สำหรับใครที่สนใจธุรกิจความงาม แต่ยังไม่มีไอเดีย ไม่รู้จะลงทุนทำอะไรดี ลองมาจุดไฟความคิด กับกลยุทธ์เด็ด 5 SMEs ด้านธุรกิจความงามเหล่านี้
การพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ เกิดจากปัญหาสภาพผิวของ
คุณนัทภัษกร ชูศรีทอง ผู้บริหารบริษัท มีดี ประเทศไทย ที่มีปัญหาผิวหน้าติดสารสเตียรอยด์มาอย่างยาวนาน จึงทำให้เกิดสิวอักเสบขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก และกลายเป็นรอยแผลเป็น
จนไปเจอสารสกัดสตรอว์เบอร์รีสีขาวจากประเทศญี่ปุ่นที่มีคุณสมบัติลดการเกิดสีผิว กระและจุดด่างดำในผิวคนสูงวัย พร้อมคุณสมบัติต่างๆที่ช่วยให้ผิวหน้าดีขึ้น นอกจากนั้นเธอยังนำสารสกัดธรรมชาติที่หาได้ทั่วไปในประเทศมาผสาน ช่วยให้เมคอัพติดทนนานตลอดทั้งวัน (คลิกอ่าน)
ถ้าพูดถึงน้ำหอมที่ใช้กับร่างกาย ส่วนใหญ่เรามักจะนึกถึงแบบน้ำ หรือแบบสเปรย์ที่ใช้กันอยู่ทั่วๆไป
แต่ คุณณัฐกฤตา บุญเพ็ชร กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ริชเชส บิ้วตี้ คอสเมติก ได้นำนำหอมแบบน้ำมาผ่านกรรมวิธีให้กลายเป็นเนื้อบาล์ม เพื่อเปลี่ยนจากการฉีดเป็นการทา
มีสรรพคุณที่ดีเยี่ยม กลิ่นติดทนนานถึง 7 ชั่วโมง ทาตรงไหนติดตรงนั้น ไม่มีแอลกอฮอล์ และสารเคมีในส่วนผสม มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก อยากทาเมื่อไหร่ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องอาย หรือกลัวว่าจะไปรบกวนใคร เพราะไม่มีความฟุ้งของละอองสเปรย์ ทำให้ไม่มีใครรู้เลยว่าหยิบน้ำหอมมาใช้ และรับผลิตในราคาเริ่มต้นเพียง 1,900 บาท (คลิกอ่าน)
จากแนวความคิดที่ว่า ทำไมเกษตรกรประเทศอื่นถึงรวย แต่เกษตรกรไทยส่วนใหญ่กลับยังจนอยู่ จน
คุณศุภณัฐฐ์ ศักยาวงศ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซุปเปอร์เซโย จำกัด ไปเจอว่าความขยัน การรักในอาชีพ และการรักษาพื้นที่ทำกิน คือสิ่งที่ทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตต่างกัน จากความเชื่อนั้น เธอได้มุ่งมั่น พร้อมต่อยอดพืชท้องถิ่นอย่างถั่วมะแฮะ ที่สามารถช่วยพลิกฟื้นพื้นที่ทำกินให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ได้ พร้อมนำมาพัฒนา เพื่อใช้เป็นอีกแรงผลักดันหนุนนำให้เกษตรกรไทย
จาก Storytelling ของถั่วมะแฮะธรรมดา เธอได้ใส่ทุกอณูความพิเศษ และถูกพัฒนาโดยวว. จนกลายเป็นเฮริออส เฟรส เซรั่ม หรือเซรั่มเพปไทด์ถั่วมะแฮะที่อุดมด้วยสารให้ประโยชน์ต่อผิวมากมาย ที่สำคัญยังได้การยอมรับจากต่างชาติบนเวทีสากลหลายประเทศ (คลิกอ่าน)
ถ้าพูดถึงผู้บุกเบิกตลาดธุรกิจแว๊กขนเจ้าแรกๆในประเทศไทย คงเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจาก
คุณกรรณิการ์ ตามประทีป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้แคร์ จำกัด เมื่อ 25 ปีก่อน เธอได้ริเริ่มนำสูตรแว็กซ์ที่ได้ Licenes จากออสเตรเลียมาพัฒนาต่อเพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวคนไทยยิ่งขึ้น และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้บริการกำจัดขนแบบครบวงจร
การอยู่ยาวยืนยงถึงปัจจุบัน เป็นผลมาจากความใส่ใจในบริการ การสร้างฐานลูกค้า Royalty เช่นการรูปแบบการให้บริการที่เมื่อลูกค้ามากำจัดขนจะกำหนดให้ซื้อแว็กซ์ 1 กระปุก ราคา 350 บาท โดยครั้งแรกจะให้บริการฟรี หากใช้ไม่หมดก็สามารถฝากไว้ที่ร้านได้ และเมื่อกลับมาใช้บริการครั้งต่อไปได้ในราคา 80 บาท เพื่อเกิดการใช้บริการซ้ำ และคุ้มค่าเป็นธรรมกับผู้บริโภค ปัจจุบันเธอมีแฟรนไชส์สาขากว่า 100 สาขา และมุ่งมั่นสร้างอาชีพให้คนทุนน้อย โดยเริ่มต้นเพียง 3,900 บาท (คลิกอ่าน)
ยุคนี้ใครต่อใครก็ต่างพูดถึงอาหารคลีน และออร์แกนิค ธุรกิจอาหารเสริมประเภทนี้จึงเป็นอีกรูปแบบที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจ และด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี จนถึงรุ่นลูก
ภญ.สุร์ศิริ ปรีดาสุทธิจิตต์ ผู้บริหารบริษัท หอมจันทร์โอสถ จำกัด ได้สานต่อธุรกิจนี้ให้แข็มแข็งภายใต้รูปแบบ OEM พร้อมชูความโปร่งใสในการผลิต และเรื่องสุขภาพที่แท้จริงมามัดใจผู้ประกอบการ
พร้อมผสานโรงงาน-เครื่องจักรมาตรฐานสากล เทคโนโลยีชั้นสูง และส่วนประกอบให้เลือกกว่า 3,000 ชนิด เข้าไว้กับพนักงานกว่า 100 ชีวิต และทีมวิจัยและพัฒนากว่า 10 คน ในแบบที่ว่า ถ้าพัฒนาสูตรมาแล้ว แต่ผู้ประกอบการยังไม่พอใจ ก็ไม่ต้องจ่ายเงินเด็ดขาด (คลิกอ่าน)