ในช่วงเทศกาลงานวัด เรามักจะเห็นพ่อค้าแม่ขายต่างพากันมาจับจองพื้นที่สำหรับขายของ ซึ่งสินค้าก็มีหลากหลายประเภททั้งของกินของใช้ แต่ส่วนใหญ่จะเห็นเป็นของกินเรียกว่าเกินครึ่ง ชี้ช่องรวย จึงได้รวบรวมเอาของกินที่นิยมขายตามงานวัดหรือตลาดนัดที่ลงทุนน้อย แต่ได้กำไรงามมาให้แฟนๆ ชี้ช่องรวย พิจารณานำไปปรับใช้เพื่อสร้างรายได้ยามว่าง หรือวันหยุดช่วงเทศกาลมาฝากกันค่ะ
1.ปลาหมึกย่าง
สูตรนี้จับปลาหมึกหั่นชิ้นแล้วเสียบไม้ เสร็จแล้วหมักกับผงขมิ้นและซีอิ๊วดำหวาน พอหมักจนครบเวลาก็เอาไปย่างจนสุก ราดน้ำจิ้มซีฟู้ด
ส่วนผสม หมักปลาหมึกย่าง
1.ปลาหมึกสด
2.ผงขมิ้น
3.น้ำเปล่า
4.ซีอิ๊วดำหวาน
ส่วนผสม น้ำจิ้มซีฟู้ด
1.น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
2.เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำร้อน 3+1/2 ถ้วย
4.น้ำมะนาว 4 ถ้วย
5.พริกขี้หนู 200 กรัม
6.กระเทียมไทย 200 กรัม
7.ผักชี 200 กรัม
วิธีทำน้ำจิ้มซีฟู้ด
1.ใส่น้ำตาลปี๊บลงในอ่างผสม ตามด้วยเกลือและน้ำร้อน คนให้เข้ากันจนให้น้ำตาลปี๊บละลายเป็นน้ำ จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไปคนให้เข้ากัน
2.เทส่วนผสมน้ำที่ผสมไว้ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยพริกขี้หนู กระเทียม และผักชี ปั่นให้เข้ากันตามความละเอียดที่ต้องการ ตักใส่ขวดโหลแก้ว หรือภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด
วิธีทำปลาหมึกย่าง
1.ล้างปลาหมึก ควักไส้ ดึงหมึก และลอกหนังดำ ๆ ออกให้สะอาด บั้งตัวปลาหมึกให้สวยงาม หรือหั่นเป็นชิ้นแล้วเสียบไม้ เตรียมไว้
2.ทำน้ำหมักปลาหมึก โดยผสมผงขมิ้น น้ำเปล่า และซีอิ๊วดำหวานเข้าด้วยกัน
3.ใส่ปลาหมึกลงไปหมักจนได้สีที่ต้องการ หรือหมักข้ามคืน โดยนำปลาหมึกใส่ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุงแช่ในถังน้ำแข็ง แล้วเอาน้ำแข็งโป๊ะทับไว้ข้างบนให้ท่วม เก็บได้นาน 3 วัน
4.นำปลาหมึกไปย่างจนสุก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด
2.ลูกชิ้นปิ้ง
เมนูของกินงานวัดอย่างลูกชิ้นปิ้งก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้งนี้ลูกชิ้นสามารถหาซื้อเจ้าอร่อย ๆ มาเสียบไม้เองได้เลย แต่น้ำจิ้มถ้าทำเองได้จะคุ้มกว่าเพราะเป็นเอกลักษณ์ สูตรนี้มาพร้อมวิธีทำน้ำจิ้มมะขามเปียก
ส่วนผสม ลูกชิ้น
1.ลูกชิ้นหมูหรือลูกชิ้นไก่
2.ไม้เสียบ
ส่วนผสม น้ำจิ้มลูกชิ้น
1.พริกขี้หนู 8 เม็ด
2.กระเทียมกลีบใหญ่ 8 กลีบ
3.กระเทียมดอง 3 หัว
4.น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ถ้วย
5.น้ำมะขามเปียก 1+1/2 ถ้วย
6.เกลือ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
7.ซอสพริกศรีราชา 3 ช้อนโต๊ะ
8.น้ำกระเทียมดอง 3 ช้อนโต๊ะ
9.แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ10.
