สุนันทา เล่าว่าถึงที่มาของร้านสต๊งสเต๊ก ว่า ก่อนหน้านี้เธอขายของอยู่ในตลาดโค้งสน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ แต่ด้วยความที่เป็นตลาดเปิดใหม่จึงมีลูกค้ามาจับจ่ายน้อย เธอจึงต้องเปลี่ยนไปขายอยากอื่นแทน โดยได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนอีก 2 คน เพื่อลงทุนเปิดร้านขายสเต๊กที่ด้านหน้าตลาด ซึ่งเธอและเพื่อนได้ทดลองทำสูตรสเต๊กนานกว่า 3 เดือน จึงจะได้รสชาติตามที่ต้องการ ก่อนที่จะเปิดตัวร้านในช่วงเดือน มีนาคม 2559
ด้วยความที่ตลาดตั้งอยู่ติดกับป่าชายเลน และป่าจาก ทำให้บริเวณร้านมียุงจำนวนมาก เธอจึงต้องหาทางแก้ไขเพื่อไม่ให้ลูกค้าโดนยุงกัน ตอนแรกนั้นคิดว่าจะให้ทายากันยุง แต่ก็กลัวว่าบางคนอาจจะมีอาการแพ้ได้ เลยต้องหาวิธีใหม่ โดยตั้งใจจะซื้อพัดลมเพื่อนำมาเป่าไล่ยุง แต่ด้วยความบังเอิญ เธอเหลือบไปเห็นมุ้งเต้นท์ที่กางขายอยู่ จึงปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า น่าที่จะนำไปกางกันยุงให้ลูกค้า โดยเธอได้เข้าไปลองนั่ง ก็รู้สึกว่าไม่อึดอัด อากาศถ่ายเทได้ดี เหมาะที่จะนำมาใช้ 
นับตั้งแต่วันแรกที่ร้านสต๊กสเต๊ก นำมุ้งมากางให้ลูกค้า ก็สามารถเรียกเสียงฮือฮาให้แก่คนที่ผ่านมาพบเห็นได้เป็นอย่างดี และถูกถ่ายภาพส่งต่อไปทางโลกออนไลน์ จนเกิดเป็นกระแสดังชั่วข้ามคืน มีคนหลั่งไหลมาลองทานอย่างไม่ขาดสาย 
“การกางมุ้ง กลายเป็นจุดเด่นของร้านไปแล้ว ลูกค้าที่มาทานก็จะถ่ายรูปแล้วกดแชร์ในโซเชียล บางคนเป็นเด็กรุ่นใหม่ไม่เคยนอนในมุ้งก็มี จึงเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเขา ซึ่งจุดนี้เองทำให้ร้านเป็นที่รู้จักและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ลูกค้าบางคนเดินทางมาจากต่างจังหวัดแล้วแวะมาลองทานที่ร้านก็มี” สุนันทา กล่าวเสริม
นอกจากจะเด่นในเรื่องการเป็นร้านสเต๊กกางมุ้งแล้ว ในส่วนของรสชาติอาหารก็ดีไม่แพ้กัน มีความอร่อยจัดจ้าน ส่วนเนื้อก็นุ่ม เรียกได้ว่าถูกปากคนไทย แม้จะเป็นอาหารต่างชาติก็ตาม แถมยังขายในราคาไม่แพง อย่างสเต๊กไก่ 49 บาท สเต๊กหมู 50 บาท และสเต๊กเนื้อสัน 129 บาท โดยหลังจากที่เปิดร้านมาได้ปีกว่า ก็มีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างยอดขายได้สูงสุด ถึงวันละ 15,000 บาท
“การทำธุรกิจนั้น เราต้องหาว่าตัวเองเหมาะกับอะไร แล้วให้แทรกไอเดียสร้างสรรค์ลงไปด้วย และถ้ามันไปโดนใจคนในโลกออนไลน์มันก็จะยิ่งง่ายที่จะประสบความสำเร็จ” สุนันทา กล่าวทิ้งท้าย 
สำหรับใครที่สนใจอยากจะไปลองกินสเต๊กกางมุ้ง สามารถไปได้ที่ตลาดโค้งสน ซอยวัดใหญ่ ถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.facebook.com/steakkangmung ภาพจาก www.facebook.com/steakkangmung
