ที่มาของ Too Fast to Sleep เกิดจากไอเดียของคุณเอนก จงเสถียร นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ และอยากจะคืนกำไรสู่สังคม โดยนำประสบการณ์ส่วนตัวสมัยเรียนปริญญาโท MBA ที่หาสถานที่อ่านหนังสือตอนดึกๆ ไม่ได้ เพราะร้านรวงปิดหมด ถึงแม้จะมีบางร้านที่เปิด 24 ชั่วโมง แต่ก็ไม่ได้ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับคนที่ต้องการนั่งนานๆ เมื่อพบทำเลใกล้วัดหัวลำโพง ซึ่งเป็นที่ตาบอด ในอดีตใช้เป็นที่จอดรถเข็นขายของ ของพ่อค้าแม่ค้าย่านสีลม หรือตลาดสามย่านเก่าเขาจึงติดต่อขอเช่าที่และสร้างสรรค์เป็นคาเฟ่ที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง
พื้นที่ 1 ไร่ของ Too Fast to Sleep ถูกจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ในคอนเซ็ปต์ของร้านคือ Dessert Library เป็นร้านกาแฟบรรยากาศห้องสมุด แต่แตกต่างจากห้องสมุดทั่วไป ตรงที่ลูกค้าสามารถอ่านหนังสือ สั่งเครื่องดื่ม สั่งขนมมากินได้ พูดคุยส่งเสียงได้ตามปกติ มีไว-ไฟให้ใช้ฟรี มีปลั๊กไฟให้เสียบชาร์จโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์สำหรับทำงาน มีหนังสือดีๆ หลายหมวดหมู่ให้แบ่งปันกันอ่านภายในร้าน
“ร้านเราลูกค้าเข้ามานั่งอ่านหนังสือโดยไม่สั่งอะไรก็ได้ ไม่มีพนักงานออกไปจู้จี้กวนใจ กดดันให้สั่งเครื่องดื่มอะไร หิวเมื่อไหร่ก็เดินมาสั่งที่เคาน์เตอร์ แล้วนั่งได้นานตามต้องการ ปัญหาตอนนี้จะมีก็แต่ที่นั่งไม่พอ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับลูกค้า บางคนหามุมสบายได้แล้วก็เอาเบาะมารองนั่งกับพื้น เราก็ให้อิสระเต็มที่ โดยลูกค้าที่มาใช้บริการกับเรานานที่สุดเท่าที่เคยเก็บสถิติไว้คือ 18 ชั่วโมง” ผู้จัดการร้าน เล่าให้ฟัง
ปัจจุบันได้เปิดโซน Gen II ขึ้นมาใหม่บริเวณชั้นล่าง ให้บริการด้วยห้องที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะกับคนที่มาเป็นหมู่คณะ หรือต้องการสถานที่ประชุมสัมมนา รวมทั้งมีโซนที่ผลิตและจำหน่ายเบเกอรี่โฮมเมดแบบสดใหม่ที่นี่ด้วย
สำหรับโซนอื่นๆ จะเปิดบริการตั้งแต่เที่ยง ปิดเที่ยงคืน ยกเว้นโซน Library ที่เปิด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขายเครื่องดื่มและของว่างทานเล่นที่จัดการได้ง่ายๆ
ผู้จัดการร้าน ยอมรับว่ารายได้หลักของร้านมาจากเครื่องดื่ม ชา กาแฟ น้ำปั่น ที่ขายดีตลอดวันตลอดคืนโดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 200 บาทต่อครั้ง อย่างชาวต่างชาติที่ทำงานในเมืองไทยจะมาสั่งเอสเพรสโซ่ชอต ดื่มแต่เช้ามืด ระหว่างวันจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนมาทำบุญที่วัดหัวลำโพง แวะมาซื้อเครื่องดื่มกินดับร้อน ดึกๆ จะเป็นพนักงานออฟฟิศมากินกาแฟแล้วนั่งทำงาน ซึ่งช่วง 3-4 ทุ่มนี้ จะมีลูกค้าเยอะสุด 150-200 คน
“หลังเที่ยงคืนจะเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตและทำงานกลางคืน ซึ่งมีอยู่เยอะมาก บางคนไปดื่มมา ก็แวะมาดื่มชาร้อนกับเราให้ตื่นตัว แล้วถึงขับรถกลับบ้าน นักศึกษาบางคนปักหลักอยู่อ่านหนังสือกับเราจนถึงเช้า เอาผ้าห่มเอาหมอนมานอนด้วย หิวก็มีน้ำ มีขนมกิน มีห้องน้ำให้ใช้ เช้ามาก็แต่งตัวไปสอบ” เขาเล่าถึงพฤติกรรมลูกค้าอย่างมีความสุข
เม็ดเงินที่ลงทุนไปประมาณ 10 ล้านบาทในเบื้องต้นอีกทั้งต้นทุนที่เกิดขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งค่าพนักงาน 2 กะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายจิปาถะ จะคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่ คุณเอกชัย ตอบแทนเจ้าของตัวจริงว่า คุ้มค่าทางใจมากกว่า กำไรไม่ใช่ตัวเงิน แต่เป็นการที่ได้เห็นเด็กวัยเรียนมีสถานที่ที่ดีและปลอดภัยสำหรับอ่านหนังสือ และมานั่งอ่านกันจนแน่นร้าน
ร้านให้บริการแบบไม่มีวันหยุด มากกว่าร้านกาแฟทั่วไปที่เปิด 8 ชั่วโมงถึง 3 เท่า สิ่งที่ต้องใส่ใจคือ เรื่องความสะอาด ความปลอดภัย อย่างเวลาที่ทางร้านหยุดทำความสะอาดชั้นบน ก็จะปรับโซนด้านล่างให้เปิดบริการ 24 ชั่วโมงแทน เพื่อให้ยังคงคอนเซ็ปต์ 24/7 ส่วนภายในร้านยังติดกล้องวงจรปิด 50-60 ตัว
ส่วนด้านนอกมีตำรวจนอกเวลาคอยช่วยดูแลความเรียบร้อย เพื่อต้องการให้พื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งมั่วสุมทางปัญญาอย่างแท้จริง ซึ่งคุณเอนก ผู้เป็นเจ้าของธุรกิจก็ตั้งใจที่จะกระจายคาเฟ่สไตล์ห้องสมุดไปยังทุกจังหวัด แต่ต้องดูเรื่องทำเลและสวัสดิภาพของลูกค้าว่าต้องปลอดภัย ไม่เปลี่ยว และเดินทางสะดวกสบาย
