คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าร้านค้าที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่รู้หรือไม่ว่า ‘ทำเล’ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้ร้านค้ามียอดขายมากขึ้น วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงได้รวบรวมเทคนิคการเลือกทำเลสำหรับตั้งร้านค้ามาไว้เป็นแนวทางสำหรับผู้ปะกอบการหรือผู้ที่กำลังวางแผนจะเปิดร้านได้ลองพิจารณาดู ดังนี้
1.ปริมาณผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา
ทำเลที่จะเลือกนั้นต้องมีคนเดินผ่านทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หรืออย่างน้อยด้านใดด้านหนึ่งจึงจะถือว่าดี สมมติว่าคนเดินผ่านหน้าร้าน 100 คน มี 10 คนที่จะเข้ามาซื้อสินค้าภายในร้าน ทำเลแบบนี้ควรเป็นที่ไหนผู้ประกอบการต้องมองให้ออกว่าสินค้าของเราเหมาะกับทำเลแบบใด เจาะกลุ่มลูกค้าประเภทไหนได้บ้าง
2.รายได้ของผู้คนในบริเวณนั้นเป็นอย่างไร
เราต้องมองให้ออกว่าผู้คนในทำเลนั้นๆ มีอาชีพอะไรและประเมินรายได้การใช้จ่ายว่าคนเหล่านี้จะมีกำลังซื้อสินค้าของเราหรือไม่ ยกตัวอย่าง ถ้าคุณได้ทำเลขายของหน้าโรงเรียน สินค้าไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง แต่ต้องซื้อได้บ่อย ยิ่งมีคู่แข่งน้อยๆ โอกาสขายดีก็มีมาก
ซึ่งรายได้ประชากรในพื้นที่ก็อาจจะไม่ต้องสูงเสมอไป สมมติว่าคุณเปิดร้านที่ตอบโจทย์พนักงานโรงงาน สินค้าของคุณอาจไม่จำเป็นต้องแพง แต่มีคุณภาพ สมราคา และตอบโจทย์ลูกค้า ซื้อหาได้บ่อยๆ คุณก็มีสิทธิ์รวยเท่ากับเปิดร้านในห้างเหมือนกัน
3.ความสะดวกสบาย
ถ้าร้านอยู่ริมถนน สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง คือ เรื่องที่จอดรถว่ามีพื้นที่ไว้รองรับลูกค้ามากแค่ไหน หากร้านอยู่ในซอยลึกควรจะมีป้ายชื่อร้าน ป้ายบอกทางที่เห็นเด่นชัด หากร้านของคุณตั้งอยู่ในตลาดนัดควรเลือดทำเลที่คนเดินผ่านมาแล้วจะเห็นง่ายที่สุด
หากร้านตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าต้องดูว่าโซนที่ตั้งของร้านอยู่ในตำแหน่งไหน ถูกจัดวางอย่างไร หายาก หาง่ายเพียงใด อยู่หน้าประตูห้าง อยู่กลางห้าง ใกล้น้ำพุ ด้านหน้าซูเปอร์มาร์เก็ต หรืออยู่ในหลืบมุมในสุด หากเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันทั้งหมด เช่น โซน IT ทุกร้านขายโทรศัพท์และสินค้าที่เกี่ยวข้อง ทำอย่างไรให้ร้านคุณแตกต่างจากร้านที่อยู่ติดกัน ข้อนี้ก็เป็นศิลปะในการตกแต่งร้านให้ดึงดูดใจลูกค้าอีกที
4.ราคาค่าเช่าที่เหมาะสม
ราคาค่าเช่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักสำคัญ หากทำเลนั้นราคาเค่าเช่าสูงแต่มีคู่แข่งน้อย ประเมินแล้วว่าสินค้าของเราสามารถขายได้แน่นอนเป็น ทำเลแบบนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะมีโอกาสที่จะสร้างรายได้ได้มากกว่าการหาพื้นที่ค่าเช่าราคาถูกแต่ไม่มีลูกค้า รวมไปถึงไม่มีคู่แข่งสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจ
5.รูปแบบของพื้นที่
ในแต่ละทำเลมีรูปแบบของพื้นที่แตกต่างกันออกไป เราต้องมองให้ออกว่าร้านค้าของเรานั้นใช้พื้นที่เท่าไหร่และอยู่ในรูปแบบไหนสามารถจัดวางสินค้าหรืออกแบบบริการของคุณหรือไม่ เพียงใด พื้นที่ใหญ่ๆ เล็กไป เป็นแนวลึก เป็นแนวตื้น ก็ต้องดูที่ผังพื้นที่อีกที
