ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

เตรียมเปิดร้านได้เลย กับ 9 สูตรขนมไทยเชื่อม ขายตามตลาด หรือ ใส่รถขายแบบฟู้ดทรัค ก็กำไรดี


ชี้ช่องรวย วันนี้ขอเอาใจผู้ที่คิดจะเปิดร้านขายขนมหวานประเภทของเชื่อมต่างๆ ซึ่งแอดมินมองแล้วน่าจะไปได้สวย โดยเฉพาะในกลุ่มสายหวานจะเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก หรือเป็นขนมที่เหมาะสำหรับงานมงคลต่างๆ เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า “เชื่อม” หมายถึง เชื่อมความสัมพันธ์ เชื่อมต่อความรุ่งโรจน์ทางธุรกิจ เป็นต้น

สำหรับช่องทางการขาย นอกจากจะขายตามตลาดต่างๆ แล้ว ยังสามารถขายตามตลาดนัด รวมไปถึงจะขยายในบนรถฟู้ดทรัคก็ยังได้ ที่สำคัญยังขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย โดย ชี้ช่องรวยมี 9 สูตรขนมไทยเชื่อมมาฝาก ดังนี้

1.มันสำปะหลังเชื่อม

ส่วนผสม 

1.มันสำปะหลัง 1 หัว

2.น้ำตาลทราย 2 ถ้วย

3.น้ำลอยดอกมะลิ 5 ถ้วย (หรือน้ำผสมกลิ่นมะลิ)

ส่วนผสม กะทิสำหรับราด

1.หัวกะทิ 1 ถ้วย

2.แป้งข้าวโพด 1/2 ช้อนโต๊ะ

3.เกลือป่น 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

1.หั่นมันสำปะหลังเป็นท่อนสั้น ๆ ปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด เตรียมไว้

2.ใส่น้ำตาลทรายลงในกระทะเทฟลอน (หรือกระทะทองเหลืองถ้ามี) ตามด้วยน้ำลอยดอกมะลิ ใช้ไฟกลางเคี่ยวจนน้ำตาลทรายละลายหมด

3.เมื่อน้ำเชื่อมเดือดแล้วใส่มันสำปะหลังลงไปต้มจนมันเริ่มสุกบางส่วนแล้วลดเป็นไฟอ่อน จากนั้นเชื่อมมันไปเรื่อย ๆ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับขนาดของมันสำปะหลังที่เราหั่น) จนน้ำเชื่อมซึมเข้าไปในเนื้อมัน และเนื้อมันมีลักษณะใส ปิดไฟ พักไว้

4.ทำกะทิสำหรับราดโดยละลายแป้งข้าวโพดกับหัวกะทิเล็กน้อย ใส่เกลือป่นลงไปคนให้แป้งละลายหมดแล้วนำขึ้นตั้งไฟอ่อนคนไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมข้นและเหนียว ปิดเตา พักไว้จนเย็น

5.ตักมันสำปะหลังเชื่อมใส่ถ้วย ราดด้วยกะทิ พร้อมเสิร์ฟ

2. ทุเรียนเชื่อม

ส่วนผสม 

1.ทุเรียนหมอนทองไม่สุก

2.น้ำปูนใส

3.น้ำเปล่า

4.น้ำสะอาด 4 ถ้วยตวง

5.น้ำตาลทราย 500 กรัม

วิธีทำ

1.เอาเมล็ดทุเรียนออก แช่น้ำปูนใสทิ้งไว้ 30 นาที รอครบกำหนดเอาขึ้นมาล้างน้ำเปล่าและวางไว้ให้สะเด็ดน้ำบนกระชอน

2.ตั้งหม้อใส่น้ำสะอาดและน้ำตาลทรายลงไปต้มใช้ไฟแรง ต้มประมาณ 15 นาที

3.ใส่เนื้อทุเรียนลงไป รอจนทุเรียนสุก ตักใส่ภาชนะ วางพักทิ้งไว้ให้เย็น พร้อมเสิร์ฟ