10.พริกป่น 1 ช้อนชา (ไม่ใส่ก็ได้)
วิธีทำน้ำจิ้มลูกชิ้น
1.นำพริกขี้หนู กระเทียม และกระเทียมดองไปปั่นรวมกัน พักไว้
2.ใส่น้ำตาลปี๊บลงในหม้อ เปิดเตาใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำมะขามเปียกลงไป คนให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลาย ใส่เกลือลงไป ตามด้วยซอสพริกศรีราชากับน้ำกระเทียมดอง
3.เอาพริกตำหรือปั่นมาใส่ในหม้อ คนผสมให้เข้ากัน รอให้เดือดแล้วชิมรสตามชอบ
4.ใส่แป้งข้าวโพดละลายน้ำ ใส่ลงไปพอให้เหนียวนิด ๆ เพราะพอเย็นตัวลงแล้วจะเหนียวมากกว่านี้ ปิดเตา พักน้ำจิ้มให้เย็นสนิท สุดท้ายใส่ผักชีซอย
5.นำไม้แหลมมาเสียบลูกชิ้น ใช้มีดกรีดลูกชิ้นนิดหน่อย จับไปย่างใช้ไฟอ่อน ๆ ให้พอสุกเหลือง ย่างจนพองน่ากิน เสิร์ฟกับน้ำจิ้ม
3.ไข่นกกระทา
ขนมไข่นกกระทาเหมาะมากที่จะขายในงานวัด เพราะต้นทุนต่ำและได้กำไรเยอะ ที่สำคัญลูกค้าที่เป็นเด็ก ๆ ก็ชอบซื้อกินด้วย สูตรนี้ใช้มันเทศสีเหลือง ใครจะใช้มันม่วงหรือมันเทศสีส้มก็ได้เช่นกัน เทคนิคที่จะทำให้ได้ลูกพองโตอยู่ที่การทอดค่ะ รับรองทำไม่ยากลองกันเลยค่ะ
ส่วนผสม ขนมไข่นกกระทา
1.แป้งมันสำปะหลัง 100 กรัม
2.แป้งสาลีอเนกประสงค์ 25 กรัม (ถ้าชอบแบบเหนียวนุ่ม ก็สามารถใช้แป้งข้าวโพดแทนได้)
3.ผงฟู 1 ช้อนชา
4.น้ำตาลทราย 100 กรัม
5.เกลือ 1/2+1/4 ช้อนชา
6.มันเทศนึ่งบดละเอียด 350 กรัม
7.น้ำปูนใสประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ (ค่อย ๆ ใส่แล้วนวดจนแป้งไม่ร่วนและปั้นเป็นลูกได้ จะน้อยหรือมาก บวก-ลบน้ำเอาได้เลย)
วิธีทำขนมไข่นกกระทา
1.ร่อนแป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ และผงฟู หลังจากนั้นใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
2.นำแป้งที่ผสมแล้วใส่ลงไปในมันเทศที่นึ่งบดแล้ว แบ่งแป้งใส่สัก 3 รอบ นวดขยำจนเข้ากัน หลังจากนั้นค่อย ๆ ใส่น้ำปูนใสลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนวดจนแป้งเนียนไม่ร่วน สามารถปั้นเป็นก้อนได้ ปั้นเป็นลูกกลม ๆ เตรียมไว้
3.ตั้งน้ำมันให้ร้อน แล้วนำไข่นกกระทาลงไปทอดด้วยไฟอ่อน ๆ คนไปด้วยขนมจะได้ไม่ไหม้ พอทอดจนขนมเริ่มเหลืองฟูขึ้น ก็นำตะหลิวกดยีขนม เพื่อให้ขนมฟูขึ้นจากขนาดเดิมประมาณ 1.5-2 เท่า ฟูมากก็กลวงมากค่ะ พอพองเหลืองแล้วก็ต้องทอดต่อไปอีกสัก 4-5 นาที เพื่อให้ผิวขนมเซตตัวกรอบดีก่อน ถ้าตักขึ้นมาเร็วก็จะยุบและแฟบ พอสุกพองเหลืองได้ที่แล้วก็ตักมาพักบนตะแกรงให้สะเด็ดน้ำมัน
