ศูนย์รวมแฟรนไชส์น่าลงทุน

เมื่อ Facebook ไม่ตอบโจทย์ “ตลาดออนไลน์”


เซียนตลาดออนไลน์ กล่าวกันว่า เมืองไทย คือ เมืองหลวงของ Facebook ในเอเซีย เฉพาะประเทศไทยมีผู้คนเปิดบัญชีใช้ Facebook มากถึงกว่า 25 ล้านบัญชี (ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 27 ล้านบัญชี) คิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมดของประเทศไทย

 

ไม่แปลกใจที่ “ตลาดออนไลน์” จะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงขั้นส่งผลกระทบต่อ SMEsรายย่อยบางรายที่คุ้นชินกับการค้าแบบเก่า หรือการเปิดหน้าร้านตามห้างสรรพสินค้า ขณะที่บางรายไม่ต้องมีต้นทุนหน้าร้านกลับขายสินค้าได้อย่างมากมาย โดยทั้งหมดของแม่ค้าออนไลน์ไทยใช้ Facebook เป็นหน้าร้านสูงที่สุด รองลงมาได้แก่ Instagram ซึ่งเป็นเสมือนหนึ่งบริษัทลูกของ Facebook

 

ความเติบโตของธุรกิจ Facebook นี้เอง ทำให้เราทุกคนเริ่มหันมาสนใจใช้ Facebook เป็นช่องทางการตลาดมากขึ้น จนแม้แต่ Facebook เองก็เริ่มมองเห็นการทำรายได้จากการโฆษณาด้วยเช่นกัน โดย Facebook ทำการลดอัตราการแชร์ข้อมูลหน้าฟีดข่าวจากเคย 10% ของจำนวนเพื่อน ลดลง 8 6 2 และปัจจุบันเหลือเพียง 1% เท่านั้น

 

นี่คือ สาเหตุที่ “ทำให้ลูกค้าเห็นหน้าฟีดข้อความน้อยลง” บรรดาแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายเริ่มสงสัยว่าทำไม “ยอดขายลดลง” อย่างต่อเนื่องนับจากปี 2012 เป็นต้นมา ทำให้แม่ค้าออนไลน์มีต้นทุนค่าโฆษณากับ Facebook เพิ่มขึ้น เพื่อแลกกับการที่ Facebook นำเอาหน้าฟีดของเราไปกระจายให้เพื่อนเราเห็นเพิ่มขึ้น

 

ทำอย่างไรในการกระจายหน้าฟีดข่าวของเราให้เพื่อนเห็นมากขึ้น อย่างแรก “กดไลค์ให้กระฉูด” เราคงต้องเริ่มอ่านฟีดของเพื่อนมากขึ้น “กดไลค์” ให้เพื่อนเพิ่มขึ้น “เจ๊าะแจ๊ะ” คอมเมนต์ให้เพื่อนบ้าง โดยหวังว่าเพื่อนจะกลับมากดไลค์ให้โพสต์ของเราบ้าง ซึ่งจะทำให้หน้าฟีดยังเชื่อมโยงกันอยู่

 

อย่างที่สอง “ต้องเนียนมากขึ้น” เน้นการโพสต์เรื่องราวที่มีประโยชน์ เรื่องราวที่เป็นรสนิยม เรื่องราวที่เป็นความสนใจ ทั้งหมดนั้นต้องหลีกเลี่ยง “โพสต์โฆษณาตรง” โพสต์โฆษณาสินค้าตรงๆ Facebook รู้และเข้าใจว่าโพสต์นี้หาสตางค์ได้ จึงไม่กระจายโพสต์ในอัตราที่สูงเพื่อให้แม่ค้าต้องซื้อโฆษณาโพสต์ (Boost Post) ดังนั้นต้องเนียน “สอดแทรกโฆษณา” ในภาพ ในข้อความ ยิ่งขึ้น

 

อย่างที่สาม คือ “รู้จัก Application ให้มาก” Application ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน แม่ค้าออนไลน์ จำเป็นต้องเรียนรู้ รู้จัก และสร้างกลุ่มลูกค้าในทุกแอปพลิเคชั่น เพราะลูกค้ามีรสนิยมแตกต่างกัน เช่น กลุ่มแฟนคลับดารา มักใช้ Instagram กลุ่มนักข่าว นักการเมือง มักใช้ Twitter คนวัยทำงาน มนุษย์เงินเดือน มักใช้ Line ซึ่งทั้งหมดคือ ลูกค้า แม่ค้าควรจำไว้ว่า “ลูกค้ามีอยู่ในทุกแอปพลิเคชั่น” และทุกแอปพลิเคชั่นล้วนไม่ต้องเสียเงินในการใช้

 

สุดท้ายคือ “เพื่อนมาก Connections เยอะ” คือความสำเร็จในตลาดออนไลน์ บรรดาแม่ค้าที่เคยค้าขายด้วยระบบหน้าร้านหรือมี Shop ให้ลูกค้าเดินเข้าหาขอบอกว่า “บนโลกออนไลน์วันนี้ แม่ค้าต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าหาลูกค้าด้วยวิธีต่างๆ” ถึงจะบรรลุเป้าหมายของการขายสินค้าบนโลกออนไลน์

 

เมื่อ “Facebook ไม่ตอบโจทย์” การตลาด เพราะเงื่อนไขทางธุรกิจของ Facebook เอง แม่ค้าออนไลน์ต้องรู้จักปรับตัว ต้องก้าวให้ทันเทคโนโลยี แล้วใช้เทคโนโลยีด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าเสมอ เพื่อให้ธุรกิจสร้างรายได้ให้อย่างต่อเนื่อง สำคัญอยู่ที่ “ปรับตัวให้ทันสถานการณ์ อย่าหยุดหาความรู้”

 

เรียนรู้การตลาดกับผมได้ทุกวันที่ www.Facebook.com/SmeMeFan