3.ฟักทองเชื่อม

ส่วนผสม

1.ฟักทอง 1/2 ลูก (เลือกที่เนื้อแน่นจะทำให้ฟักทองเชื่อมมีเนื้อเหนียว)

2.น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง

3.น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง

4.ใบเตย 5 ใบ

วิธีทำ

1.หั่นฟักทองออกเป็นชิ้นหนา ๆ ใช้มีดคว้านไส้ออกให้สวยงาม (ถ้ามีน้ำปูนใสให้นำฟักทองไปแช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วสะเด็ดน้ำเตรียมไว้)

2.ใส่น้ำตาลทรายลงในหม้อเชื่อม ตามด้วยน้ำเปล่า และใบเตย นำขึ้นตั้งไฟอ่อนคนให้น้ำตาลทรายละลายหมด

3.ใส่ฟักทองลงไปในหม้อแล้วเร่งเป็นไฟแรงสุด จากนั้นรอจนเดือดแล้วลดเป็นไฟอ่อน (ใช้ความร้อนแค่พอเดือดปุด ๆ) เชื่อมฟักทองไปเรื่อย ๆ (ไม่ต้องคนเพราะจะทำให้น้ำตาลเกาะกันเป็นก้อน) ประมาณ 1 ชั่วโมง และหมั่นตักน้ำเชื่อมในหม้อราดลงบนชิ้นฟักทองที่ไม่โดนน้ำเชื่อมด้วย เชื่อมจนฟักทองสุกและใส ปิดไฟ พักไว้จนเย็น ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

4.กล้วยไข่เชื่อม

ส่วนผสม

1.กล้วยไข่ห่าม ๆ 2 หวี

2.น้ำตาลทรายขาว 450 กรัม

3.น้ำสะอาด 400 กรัม

ส่วนผสม กะทิสำหรับราด

1.หัวกะทิ 2 ถ้วย

2.เกลือป่น (หยิบมือ)

3.แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.ปอกเปลือกกล้วยไข่ออก ดึงเส้นดำออกให้หมด ตัดหัว-ท้ายเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม แช่ไว้ในน้ำผสมเกลือนิดหน่อย เพื่อไม่ให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ ๆ (แต่ถ้าหากปอกแล้วเชื่อมเลย ก็ไม่ต้องแช่)

2.ผสมน้ำกับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกันแล้วนำไปตั้งไฟ คนให้ละลาย (จะได้เป็นน้ำเชื่อม) แล้วนำมาลงกรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอนตาถี่ ๆ ครั้งหนึ่ง

3.จากนั้นก็เทใส่กลับคืนหม้อ แล้วนำไปตั้งไฟเคี่ยวต่อเรื่อย ๆ (แรก ๆ ตอนน้ำเชื่อมยังใสอยู่ เราจะเห็นว่าฟองตอนเดือดเขาจะเป็นฟองค่อนข้างใหญ่ แต่เมื่อยิ่งน้ำเชื่อมข้นมากขึ้นเท่าไหร่ ฟองก็จะยิ่งเล็กลงค่ะ) เคี่ยวจนน้ำเชื่อมให้ลดลงไปประมาณ 1/4 ก็จะได้น้ำเชื่อมที่มีความเหนียวได้ที่

4.นำกล้วยไข่ลงไปเชื่อม ใช้ไฟกลาง ๆ ค่อนมาทางอ่อน (เพื่อค่อย ๆ ให้น้ำเชื่อมซึมเข้าไปในเนื้อกล้วย พร้อมกับความร้อนจากน้ำเชื่อมที่จะทำให้กล้วยค่อย ๆ ระอุ และก็สุกในที่สุดพร้อม ๆ กับซึมซับน้ำเชื่อมได้เต็มที่)

5.ตักใส่จาน ราดกะทิ พร้อมเสิร์ฟ

วิธีทำกะทิสำหรับราดหน้า

วิธีที่ 1: สำหรับหัวกะทิที่คั้นโดยไม่ใช้น้ำ ให้เอาหัวกะทิผสมเกลือป่นเล็กน้อยแล้วนำไปตั้งไฟอ่อนคนไปเรื่อย ๆ จนกะทิข้นขึ้น