4.กล้วยทอด
เมนูกล้วยทอดหรือกล้วยแขกเป็นอีกเมนูของกินงานวัดที่ใครได้กินจะเพลินมาก สูตรนี้ใส่งาขาวคั่วลงไปในแป้งเพิ่มความหอม ใครจะดัดแปลงเป็นกล้วยตากทอดก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ
ส่วนผสม กล้วยทอด
1.กล้วยน้ำว้า 1 หวี (ในสูตรใช้ไปแค่ 8 ลูก เพราะว่าลูกใหญ่)
2.แป้งทอดกรอบ (โกกิ) 1 ถ้วย (แป้งสาลีอเนกประสงค์หรือแป้งข้าวเจ้า)
3.กะทิ 1/2 ถ้วย
4.น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย
5.น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
6.มะพร้าวขูด 1 ถ้วย
7.งาขาวคั่ว 1 ถ้วย
8.น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
9.เกลือ 1 ช้อนชา
10.น้ำมันพืช (สำหรับทอด) 2 ถ้วย
วิธีทำกล้วยทอด
1.ใส่แป้งโกกิหรือแป้งทอดกรอบลงในอ่างใหญ่ ใส่กะทิลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันดี
2.เติมน้ำเปล่าลงไป (ในสูตรใส่น้ำอุณหภูมิห้อง แต่ถ้าเป็นน้ำเย็นจัดน่าจะกรอบกว่า) คน ๆ ให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลทรายละลาย
3.ใส่มะพร้าวขูดลงไป ตามด้วยงาขาวคั่ว คนจนส่วนผสมแป้งข้นเล็กน้อย
4.ใส่น้ำปูนใสลงไป จะทำให้กล้วยทอดกรอบนาน (วิธีทำน้ำปูนใส ในสูตรเอาปูนแดง 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำใส่ขวด ปิดฝาเขย่าให้ปูนละลาย แล้วก็ตั้งไว้ปล่อยให้ปูนแดงตกลงก้นขวด เอาน้ำใส ๆ มาทำอาหาร ส่วนน้ำปูนใสที่เหลือเก็บไว้อุณหภูมิห้องธรรมดาได้นาน)
5.ใส่เกลือ คนให้เข้ากัน ใส่กล้วยน้ำว้าฝานลงไปในส่วนผสมแป้งแล้วทอด (ในสูตรฝานลูกหนึ่งแค่ 3 ชิ้น เพราะชอบชิ้นหนา)
6.ตั้งกระทะใช้ไฟกลาง ๆ ไปทางร้อนใส่น้ำมันลงไป เอากล้วยชุบแป้งลงทอดจนเหลืองกรอบได้ที่ตักขึ้น
5.ขนมเบื้อง
เมนูขนมเบื้องขายในงานวัดแทบทุกงาน จะทำชิ้นใหญ่ หรือชิ้นเล็กก็แล้วแต่สไตล์ สำหรับใครอยากทำขายงานวัดเตรียมทำแป้งและครีมกันเลย ส่วนไส้ก็มีทั้งไส้เค็มคือไส้กุ้ง และไส้หวานคือไส้ฝอยทอง
ส่วนผสม แป้งขนมเบื้อง
1.แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม
2.แป้งถั่วเขียว หรือแป้งซาหริ่ม 50 กรัม
3.น้ำเย็นจัด 150 กรัม
4.ไข่ไก่ 1 ฟอง
5.น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม
ส่วนผสม ครีมขนมเบื้อง
1.ไข่ขาว 3/4 ถ้วย หรือประมาณ 2 ฟอง
2.น้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลทรายละเอียด 1 ถ้วย
3.น้ำมะนาว
ส่วนผสม ไส้หวาน
1.ฝอยทอง
2.มะพร้าวขูด
