ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

บอกต่อสูตร “ทองม้วนกรอบ” และ “ทองม้วนสด” ทำกินก็ได้ ทำขายเป็นอาชีพเสริมก็ได้ด้วย


ขนมทองม้วน เป็นขนมไทยที่มีรสชาติหวานมันและหอมกลิ่นใบเตยกะทิ ซึ่งมีอยู่ 2 แบบแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน คือ ทองม้วนกรอบ และ ทองม้วนสด ที่มีส่วนผสมไม่มาก และวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ที่สำคัญยังสามารถทำขายสร้างรายได้เสริมเข้ากระเป๋าให้คุณได้อีกด้วย ชี้ช่องรวย จึงขอแนะนำสูตรการทำขนมทั้ง 2 ชนิดนี้ ไปดูกันค่ะ

1.ทองม้วนกรอบ

วัตถุดิบ

1.แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย

2.แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ

3.น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วย

4.กะทิ 2 ถ้วย

5.ไข่ไก่ 1 ฟอง

6.งาดำ 2 ช้อนโต๊ะ

7.งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ

8.เกลือ 1 ช้อนชา

9.วานิลลา 1 ช้อนชา

10.ใบเตย ตามชอบ

วิธีทำ

STEP 1 : ผสมวัตถุของเหลว

1.เทกะทิลงในชามผสม ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ ไข่ไก่ วานิลลา เกลือ และใบเตย

2.ใช้มือขยำจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วนำใบเตยออก การขยำจะช่วยให้กลิ่นใบเตยออกและหอมยิ่งขึ้น

STEP 2 : ผสมแป้ง

1.ใส่แป้งมันสำปะหลังลงไป ตามด้วยแป้งข้าวเจ้า งาดำ และงาขาว

2.ตีให้เข้ากัน แล้วพักไว้ 15 นาที เพื่อให้แป้งเซตตัว

STEP 3 : ทำทองม้วน

1.เปิดเครื่องทำทองม้วนไฟกลาง แล้วรอจนร้อน

2.หยอดแป้งที่เตรียมไว้ลงไป ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ปิดฝาแล้วบีบให้แน่น รอจนแป้งสุก

3.เอาแป้งออกจากเครื่อง แล้วม้วนด้วยตะเกียบ พร้อมเสิร์ฟ

TIP : สูตรนี้ใช้เครื่องทำโคนวาฟเฟิลไฟฟ้า พอแป้งสุกเครื่องจะขึ้นไฟสีเขียว ทำให้ดูง่ายกว่าเตาตามร้านทั่วไปค่ะ

ขอขอบคุณที่มา : www.wongnai.com

2.ทองม้วนสด

ส่วนผสม

1.แป้งมัน 130 กรัม

2.แป้งข้าวเจ้า 10 กรัม

3.แป้งท้าวยายม่อม 20 กรัม

4.เกลือ 1/4 ช้อยชา

5.กะทิ 1 ขวด

6.ไข่ไก่ 1 ฟอง

7.เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย

8.งาดำคั่ว ตามชอบ

9.งาขาวคั่ว ตามชอบ

10.น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ถ้วย

11.น้ำดอกอัญชัน 2 ช้อนโต๊ะ

12.น้ำใบเตย 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.ผสมแป้งมันกับแป้งข้าวเจ้าและแป้งท้าวยายม่อม ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย

2.เทกะทิลงไปทีละครึ่งขวด แล้วนวดแป้งให้เข้ากันจนกว่ากะทิจะหมดขวด

3.ใส่ไข่ไก่ เนื้อมะพร้าว แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ใส่งาดำและงาขาวลงไป

4.แบ่งแป้งเป็น 3 ถ้วยเท่าๆ กัน ใส่สีที่ต้องการลงไป แล้วคนให้เข้ากัน

5.ตั้งกระทะเปิดไฟอ่อนถึงปานกลาง หยอดแป้งลง เมื่อแป้งเริ่มสุกก็พลิกกลับอีกด้านแล้วรอให้สุกทั้งสองด้าน

6.จากนั้นก็ม้วนขนมแล้วตักขึ้นมาเรียงใส่จานไว้พร้อมเสิร์ฟ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : Food MThai