“ชานมแอมที” ปั้นแบรนด์ไทยสู่แบรนด์โลก โตจนฉุดไม่อยู่ ปีเดียวร้อยล้าน

ชานมแอมที ใช้เงินทุนเพียง 50,000 บาท เป็นเจ้าของร้านชานมที่แตกต่าง กำไรปังปัง คืนทุนไว ส่วนลูกชิ้นยืนกินเจ๊จงใช้เงินทุนเพียง 10,000 กว่าบาท ก็เป็นเจ้าของได้ เพียง 3 วัน ก็คืนทุนแล้ว

คุณณปภัช วรปัญญาสถิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอิ้งพราว จำกัด (ชา แอมป์ที) มาร่วมสัมมนาในงาน Smart SME EXPO 2021 โดยกล่าวว่า เริ่มต้นจากความสนใจนิยมดื่มชานมยินก่อนแล้วชงดื่มในหมู่ เพื่อนฝูงพี่น้องให้อร่อยก่อน ต้องสร้างร้านให้ประสบความสำเร็จด้วยตนเองก่อน จนสามารถรู้วิธีการจัดการ รู้แนวทางการแก้ไขปัญหา สามารถตอบโจทย์ให้ลูกค้าได้ทุกแง่ทุกมุม

ยิ่งบริษัทเปิดในช่วงโควิดก็จะทำให้ต้องเผชิญปัญหาหลายรูปแบบ ยิ่งทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง มีรูปแบบการสอนและการอบรมทางออนไลน์ จนปัจจุบันในประเทศ 10 สาขา ต่างประเทศเปิดแล้วประมาณ 3-4 สาขา และมีแผนจะไปเปิดต่างประเทศอีกหลายสาขา สาขาแรกเปิดที่กัมพูชา เปิด 500-1,000 แก้ว/วัน

ช่วงโควิดมาเปิดในเมืองไทย แข่งขันมาก ทำให้ต้องสร้างแบรนด์ดิ้ง ราคาสูงก็มีคนขาย เช่น 55 บาทก็มีคนซื้อ ซึ่งตลาดชานมในเมืองไทยและกัมพูชามีความหวานที่แตกต่างกัน มีเมนูมากกว่า 80 เมนู แต่วัตถุดิบน้อย จุดแข็งของการทำแฟรนไชส์อยู่ที่มีระบบการจัดการง่าย สูตรชัดเจน มีระบบการจัดการหน้าบ้านหลังบ้านที่ทรงประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด

กุญแจความสำเร็จคือความมี passion ที่จะสู้ ต่อยอด มีพฤติกรรมชอบชิม ทำให้ธุรกิจเติบโตตลอดเวลา สร้างแบรนด์ใหม่มากินกับชานมให้อร่อย

นอกจากนี้ เจอกระแสลูกชิ้นยืนกิน อร่อย จึงได้เข้าไปช่วยการจัดการร้านที่น้องลิซ่าพูดถึง ให้สามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง ทำเป็นระบบแฟรนไชส์ได้ ปัจจุบันมียอดจอง 50 สาขาใน 6 วัน ซึ่งปัจจุบันนี้เปิดรับรอบ 2 ให้กับผู้สนใจอยากเป็นเจ้าของกิจการ

ผู้สนใจสามารถสอบถามได้ที่งาน Smart SME EXPO 2021 บูธ A12 โดยบริษัทจะช่วยดูทำเล ชานมแอมทีเงินลงทุนเพียง 50,000 บาทก็เริ่มธุรกิจได้ ส่วนลูกชิ้นยืนกินเจ๊จง 3 วันคืนทุน ด้วยเงินลงทุนประมาณ 10,000 บาท เท่านั้น