ปีใหม่ มิติใหม่ “ธุรกิจร้านเสริมสวย” ทำผมไม่เป็นก็เปิดร้านได้!!

การย้อมผม ทำสีผม หรือตัดแต่งผมให้สั้นลงในสมัยนี้ทำกันได้ง่ายดายที่บ้าน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนเข้า “ร้านเสริมสวย” หรือ “ซาลอน” ไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าทำเงินได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะบริการสระผม ตัด ดัด ย้อมสีผม ไปจนถึงบำรุงผม และจัดแต่งทรงผม ด้วยเหตุผลที่ว่า การไปทำผมที่ร้านจากช่างทำผมมืออาชีพ ช่วยส่งเสริมบุคลิกและความมั่นใจได้มากกว่ามานั่งทำเอง ส่งผลให้ประเทศไทยมีร้านซาลอนและร้านที่เกี่ยวข้องมากกว่า 2,000,000 ร้าน และส่วนใหญ่เป็นร้านขนาดเล็ก

ปัจจุบันธุรกิจซาลอนมีอัตราการเติบโตสูง ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2561 พบว่า อาชีพช่างเสริมสวยเป็นอาชีพที่ประชากรภายในประเทศต้องการพัฒนาขีดความสามารถมากเป็นอันดับ 3 รองจากอาชีพด้านอาหารและการเพาะปลูกพืช และจากข้อมูลนิติบุคคลที่ปัจจุบันมีการจดทะเบียนประกอบธุรกิจเสริมสวยทั่วประเทศจำนวน 305 ราย ทุนจดทะเบียน 691.70 ล้านบาท และกว่าร้อยละ 90 จะเป็นกิจการที่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาเรียกง่ายๆ คือ อาชีพอิสระ

• ธุรกิจนี้ มันดียังไง?

ร้านทำผมเป็นธุรกิจที่ลงทุนหนักครั้งเดียว ได้แก่ ค่าตกแต่งร้าน เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ทำผมต่างๆ หลังจากนั้นใช้ทุนหมุนเวียนน้อย เป็นธุรกิจเงินสด มีรายได้ทุกวัน ต้นทุนส่วนใหญ่จะเป็นการขายฝีมือมากกว่าการลงทุนด้านวัตถุดิบ มีหัวใจสำคัญคือ “ฝีมือช่าง” เดิมพันกับ “ความพอใจของลูกค้า” ถ้าทำแล้วสวย เปลี่ยนลุคป้าแก่เป็นสายสาวฝอได้ ร้อยทั้งร้อยยอมจ่ายไม่ว่าแพงแค่ไหนก็ตาม สร้างกำไรเป็นกอบเป็นกำ

ใครที่เข้าร้านทำผมบ่อยๆ จะรู้ดีว่า การหาช่างทำผมที่ถูกใจ หายากดั่งงมเข็มในมหาสมุทร เมื่อเจอแล้วแทบจะล็อกตัว โทรจองคิวกันเลย ขอช่างคนนี้เท่านั้น! ทำให้ร้านมี “ลูกค้าประจำ” แล้วยิ่งสบาย สามารถทำเงินทำรายได้ให้ตลอด (แต่ก็ต้องระวังนะว่าลูกค้าจะตามช่างไปเมื่อเขาลาออก)

แม้เศรษฐกิจไม่ดี หนุ่มๆ สาวๆ ก็ยังรักสวยรักงามเหมือนเดิม ยอดขายอาจตกแต่ไม่ล้มแน่นอน โดยเฉพาะตัดผมผู้ชาย และการทำสีผม ไฮไลต์ ลองได้ทำแล้วต้องมาเติมโคนกันบ่อยๆ พร้อมกับใช้บริการอื่นๆ เพื่อดูแลสภาพผมเสียกลับมาเงางาม โดยทางร้านสามารถ “ต่อยอดธุรกิจ” ต่อไปได้หลากหลาย เช่น จำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม

• มีเงินน้อย เปิดร้านได้ไหม?

