การ “ตั้งราคาสินค้า” ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับภาพรวมหลายประการ ซึ่งผู้ประกอบการบางรายอาจจะใช้หลักการที่ไม่ถูกต้อง วันนี้ ชี้ช่องรวย จึงอยากจะมาแนะนำ 5 เหตุผลที่ควรนำมาพิจารณาในการตั้งราคาสินค้าเพื่อนำไปปรับใช้ มาดูกันดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง
1.คำนวณจากต้นทุนจริง
นี่เป็นวิธีพื้นฐาน และค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยพิจารณาจากต้นทุนรวมต่อหน่วยที่ใช้เพื่อก่อให้เกิดสินค้าและบริการ ไม่ว่าจะเป็นค่าวัสดุ ค่าแรง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าที่ ค่าโฆษณา ค่าขนส่ง ต้นทุนการเงิน แล้วบวกเพิ่มด้วยกำไรที่ต้องการ เพื่อคิดออกมาเป็นราคาขาย สิ่งสำคัญผู้ประกอบการต้องนำต้นทุนทั้งหมดมารวมไว้อย่างครบถ้วน
2.ตั้งตามมูลค่าที่สินค้า / บริการนำเสนอ
ลองคิดกลับให้ตัวเองเป็นลูกค้า ผู้ซื้อ ผู้ใช้บริการ เรายินดีจะจ่ายเงินให้กับ สินค้า / บริการ ชิ้นนี้เป็นเงินเท่าไหร่เพื่อแลกกับประโยชน์ที่จะได้รับ หรือการซื้อสินค้า/บริการตัวนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายเราไปได้กี่บาท หากราคาที่เราตั้งไว้มีมูลค่าน้อยกว่าประโยชน์ที่ สินค้า / บริการ ของเรานำเสนอ นั่นหมายความว่า สินค้า / บริการของเรานั้นสร้างความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค พยายามมองภาพรวมให้ออกว่ามีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน
3.ตั้งราคาสินค้าจากการเปรียบเทียบราคาสินค้าของคู่แข่ง
หากสินค้าของเราไม่ได้โดดเด่น ก็ไม่ควรเสี่ยงที่จะตั้งราคาสูงกว่าคู่แข่ง และในขณะเดียวกัน หากเราไม่ได้คิดจะจับตลาดสินค้าราคาถูก ก็ไม่ควรตั้งราคาให้ต่ำมาก เพราะนอกจากจะมีผลเสียต่อภาพพจน์ของแบรนด์แล้ว ยังเป็นการเพิ่มระยะเวลาในการไปถึงจุดคุ้มทุนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม อย่าพยายามย้อมแมวโดยเอาของราคาถูกไปตั้งราคาสูง เพราะเสี่ยงอย่างมากนอกจากสินค้าของคุณจะถูกลูกค้าจับได้ว่าหลอกลวงแล้ว ด้วยการสื่อสารผ่าน social ในปัจจุบันนี้ รับรองว่าแบรนด์ที่ไม่ซื่อสัตย์จะไม่มีที่ให้ยืนเลยก็ว่าได้
4.ตั้งราคาสินค้าดูกลุ่มเป้าหมายเป็นหลัก
โดยอาจทำแบบสอบถาม หรือทดลองตลาดเพื่อค้นหาว่า ราคาที่ลูกค้าเต็มใจจะจ่ายให้กับสินค้าและบริการของเราเป็นเท่าไหร่ ซึ่งเทคนิคนี้เป็นการใช้ราคาเพื่อจะวาง position ให้กับสินค้า เช่น สินค้าระดับ premium ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังจ่ายสูง และยินดีจ่ายเงินเพื่อให้ได้รับสินค้า/บริการที่ดีที่สุด
5.ตั้งราคาให้สอดคล้องกับการวาง position ของแบรนด์
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคาตลาด แล้วเสนอบริการที่แตกต่าง เพื่อนำเสนอทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค, การตั้งราคาถูก เพื่อหวังส่วนแบ่งตลาดอย่างรวดเร็ว หรือการตั้งราคาให้แพงกว่าราคาตลาด เพื่อที่จะบอกว่าเป็นสินค้า premium สำหรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
ทั้ง 5 เหตุผลข้างต้นเป็นแนวทางการพิจารณาเพื่อตั้งราคาสินค้า อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายวิธีในการจูงใจลูกค้าด้วยราคาสินค้าอยู่มากมาย เช่น การจัดโปรโมชั่น ผู้ประกอบการสามารถเลือกทำโปรโมชั่นได้ตามความเหมาะสมแต่ต้องไม่ลดแลกแจกแถมจนมากเกินไป ควรยังคงคุณค่าของสินค้าและแบรนด์เอาไว้ หากเมื่อใดกลับมาขายราคาเดิมแล้วลูกค้ายังกลับมาซื้ออยู่
