ปิติคุณ เอกนิพิฐพิทยา หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจ เล่าว่า ไอเดียเริ่มต้นของการทำธุรกิจนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เพราะในช่วงนั้นเขาและกลุ่มเพื่อนที่ใช้งานรองเท้าหนักมาก ใส่เดินแทบตลอดทั้งวัน จึงอยากจะทำรองเท้าที่สวมใส่สบายขึ้นมาเพื่อใส่เองและจำหน่าย จึงเริ่มศึกษาข้อมูลและวางคอนเซ็ปต์ของรองเท้า จนได้ออกมาเป็น “รองเท้าแฮนด์เมด สไตล์มินิมอล” ที่ผลิตด้วยวัสดุธรรมชาติ เมื่อได้แนวคิดแล้วเขาก็ไปติดต่อกับโรงงานผลิต จนในปี 2557 เปิดตัวรองเท้ารุ่นแรกคือ “Heart” รุ่นนี้ใช้ผ้าแคนวาส ธรรมชาติ 100% และสูตรยางพาราธรรมชาติ100% โดยสกรีนโลโก้ด้านข้างรองเท้า ทำพื้นเป็น สีฟ้าและสีแดงเลือดหมีจุดเด่นคือ ความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบาโดยผลิตเพียง 500 คู่เท่านั้น จำหน่ายผ่านทางเฟซบุ๊ก 
“Heart” รุ่นนี้ถือว่าทำออกมาเพื่อทดลองตลาดก่อนที่จะปล่อยรุ่น “Heart 2” ตามมา โดยมีการพัฒนาตัวรองเท้าใหม่ทุกด้าน ทั้งโลโก้ข้างรองเท้าเปลี่ยนจากสกรีนเป็นการปักแทน พัฒนาสูตรยางให้มีความยืดหยุ่นเบาสบายมากขึ้น และอายุการใช้งานที่นานขึ้น ส่วนพื้น Insole เลือกใช้ “ผ้าแคนวาสตาห่าง” เพื่อการระบายอากาศที่ดีตัว ซึ่งรุ่นนี้มีผลตอบรับที่ดีมาก สามารถขายได้ 800 คู่ในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ 
ล่าสุดเขาออกรุ่น “Heart 3” ซึ่งรุ่นนี้เน้นพัฒนาในด้าน Insole เป็นหลัก โดยที่สั่งผลิตแผ่นยางพาราธรรมชาติ 100% นำมาตัดพิเศษเพื่อทำ Insole ให้มีความนุ่มและความยืดหยุ่นปรับตามรูปเท้าเมื่อใส่ไปนานๆ จะไม่รู้สึกเมื่อย โดนรุ่นนี้มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ Blue – Friday, Red – Bear Blood และ Green –สะพานพุธ สำหรับการทำตลาด ปิติคุณ เน้นไปที่กลุ่มคนที่ชื่นชอบงานศิลปะ นักเขียน นักวาดภาพ รวมไปถึงกลุ่มศิลปิน นักร้องนอกกระแส ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ก็จะมีที่ฐานแฟนคลับอยู่แล้วก็จะเป็นเสมือนแม่เหล็กดึงกลุ่มลุกค้าที่เป็นแฟนคลับเข้ามาอีกต่อหนึ่ง ซึ่งล่าสุดเขาได้ร่วมกับวง “Scrubb” ทำคอลเล็คชั่นพิเศษ “MORE’S FRIDAY x SCRUBB” ออกมาวางจำหน่าย พร้อมร่วมถ่ายแฟชั่นเช็ทคู่กับรองเท้า ซึ่งแคมเปญนี้เองก็จะดึงกลุ่มลูกค้าหน้าใหม่ที่เป็นแฟนเพลงเข้ามาได้ 
อีกทั้งยังทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น ในส่วนของการตลาดออนไลน์ ก็ใช้เฟซบุ๊กเป็นหลักในการสื่อสาร มีการโพสต์ภาพถ่ายสินค้าในแบบมินิมอล เรียบง่าย ถ่ายร่วมกับธรรมชาติ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ พร้อมจัดกิจกรรมให้เหล่าแฟนเพจได้ร่วมสนุก อย่างการแจกรองเท้า เป็นต้น อีกส่วนก็คือ การโพสต์รีวิวสินค้าจาก Influencer ในโซเชียลมีเดียที่มีคนติดตามจำมาก นอกจากนี้ยังออกบูธตามงานต่างๆ เพิ่มเติม เพื่อให้คนรู้จักมากขึ้น ปัจจุบัน รองเท้า More’s Friday จำหน่ายผ่านทาง www.moresfriday.com, ร้าน Thammada พหลโยธิน และร้าน The Selected สยามเซ็นเตอร์ ราคาเริ่มต้นที่คู่ละ 1,990 บาท สำหรับแผนธุรกิจในอนาคตทางแบรนด์ จะมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงขยายตลาดไปยังต่างประเทศ อย่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างเจรจาในการร่วมมือทำรองเท้าคอลเล็คชั่นพิเศษและนำสินค้าไปวางจำหน่าย
“การทำธุรกิจออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยาก หากจับจุดให้ได้ว่า กลุ่มลูกค้าเป็นใคร แล้วจึงค่อยทำการสื่อสารออกไป อย่างเช่น แบรนด์เรา ร่วมกับศิลปินที่มีสไตล์คล้ายๆ กัน ทำรองเท้าคอลเล็คชั่นพิเศษออกมากเพราะเชื่อว่า ถ้าเราชื่นชอบศิลปินคนใดคนหนึ่ง เราก็ย่อมที่จะอยากได้สินค้าที่เกี่ยวกับคนๆ นั้นเช่นกัน” ปิติคุณ กล่าวทิ้งท้าย
Food Truck ที่ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมในขณะนี้ จนธุรกิจแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่มหลากหลายค่ายให้ความสนใจ ปรับเปลี่ยนให้มาอยู่ในรูปแบบร้านมากขึ้น แต่เชื่อว่าหลายคนยังไม่เข้าใจรูปแบบของธุรกิจมากเท่าที่ควรวันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาบอก 6 เรื่องสำคัญต้อ
ใครที่กำลังคิดจะเปิดร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าราคาเดียว ห้ามพลาดสิ่งนี้ วันนี้ ชี้ช่องรวย มีเทคนิคดีๆ มานำเสนอกันอีกแล้ว กับ 3 รูปแบบ 9 วิธี สำหรับขายสินค้าเบ็ดเตล็ด สินค้าราคาเดียว ที่จะทำให้ร้านของคุณนั้นประสบความสำเร็จ มียอดขายทะลุเป้าได้ไม่ยากหากทำ
การทำธุรกิจอะไรก็ตามแต่ การมีทำเลที่ดี ก็จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ดั่งคำที่ว่า “ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” แต่รู้หรือไม่ว่าต่อให้ทำเลดีแค่ไหน หากไม่เหมาะกับธุรกิจนั้นๆ มันก็ไม่มีประโยชน์ วันนี้ ชี้ช่องรวยจึงอยากจะมาแนะนำ 6 ประเภทภาพรวมว่าควรจะเลือกทำเลแบบไหนถึงจะดีที่สุด 1.โฮมออฟฟิศ ปัจจุบันโฮมออฟฟิศเป็นที่นิยมมากของผู้ประกอบการรายใหม่ โดยการดัดแปลงห้องภายในบ้านให้กลายเป็นที่ทำงาน แน่นอนว่าการใช้ที่พักอาศัยเป็นที่ทำงานจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ แต่ข้อเสียที่ต้องทำใจคือ อาจพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เพราะหันไปทางไหนก็มีแต่กองงาน และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน เพราะทำให้ขาดแรงกระตุ้น แรงบันดาลใจต่างๆ ดังนั้นคุณควรช่างน้ำหนักให้ดีว่าจะเลือกความเป็นส่วนตัวหรือเลือกงาน หากเลือกความเป็นส่วนตัวก็ควรเลือกทำที่สงบ ถ้าต้องการมีแรงกระตุ้นในการทำงาน ควรเลือกทำเลที่มีคนพลุกพล่าน นอกจากนี้คุณควรคำนึงถึงหลักกฎหมายด้วยว่าบ้านของคุณสามารถดัดแปลงเป็นที่ทำงานได้หรือไม่ 2. แฟรนไชส์ ร้านค้าปลีก หรือการบริการต่างๆ รูปแบบนี้เราอาจจะพบเห็นกันโดยทั่วไป ซึ่งหลักการสำหรับร้านขายปลีก และร้านบริกานั้นจะต้องเป็นจุดสังเกต ดึงดูดลูกค้า เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ตลาด ย่านชุมชน หรือเลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากเปิดร้านเครื่องเขียนก็ควรตั้งอยู่ใกล้โรงเรียน ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นควรตั้งอยู่ในศูนย์การค้า ร้านอาหารตามสั่งอยู่ในแหล่งที่มีหอพัก เป็นต้น ทั้งนี้ข้อควรระวังอีกอย่างคือ อย่าตั้งร้านใกล้ร้านดังที่ขายสินค้า และบริการแบบเดียวกับคุณเด็ดขาด เพราะมีความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่ใช้บริการร้านเปิดใหม่ของคุณ 3.ธุรกิจเคลื่อนที่ หรือ Food truck หากคุณจะทำธุรกิจเคลื่อนที่ คุณจำเป็นต้องมีพาหนะที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเสียก่อน ซึ่งพาหนะนี่แหละที่จะพาสินค้าและบริการของคุณไปสู่ทำเลที่ดี […]