วิธีทำขนมเบื้อง
1.นำแป้งสองชนิด (แป้งข้าวเจ้าและแป้งถั่วเขียว) มาผสมกันแล้วเทน้ำเย็นตามลงไป ตีให้พอเข้ากัน จากนั้นก็ตอกไข่ใส่ลงไป ตีให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ ใช้ตะกร้อตีจนน้ำตาลละลายหมด ใช้มือช่วยบี้ ๆ ให้น้ำตาลละลายก็ได้ พักแป้งไว้ก่อน
2.ทำครีมโดยใช้ไข่ขาวตีกับน้ำตาลไอซิ่ง ถ้าใครจะใช้น้ำตาลธรรมดาก็ได้ แต่ขอให้เป็นน้ำตาลทรายละเอียด น้ำตาลจะได้ละลายเร็ว ๆ หยดน้ำมะนาวลงไปเล็กน้อยเพื่อให้ครีมตั้งยอดเร็วขึ้น
3.ตั้งเตา เทส่วนผสมแป้งลงไป แล้วก็แผ่แป้งให้บางที่สุดเท่าที่จะบางได้ พอแป้งเริ่มมีสีน้ำตาลก็ให้ละเลงครีมลงไป จะสังเกตเห็นว่าครีมเริ่มสุกและพองตัวขยายขึ้น ใส่ฝอยทองกับมะพร้าวขูดลงไป จากนั้นก็พับครึ่งวางบนตะแกรงเลย
6.น้ำแข็งไส
น้ำแข็งไสใคร ๆ ก็ทำขายกัน ลองแปลงร่างเป็นแตงโมไสดีไหม แค่จับแตงโมไปแช่เย็นจนแข็ง แล้วเอาไปปั่นจนละเอียด ตักใส่ถ้วย ราดนมข้นหวานและแต่งด้วยเจลลี่หรืออื่น ๆ ตามชอบ
ส่วนผสม แตงโมไส
1.แตงโม
2.นมข้นหวาน
3.เม็ดเจลลี่ (ตกแต่ง) หรือท็อปปิ้งอื่น ตามชอบ
4.เครื่องปั่น
วิธีทำแตงโมไส
1.หั่นเฉพาะเนื้อแตงโมเป็นชิ้น ๆ นำเม็ดออกให้หมด จากนั้นนำเข้าช่องแช่แข็งให้แตงโมเป็นก้อนน้ำแข็งประมาณ 1 คืน
2.นำแตงโมที่แข็งแล้วไปปั่นในเครื่องปั่นจนละเอียดตามชอบ
3.ตักใส่ถ้วย ราดด้วยนมข้น แต่งด้วยเจลลี่ให้สวยงาม พร้อมเสิร์ฟ
7.ขนมโตเกียว
ส่วนผสมขนมโตเกียว
1.แป้งเค้ก 2 ถ้วยตวง
2.ไข่ไก่ 4 ฟอง
3.นมสด 2 ถ้วยตวง
4.ผงฟู 2 ช้อนชา
5.เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
6.น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
7.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
8.วานิลลา 1 ช้อนชา
9.ไส้กรอกและหมูสับปรุงรสสำหรับทำไส้
วิธีการทำ
1.ร่อนแป้ง ผงฟู เบกกิ้งโซดา และเกลือ สักสองครั้งพักไว้
2.ในอ่างผสม ตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟูขาว ใส่วานิลาลงไปผสมให้เข้ากัน ใส่แป้ง – นม – แป้ง – นม และจบที่แป้ง แต่ละขั้นตอนตีผสมแค่พอเข้ากัน (พักแป้งไว้ในตู้เย็นหนึ่งคืน)
3.ทอดไส้กรอก และทำหมูสับปรุงรสเตรียมไว้ เราใส่แค่พริกไทยกับซอสปรุงรส
4.กระทะเทปล่อนตั้งไฟอ่อน ๆ ไม่ต้องทาไขมัน ตักแป้งละเลงลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะค่ะ อยากได้ลวดลายก็เติมแป้งออกไปเป็นหางยาว ๆ พอแป้งสุกจะมีฟองอากาศปุด ๆ เหมือนทำแพนเค้ก ก็ใส่ไส้ลงไปแล้วม้วน พร้อมขาย