คุณแม่สาย เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรี ก็มีความคิดอยากจะทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งในตอนนั้นได้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า การทำธุรกิจต้องเริ่มอย่างไร และอะไรคือความแตกต่างระหว่างคนรวยและคนจน เขาได้ข้อสรุปว่า ข้อแตกต่างนั้นอยู่ที่วิธีคิด และเมื่อคิดจนตกผลึกแล้ว เขาก็เริ่มหาอาหารสมองด้วยการอ่านหนังสือธุรกิจมากมาย ซึ่งประจวบเหมาะกับการได้มาเจอคุณลุงที่รู้จักกัน ทำธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ ซึ่งในช่วงระยะเวลานั้น นับเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยความที่เขาสนใจเรื่องเครื่องยนต์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การได้เข้ามาช่วยงานคุณลุง จึงเสมือนเป็นการเรียนรู้งานและได้อยู่กับสิ่งที่ตัวเองรัก หลังจากนั้นจึงเริ่มมองหาลู่ทางเปิดอู่เป็นของตนเอง โดยเข้าไปสอบถามข้อมูลต่างๆ จากอู่ติดตั้งแก๊สรถยนต์ จนมีความรู้มากพอจึงทุบกระปุกเอาเงินเก็บก้อนเดียวในชีวิต 70,000 บาทเปิดอู่ติดแก๊สที่จังหวัดอยุธยา ผลปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก เดือนแรกมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการถึง 17 คัน สร้างกำไรให้ถึง 40,000 บาท
เมื่อภาพรวมของตลาดกำลังดำเนินไปได้ด้วยดี ก็ย่อมต้องมีผู้มาเปิดธุรกิจเดียวกันมากขึ้น ทำให้เขาต้องพัฒนาตนเองเพื่อหนีคู่แข่ง จึงตัดสินใจนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์จากต่างประเทศมาจำหน่ายให้กับร้านรับติดแก๊สรถยนต์ทั่วประเทศ เพราะเห็นว่าตลาดมีแนวโน้มเติบโต แต่ด้วยสินค้าที่นำเข้ามาเป็นรุ่นใหม่จึงต้องเพิ่มกลยุทธ์การตลาด ด้วยการจัดสัมมนาเป็นประจำ เพื่อให้ช่างทั่วประเทศที่จะมาซื้อสินค้าของVersustใช้งานเครื่องรุ่นใหม่เป็น
แม้ว่าธุรกิจนำเข้าอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์จะกำลังไปได้ดี แต่สำหรับนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเขากลับไม่เคยคิดที่จะหยุดค้นหาความท้าทายใหม่ จึงเดินทางไปสำรวจตลาดในต่างประเทศ เพื่อแสวงหาสินค้าตัวใหม่ๆ ล่าสุดได้ขยายไลน์ธุรกิจ เป็นผู้นำเข้า จอ LED จากประเทศจีน และใช้กลยุทธ์ด้านราคาตีคู่แข่งกระเจิง สามารถสร้างรายได้ให้กับเขาอีกเช่นเคย
“ตอนนั้นในประเทศไทยมีผู้จำหน่ายสินค้าจอ LED อยู่เพียง 5 ราย และผมก็พบว่า ราคาสินค้าที่บริษัทต่างๆ ตั้งไว้นั้นสูงมาก เพราะเปิดสินค้าใหม่ในตลาด สำหรับผมมองว่า เอากำไรแค่พออยู่ได้ และมีเงินเดือนจ่ายพนักงานทุกคนก็พอ จึงตัดสินใจนำเอา จอ LED มาขายในประเทศไทย และกำหนดราคาขายที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งธุรกิจนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี” เจ้าของธุรกิจ Versustย้อนอดีตให้ฟัง และเล่าเคล็ดลับในการสร้างรายได้ ตามสไตล์ของตนเองให้ฟังว่า
“สำหรับผมแล้ว การจะทำให้ธุรกิจเติบโตเร็วนั้น สิ่งสำคัญ คือ ต้องทำเงินให้มาถึงมือเราเร็วที่สุด กล่าวคือ ไม่จำเป็นต้องตั้งราคาสินค้าต่อชิ้นให้แพง แต่ต้องมองว่าเงินที่ได้กลับมาหาเรานั้นเร็วแค่ไหน ซึ่งถ้าหากขายได้หลายชิ้น กำไรก็จะเยอะขึ้นตามไปเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใด สินค้าก็จะต้องดี พร้อมกับการพัฒนางานบริการ ให้ความสำคัญกับลูกค้าเก่าให้มากที่สุด อย่าปล่อยให้จำนวนของลูกค้าใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น มาทำลายระบบการดูแลลูกค้าของเรา
การจะประสบความสำเร็จในธุรกิจของตัวเองนั้น ไม่ว่าจะธุรกิจอะไร หากคุณเป็นเจ้าของก็ต้องรู้จักสินค้าของเราเองให้ดีเสียก่อน สามารถตอบข้อสงสัยทุกอย่างของลูกค้าได้ ซึ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องกลยุทธ์หรือเทคนิคการขายเลย เพราะเพียงเท่านี้ ก็เป็นหลักเหตุผลที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ที่ทำให้ลูกค้าเชื่อใจเรา” นักธุรกิจหนุ่มพันล้านทิ้งท้าย
