ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

ชี้ช่องรวย เปรียบเทียบ ข้อดี – ข้อเสีย ของ “ทำเล” แต่ละประเภท แตกต่างกันอย่างไร เหมาะสมกับธุรกิจอะไรบ้าง


ทุกคนเคยสงสัยกันหรือไม่ว่า “ทำเล” แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร และแต่ละที่นั้นสามารถขายสินค้าหรือทำธุรกิจแบบไหนได้บ้าง วันนี้ ชี้ช่องรวย จะมาบอกถึง ข้อดี – ข้อเสีย ของทำเลแต่ละประเภทว่ามีอะไรบ้าง และเหมาะกับธุรกิจประเภทไหน เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ โดยมีดังต่อไปนี้

1.ตลาดนัด
หลายคนเลือกที่จะนำสินค้ามาเปิดท้ายขาย หรือนำสินค้ามาขายตามตลาดนัด เพราะเห็นว่าเป็นแหล่งค้าขายที่มีผู้คนพลุกพล่าน และเป็นจุดศูนย์กลางของชุมชน ทีนี้เรามดูข้อดี-ข้อเสียของตลาดประเภทนี้กัน

-ข้อดี ของการขายของที่ตลาดนัด จะอยู่ที่ค่าเช่าที่ถูกมาก บางตลาดนัดคิดเพียงวันละประมาณ 100 บาท เท่านั้น และหากได้ทดลองค้าขายจริงโดยไม่ต้องเสียเงินก้อนโตไปกับค่าเช่าที่หลายเดือน หรือค่าเซ้งที่ ทำให้มีโอกาสทดสอบตลาดได้ว่าสินค้าเราขายได้ไหม ก่อนไปเช่าที่แพงๆ นอกจากนี้ ยังมีลูกค้าจำนวนมาก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับตลาดถ้าเป็นตลาดนัดมีชื่อเสียง เช่น ตลาดนัดสวนรถไฟ ตลาดนัดตึกซัน รับรองว่าลูกค้าเยอะจริงๆ ลูกค้าแทบจะเดินเบียดกันเลย

-ข้อเสีย บางตลาดนัดที่ดังๆ มีคนอยากไปขายของเยอะ ไม่รับจองพื้นที่ ใครไปก่อนได้ก่อน หรือบางตลาดก็ใช้วิธีจับฉลาก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่อยากขายไปรอคิวเก้อได้ หรือต้องตั้งแผง เก็บแผงทุกวัน ถ้าไปขายของโดยไม่มีรถส่วนตัว ก็อาจจะลำบากในการขนย้ายแผงและสินค้าได้ ที่สำคัญเรื่องฝนฟ้าอากาศก็เป็นตัวแปรสำคัญ หากวันไหนฝนตก ลูกค้าเดินน้อย ก็ต้องรับสภาพกันไป

นอกจากนี้ ตลาดนัดยังไม่เหมาะกับสินค้าบางประเภท เช่น พวกสินค้าขนาดใหญ่ อิเล้คทรอนิกส์อย่าง คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ แต่จะเหมาะอย่างมากกับสินค้าประเภท อาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า อย่างนี้เป็นต้น

2.แหล่งชุมชน ย่านชุมชน/สถานศึกษา

-ข้อดี คือ ค่าเช่าที่มักจะถูกกว่าเช่าที่ตามห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ๆ เท่ากัน ยิ่งถ้าลูกค้าได้รับการบริการดีก็มีโอกาสที่จะได้ลูกค้าประจำด้วย เพราะลูกค้าต้องอาศัยอยู่บริเวณนั้นๆ อยู่แล้ว นแกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีเงินลงทุนก็สามารถซื้อตึก ซื้อที่ เป็นของตัวเองได้ ถ้ากิจการไปได้ดี งานนี้รวยยาวเลยค่ะ

-ข้อเสีย คือ มีโอกาสได้ลูกค้าขาจรไม่มากเท่าขายตามห้างสรรพสินค้า ลูกค้าไม่หลากหลายเพราะจะเป็นคนในพื้นที่เท่านั้น

3.บ้าน/คอนโด/ตึกแถว ของตัวเอง

-ข้อดี คือ ไม่ต้องเสียค่าเช่าที่ การจัดเก็บอุปกรณ์หรือสินค้าทำได้สะดวก เพราะเป็นบ้านของตัวเอง สามารถตกแต่งร้านได้ตามความต้องการเพราะเป็นที่ของตัวเอง ดูแลทั้งกิจการและดูแลครอบครัวได้ในที่เดียวกัน

-ข้อเสีย คือ เสียความเป็นส่วนตัว เพราะจะมีลูกค้าแวะมาใช้บริการในบ้านของคุณเสมอ หรือทำเลอาจจะไม่มีลูกค้าผ่านเยอะเท่ากับเราไปเลือกทำเลที่อื่นๆ และเรื่องความปลอดภัย ถ้าร้านคุณขายดี อาจจะมีโจรบริเวณนั้นมาย่องเบาบ้านคุณได้

4.ขายของบนเว็บไซต์

-ข้อดี คือ ต้นทุนต่ำ และยังสามารถขายลูกค้าได้ทั่วประเทศ หรือทั่วโลก (ถ้ารู้ภาษาอังกฤษ)สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ง่าย เช่น ขายสินค้าเฉพาะทาง ที่มีลูกค้าเฉพาะด้าน เช่น ขายชุด Cosplay เป็นต้น

-ข้อเสีย คือ คู่แข่งเยอะ ถ้าสินค้าเหมือนกับคนอื่นๆ อาจจะเกิดสงครามราคา และยังไม่เหมาะกับการขายสินค้าบางประเภท เช่น สินค้าที่แตกหักง่าย ขนส่งทางไปรษณีย์ไม่ได้ เป็นต้น หรืออาจจะถูกลูกค้าโกงได้ง่ายด้วย