา(ที่ดี) และประชาธิปไตย(ที่ดี) ล้วนเริ่มต้นมาจากการมีสัมมาชีพทั้งสิ้น” นายประเสริฐ กล่าว

 

 

ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพกล่าวต่อว่า ตามเป้าหมายการสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ ซึ่งเป็นปณิธานของมูลนิธิสัมมาชีพ ทำให้ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิสัมมาชีพ ได้ร่วมมือ เชื่อมโยงกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน เพื่อนำความรู้และความเชี่ยวชาญของแต่ละภาคส่วนมาเชื่อมร้อยกับภูมิปัญญาท้องถิ่น และร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากภายใต้หลักสัมมาชีพ โดยโครงการ กิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิ เหล่านั้นได้แก่ งานรางวัลต้นแบบสัมมาชีพ โครงการอบรมหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง และงานพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก

 

 

สำหรับงานรางวัลต้นแบบสัมมาชีพนอกจากจะเป็นการเชิดชูเกียรติบุคคล องค์กรที่ประสบความสำเร็จแล้ว ยังต้องการให้เป็นต้นแบบของการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จบนหลักการสัมมาชีพ เพื่อนำองค์ความรู้มาถ่ายทอด เผยแพร่สู่สังคมในวงกว้าง หรือการนำไปปรับใช้ต่อไป โดยมูลนิธิได้มอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพประเภทต่างๆ ประกอบด้วยรางวัลบุคคลต้นแบบสัมมาชีพ รางวัลวิสาหกิจชุมชนต้นแบบสัมมาชีพ รางวัลเอสเอ็มอีต้นแบบสัมมาชีพ และรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ

โครงการอบรมหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง (Leadership For Change – LFC) มีเป้าหมายบ่มเพาะผู้นำในภาคส่วนต่างๆ ของสังคม ได้แก่ ภาครัฐ เอกชน ชุมชน เพื่อผนึกกำลังเป็นเครือข่ายความร่วมมือ สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับท้องถิ่น ชุมชน สังคม จนถึงระดับประเทศ โดยได้จัดอบรมมาเป็นรุ่นที่ 14 แล้ว

 

 

โครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เป็นความร่วมมือกับองค์กรภาคีต่างๆ เพื่อทำโครงการพัฒนาร่วมกัน เช่น โครงการหนึ่งตำบล หนึ่งบริษัท เพื่อสร้างต้นแบบความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคี มูลนิธิ และพื้นที่ชุมชน เสริมสร้างให้ชุมชนเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ดำเนินงานโครงการอื่นๆ ของมูลนิธิที่ได้ดำเนินการและกระจายอยู่ทั่วประเทศ

นายประเสริฐ ยังกล่าวถึง ก้าวต่อไปของมูลนิธิสัมมาชีพว่า ยังคงมุ่งเน้นสานต่อภารกิจสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่ และให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็งบนฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG ซึ่งประกอบด้วย 3 มิติเศรษฐกิจ ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เนื่องจากเป็นแนวทางที่สามาถช่วยลดปัญหาวิกฤติโลกร้อนและสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจชุมชน เพราะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม สังคม เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ และสอดคล้องกับแนวคิดสัมมาชีพ

“ที่ผ่านมา มูลนิธิสัมมาชีพได้มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงองค์กรภาคี เพื่อส่งเสริม พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนบนหลักการมีสัมมาชีพ ดังนั้นในวาระครบรอบ15 ปีการก่อตั้งมูลนิธิสัมมาชีพ ผมขอขอบคุณองค์กร ภาคีเครือข่าย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่สนับสนุน ทำให้หลายโครงการ หลายพื้นที่ชุมชนประสบความสำเร็จ มูลนิธิฯ จะยังคงมุ่งมั่นดำเนินภารกิจสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ภายใต้ปณิธานการสร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่” ประธานกรรมการมูลนิธิสัมมาชีพ กล่าว

ทั้งนี้มูลนิธิสัมมาชีพ จะจัดงานครบรอบ 15 ปี ภายใต้แนวคิด “15 ปีสัมมาชีพ สานพลังไทย สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่” ขึ้นในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรมรามา การ์เดนส์ กรุงเทพฯ โดยการจัดงานจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงบ่ายจะเป็นงานเสวนา “15 ปี สัมมาชีพ สานพลังไทย สร้างสัมมาชีพเต็มพื้นที่” ณ ห้องทิวลิป ส่วนภาคค่ำ จะมีพิธีมอบรางวัลต้นแบบสัมมาชีพประเภทต่างๆ ณ ห้องคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ และได้รับเกียรติจากอดีตรัฐมนตรี ผู้บริหารมูลนิธิสัมมาชีพ และภาคีเครือข่ายร่วมงานคับคั่ง