วิธีที่ 2: สำหรับหัวกะทิที่คั้นแบบใส่น้ำ หรือกะทิกล่อง ให้เอาหัวกะทิ 2 ถ้วย ผสมกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ และเกลือป่นหยิบมือ (ใส่พอให้มีรสเค็มปะแล่ม ๆ) คน ๆ ให้แป้งละลายเข้ากับหัวกะทิก่อน แล้วค่อยนำไปตั้งไฟกลาง ๆ ระหว่างตั้งไฟก็ใช้ตะกร้อมือคนเรื่อย ๆ จนกระทั่งแป้งสุกและกะทิข้น พอกะทิสุกข้นแล้วก็ยกลงจากเตา ตั้งพักไว้ให้เย็น

5. กล้วยน้ำว้าเชื่อมสีแดง

ส่วนผสม

1.กล้วยน้ำว้าห่าม ๆ 12 หวี (ประมาณ 8-10 ลูก)

2.น้ำปูนใส (สำหรับแช่กล้วย) **ถ้าไม่มีน้ำปูนใสให้ใช้น้ำเปล่าผสมเกลือป่นได้

3.น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง

4.ใบเตย 3 ใบ

5.น้ำตาลปี๊บ 100 กรัม

6.น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม

7.น้ำมะนาว 1/2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.ปอกเปลือกกล้วยน้ำว้าออกแล้วหั่นเป็น 4 ชิ้น นำไปแช่ทิ้งไว้ในน้ำปูนใส (หรือน้ำผสมเกลือ) ประมาณ 1 ชั่วโมง พอครบเวลานำไปล้างจนหมดกลิ่นปูน

2.ใส่น้ำเปล่า ใบเตย น้ำตาลปี๊บ และน้ำตาลทรายลงในหม้อ พอเดือดใส่กล้วยน้ำว้าลงไป ตามด้วยน้ำมะนาว รอให้เดือดอีกครั้งแล้วช้อนฟองทิ้งจนหมด เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนกล้วยเปลี่ยนเป็นสีแดง ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

6.ลูกตาลเชื่อม จาวตาลเชื่อม

ส่วนผสม

1.จาวตาล 7 กิโลกรัม

2.ฟางข้าว (สำหรับผสมน้ำเปล่าล้างจาวตาล)

3.สารส้ม (สำหรับผสมน้ำเปล่าล้างจาวตาล)

4.น้ำสะอาด (สำหรับล้างจาวตาล)

5.น้ำตาลทราย 4 กิโลกรัม

6.น้ำเปล่า (สำหรับต้มจาวตาล)

วิธีทำ

1.เอาเปลือกจาวตาลออก เอารากออก เสร็จแล้วนำมาล้างกับฟางข้าวผสมน้ำเปล่า 1 ครั้ง เพื่อเอาเมือกออก และล้างกับสารส้มผสมน้ำเปล่า 1 ครั้ง สุดท้ายล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 3 ครั้ง

2.ต้มน้ำเปล่าให้เดือด ใส่จาวตาลลงไปลวกประมาณ 10-15 นาที หรือจนจาวตาลสุก ตักออกมาพักไว้สักครู่

3.แบ่งน้ำตาลทรายประมาณ 2 กิโลกรัมใส่ลงไปบนจาวตาล ใส่น้ำเปล่าพอท่วม ปิดฝา ตั้งไฟรอจนเดือดประมาณ 15 นาที เปิดฝา เอาน้ำสะอาดพรมหน้าจาวตาล ใส่น้ำตาลทรายที่เหลืออีก 2 กิโลกรัม ปิดฝา ตั้งไฟรอจนเดือดประมาณ 20 นาที ตักขึ้นมาใส่ภาชนะเพื่อกลับด้านบนลงล่างให้จาวตาลดูดซึมน้ำเชื่อมให้เท่ากัน

4.ตั้งน้ำเชื่อมรอจนเดือด ช้อนฟองออก ใส่จาวตาลลงไปต้มต่ออีกประมาณ 20 นาที ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