อุปกรณ์เสริมสวยพร้อมราคา สำหรับร้านเล็กๆ ที่มีช่างทำผมคนเดียว (ไม่รวมค่าตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ)
รายการ งบประมาณ

• กระจกด้านหน้าลูกค้า บานใหญ่ 1 บาน (สั่งตัด) 1,000 บาท
• กระจกด้านหลังลูกค้า บานเล็ก 1 บาน(สั่งตัด) 300 บาท
• เก้าอี้สำหรับเสริมสวยลูกค้า 3,000 บาท
• เตียงสระผม 3,500 บาท
• ชั้นวางอุปกรณ์เสริมสวยแบบมีล้อ 700 บาท
• ไดร์เป่าผมอย่างดีขนาด 1600 วัตต์ขึ้นไป และไดร์สำรอง 1 อัน 3,000 บาท
• กรรไกรตัดผม เล็มผม 3,000 บาท
• หวีแบบต่างๆ 1,000 บาท
• เครื่องรีดผม ม้วนผม ราคา 2,000 บาท
• ผ้าขนหนู ยกโหล 400 บาท
• น้ำยาย้อมผม น้ำยายืดผม แชมพู ครีมนวด ครีมสปาต่างๆ 3,000 บาท

รวม 20,900 บาท

จะเห็นได้ว่าราคาอุปกรณ์ร้านเสริมสวย เริ่มต้นมีประมาณ 20,000 บาท ก็สามารถเปิดร้านแบบง่ายๆ ได้แล้ว
(ข้อมูลจาก www.hairworldplus.com)

• “Yes it is” ทำผมไม่เป็น ก็เปิดซาลอนได้

ใคร “อยากเปิดร้านเสริมสวย” แต่ไม่มีอะไรใกล้เคียงความจริงเลย!! ไม่มีประสบการณ์ด้านร้านเสริมสวยมาก่อน ทำผมก็ไม่เป็น ไปลงคอร์สทำผมหาความรู้ก่อนดีไหม? ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี….

แบก “ความฝัน” กับ “เงินทุน” ของคุณมาที่ “Yes it is” แฟรนไชส์ร้านเสริมสวยที่เกิดจากความฝันและความพยายามตลอด 15 ปีในวงการ Hair Salon ของ “จิตรกร วรรณเสวก” ศึกษาแนวทางการตลาด กลยุทธ์การเข้าถึงลูกค้ามากมาย จนประสบความสำเร็จ ปัจจุบันร้านเสริมสวย “Yes it is” มีมากกว่า 70 สาขาในระบบแฟรนไชส์ 

“Yes it is” ไม่ใช่แค่ทำร้านให้เท่านั้น แต่รับดูแลทุกอย่างในธุรกิจร้านเสริมสวยทั้งระบบ ตั้งแเต่เตรียมพื้นที่ หาทำเลให้ในย่านธุรกิจ ตกแต่งร้านพร้อมแบบให้เลือก ทั้งสไตล์โมเดิร์น หรือ วินเทจ ระบบไฟฟ้าและประปา ระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด อุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน ประกอบด้วย เตียงสระนอกสุดหรู เก้าอี้ไฮโดรลิคและโซฟา กระจกขนาดใหญ่ อุปกรณ์เสริมสวยและเครื่องมือเสริมสวยทั้งหมด I;,57’ผลิตภัณฑ์ L’Oreal และอื่นๆ อีกมากมาย

ซัพพอร์ตทีมงานช่างผ่านการคัดกรองอย่างดี จากสถาบันโรงเรียนเสริมสวยครบวงจร yes it’s me hairs academy คอยเทรนงานช่างอยู่เสมอ ช่วยพัฒนาช่างในแต่ละสาขาให้มีมาตรฐานคุณภาพระดับเดียวกัน พร้อมทั้งเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำในการบริหาร ร้านและวิธีการโปรโมทที่ได้ประสิทธิภาพ

“เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว” ภายใต้งบลงทุนเฟรนไชส์มีให้เลือก 3 ขนาด คือ ไซส์ S ราคาเริ่มต้น 350,000 บาท ไซส์ M ราคาเริ่มต้น 450,000 บาท และ ไซส์ L ราคาเริ่มต้น 600,000 บาท อายุสัญญา 3 ปี ระบบแฟรนไชส์ที่ไม่ต้องเสียรายได้ให้กับทางแบรนด์ รับเงินจริงตามยอด ดูแลกิจการได้เอง เพียงทำงานตามระบบที่ทางแบรนด์วางไว้ให้

เรียกว่าเป็นแฟรนไชส์ที่อุดทุกความเสี่ยงของธุรกิจร้านทำผม ความสำเร็จรูปที่ใครก็สวมรอยบริหารได้ เป็นทางเลือกที่ “คุ้มจะเสี่ยง” ของคนไม่มีประสบการณ์จริงๆ