แฟรนไชส์ ดับเบิ้ลนัวร์ ส้มตำเงินล้าน อาหารอีสานกับสูตรสำเร็จน้ำปรุง ไมต้องมีประสบการร์ ใครทำก็อร่อย
ใครที่กำลังอยากจะเปิดร้านอาหารอีสานแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรมาทางนี้ วันนี้ ชี้ช่องรวย มีอีกหนึ่งแฟรนไชส์ร้านอาหารอีสานแบรนด์ DOUBLE NOUR (ดับเบิ้ลนัวร์) ร้านอาหารอีสานที่มีหลากหลายเมนู เช่น ส้มตำ, ยำ, ย่าง, ทอด, เมี่ยง, ต้ม, จิ้มจุ่ม และเสริมด้วย หมูกระทะ ย่างเนย ที่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ที่ปัจจุบันขยายสาขาไปแล้วเกือบ 10 สาขา แฟรนไชส์ ดับเบิ้ลนัวร์ ยึดมั่นในคอนเซ็ป ใครทำ ใครตำ ก็อร่อย ด้วยน้ำปรุงสำเร็จ สูตรเฉพาะกว่า 20 น้ำปรุง เช่น น้ำตำ น้ำยำ น้ำต้ม น้ำจิ้มต่างๆ ช่วยให้สามารถปรุงอาหารได้ง่าย ลดขั้นตอนการทำ รสชาติเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกครั้ง ไม่จำเป็นต้องใช้เชฟมืออาชีพก็สามารถทำได้ ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีสำหรับการเปิดร้านอาหารหมดกังวลเรื่องขาดพ่อครัวแม่ครัว สำหรับรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ ดับเบิ้ลนัวร์ มีให้เลือกถึง 3 รูปแบบ แฟรนไชส์ Size S ราคา 149,000 บาท รูปแบบสำหรับ […]




จักรกฤช กิ่งแก้ว เจ้าของแฟรนไชส์กาแฟ “โอ๊ตตะ” ผู้เปลี่ยนบทบาทจากคนที่ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ มาเป็นคนขายกาแฟเสียเอง หลังตะเวนดื่มไปแทบทุกที่ทุกยี่ห้อจนพบว่า กาแฟแต่ละแบรนด์ในสาขาต่างๆ นั้นมีรสชาติไม่เหมือนกัน เขาจึงอยากจะสร้างแบรนด์กาแฟขึ้นมา เพื่อสร้างมาตรฐานของร้านให้มีรสชาติเหมือนต้นตำรับในทุกสาขา
จากนั้นเขาได้มีโอกาสชิมกาแฟรสชาติเยี่ยมจากประเทศลาวและเวียดนาม จึงนำมาผสมกับกาแฟไทย ในช่วงแรกของการพัฒนาสูตร ก็ได้ทำการแจกจ่ายให้กับคนทั่วไปได้ทดลองชิม เพื่อรับฟังความคิดเห็นแล้วนำมาปรับปรุงสูตรต่อไป จนได้รสชาติที่คนส่วนใหญ่พอใจก็เริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นมา พร้อมเปิดขายแฟรนไชส์ทันที เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2558 จักรกฤช บอกว่าจุดเด่นของกาแฟโอ๊ตตะ คือรสชาติที่มีมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา เป็นสูตรกาแฟอาราบิกา 100% มีรสชาติหอมอร่อย บรรจุใส่ถังหิ้วดีไซน์น่ารัก กักเก็บความเย็นได้นาน สำหรับเมนูขายดีนอกจากกาแฟเย็นแล้ว ยังมีชามะนาว ชาดำเย็น ชาเขียว โกโก้ ฯลฯ ราคาแก้วละ 20 บาท ใส่ถัง 35 บาท ถ้านำถังกลับมาเติมใหม่คิดราคาแค่ 25 บาท
สำหรับรูปแบบแฟรนไชส์ มีให้เลือกลงทุน 2 ราคา คือ Set A ราคา 29,500 บาท ไม่มีเคาน์เตอร์ให้ รูปแบบร้านตามไอเดียของลูกค้า 2.Set ฺB ราคา 39,500 บาท มีเคาน์เตอร์ โดยทั้ง 2 รูปแบบจะได้รับป้ายเคาน์เตอร์ ไวนิล ธงญี่ปุ่น อุปกรณ์ 23 รายการและวัตถุดิบพร้อมขาย พร้อมมีการสอนสูตรทำอิตาเลี่ยนโซดา กาแฟสดและเครื่องดื่มสมูทตี้ ทั้งนี้วัตถุดิบต่างๆ เช่น ถังกาแฟ แก้วและฝา กาแฟ ชาเขียว ชาแดง โกโก้ ต้องสั่งซื้อจากบริษัทเท่านั้น ส่วนผลกำไรต่อแก้วอยู่ 70-80% ของราคาขาย บางสาขาสามารถทำยอดขายได้สูงสุดหลักแสนบาทต่อเดือน
เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานธุรกิจ บริษัทจะมีการเข้าไปสุ่มตรวจมาตรฐานของแฟรนไชซี ทั้งในเรื่องของรสชาติ ความสะอาดและการใช้วัตถุดิบ ว่าได้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้หรือไม่ เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพของแบรนด์ให้อยู่ระดับเดียวกันทุกสาขา ขณะที่ด้านการตลาด จะมีโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย พร้อมทั้งช่วยโพสต์โปรโมทที่ตั้งร้านแต่ละสาขา ผ่านทางสังคมออนไลน์ของบริษัทแม่อีกด้วย 