7.มันเทศเชื่อม

ส่วนผสม

1.มันเทศ ปอกเปลือกหั่นชิ้น 8ขีด

2.น้ำตาลทรายแดง (ไม่ขัดสี) 2 ขีด

3.น้ำตาลปี๊บ 1 ขีด

4.เกลือ 1/2 ช้อนชา

5.น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง

6.น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1.มันเทศ ปอกเปลือกล้างให้สะอาดหั่นชิ้นตามชอบ

2.น้ำใส่หม้อตั้งไฟปานกลาง ใส่มัน น้ำตาลทราย พอเดือดใส่เกลือ น้ำตาลปี๊บ เคี่ยวต่อพอน้ำลดลงครึ่ง เบาไฟลงเติมน้ำมะนาว คอยตักฟองออกเรื่อยๆ ระวังก้นหม้อจะไหม้

3.เคี่ยวไฟเบาๆจนน้ำงวด พอมันสุกปิดไฟ

4.ถ้าชอบกะทิราด หัวกะทิตั้งไฟใส่เกลือไปนิด ชอบข้นๆใส่แป้งข้าวจ้าวไปนิด (แต่วันนี้เทจากกล่องราดเลยเร็วดี)

8.เผือกเชื่อม

ส่วนผสมตัวเผือก

1. เผือก 1 กิโลกรัม

2.น้ำตาลทราย 350 กรัม

3.น้ำเปล่า 1500 กรัม

4.น้ำมะนาว 10 กรัม

ส่วนผสมกะทิสำหรับราดหน้า

1.มะพร้าวขูดขาว 200 กรัม

2.เกลือป่นหยาบ 2 กรัม

3.แป้งข้าวเจ้า 5 กรัม

วิธีทำ

1.ล้างเผือกให้สะอาด ซับน้ำให้แห้ง ปอกเปลือก หั่นหนาพอสมควร

2.ผสมน้ำตาลทราย น้ำเปล่า และน้ำมะนาว ใส่กระทะทองตั้งไฟใช้ไฟปานกลางพอเดือดและน้ำตาลละลาย ใส่เผือกที่เตรียมไว้ เชื่อมจนเผือกสุก มีลักษณะฉ่ำน้ำตาล เป็นเงา ตักขึ้นใส่จาน เวลาเสิร์ฟราดหน้าด้วยกะทิ

3.คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิ 120 กรัม ผสมกับเกลือป่น แป้งข้าวเจ้า ตั้งไฟอ่อนคนจนแป้งสุกกะทิมีลักษณะข้นเล็กน้อย แต่ไม่แตกมัน

ขอขอบคุณสูตรและภาพประกอบจาก : https://www.maeban.co.th/

9.สาเกเชื่อม

ส่วนผสม

1.สาเก 1 กิโลกรัม

2.น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง

3.น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง

4.มะนาว 2 ผล

5.น้ำปูนใส

วิธีทำ

1.ทำความสะอาดสาเก ปอกเปลือกออกให้หมด ทาผิวสาเกด้วยมะนาวให้ทั่ว เพื่อไม่ให้เนื้อสาเกดำ ผ่าครึ่งตามความยาว เอาไส้ออก แล้วหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว

2.แช่สาเกในน้ำปูนใสประมาณ 1 ชั่วโมง ล้างน้ำปูนใสออกให้หมด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ

3.ใส่น้ำสะอาดและน้ำตาลทรายลงในกระทะทอง ตั้งไฟให้น้ำตาลทรายละลายเป็นน้ำเชื่อม กรองด้วยผ้าขาวบาง

4.ใส่น้ำเชื่อมที่กรองแล้วลงในกระทะทองอีกครั้ง ใส่สาเกลงเชื่อมด้วยไฟอ่อนๆ จนสาเกมีลักษณะอิ่มน้ำเชื่อม สุก และใส เคี่ยวจนน้ำเชื่อมงวด จึงยกลง

5.พักไว้จนเย็นสนิท เก็บใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิทเก็บไว้รับประทานได้หลายวัน