2. Main hub Bang Sue
ในอนาคตบางซื่อจะกลายเป็น Main hub ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยโครงการสถานีกลางบางซื่อ รฟท. ร่วมกับ สนข. จะทำการย้ายสถานีต้นทางหลักของกรุงเทพฯ จากหัวลำโพงมาชุมทางบางซื่อ เป็นสถานีแห่งเดียวของกรุงเทพฯ และจัดเส้นทางใหม่จากบางซื่อไปนครปฐม เป็นสายตะวันตก บางซื่อไปหัวลำโพง วงเวียนใหญ่ มหาชัย จนถึงปากท่อ ตลอดจนทุกสถานีหลังจากนี้นับเป็นสายใต้ (เส้นทางใหม่) จากบางซื่อไปชุมทางบ้านภาษี ยังเป็นสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือเช่นเดิม จากบางซื่อไปสุวรรณภูมิ ฉะเชิงเทรา เป็นสายตะวันออกตามเดิม และแยกเพิ่มอีก 2 เส้นทางคือ รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เส้นทางกรุงเทพ-ระยอง และรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นอกจากนี้ยังมีโครงการศูนย์คมนาคมพหลโยธิน ตั้งอยู่ในพื้นที่สถานีรถไฟบางซื่อและสวนจตุจักร เป็นโครงการก่อสร้างที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ในกรุงเทพ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง เนื้อที่รวมประมาณ 2000 ไร่ ประกวดราคาในปี 2559 โดยพัฒนาเป็นพื้นที่ 3 ชั้น มีทางเชื่อมกับสถานีกลางบางซื่อ เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีหมอชิต และเส้นทางรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินที่สถานีกำแพงเพชรและสถานีจตุจักร
ในระดับพื้นดินจะเป็นพื้นที่สีเขียวให้เข้ากับสวนจตุจักร เฟสแรกงบ 65,000 ล้าน เฟส 2 มีการเดินรถ BRT ช่วง ENCO-จตุจักร-บางซื่อ และเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน (โดยรัฐไม่ต้องลงเงินทุน) คาดว่าใช้เวลา 3 ปี แล้วเสร็จปี 62
3. Building Landmark, Mixed use project
หลังจากที่มีแนวคิดมายาวนานกับการแปรสภาพที่ดินรอบทางรถไฟ ของร.ฟ.ท.ให้มีมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจมากขึ้น ล่าสุดรัฐบาลผลักดันให้โปรเจคนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดย ร.ฟ.ท.ต้องการนำที่ดินให้เอกชนลงทุนในระยะยาว 30-50ปี เพื่อพัฒนาให้เป็นย่านเศรษฐกิจศูนย์การค้าจนกลายเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ โดยเริ่มจากพื้นที่ 218 ไร่ รอบสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเชื่อว่าทำได้เร็วกว่าย่านมักกะสันที่ติดปัญหาหลายอย่าง โดยที่ดินรอบบางซื่อ จะแยกพัฒนาออกเป็น 3 โซน
โซนA พื้นที่ 35 ไร่ ตั้งอยู่ด้านหลังศาล เยาวชนและครอบครัวกลาง
โซน B พื้นที่ 78 ไร่ ตั้งอยู่ใกล้ตลาดนัดจตุจักร
โซน C พื้นที่ 105 ไร่ เป็นที่ตั้งสถานีขนส่งหมอชิต
โดยคอนเซ็ปต์การพัฒนาจะเป็นศูนย์กลางพาณิชยกรรมครบวงจร มีศูนย์การค้า ร้านค้า สำนักงาน และโรงแรม
4. Building highway extension to Bang-Sue station
ในส่วนของพิจารณาก่อสร้างทางยกระดับจากอาคารศูนย์คมนาคมพหลโยธิน(สถานีกลางบางซื่อ) เข้าสู่ทางพิเศษศรีรัช เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่เสริมศักยภาพในทำเลย่านนี้มากยิ่งขึ้น แม้ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอนสำหรับโครงการ แต่มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมาก ทั้งนี้การก่อสร้างทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอก คืบหน้าไปแล้ว 33% พร้อมเปิดให้บริการประมาณปลายปี 59 เป็นทางยกระดับ 6 ช่องจราจร เริ่มจากถนนกาญจนาภิเษก วางเส้นทางขนานกับทางรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ-ตลิ่งชัน ปลายทางที่ทางรถไฟบางซื่อใกล้หมอชิต2 ยาวรวม 16.7 กม
ทั้งหมดจึงเป็นปัจจัยสำคัญส่งผลให้ผืนดินย่านบางซื่อ-จตุจักร-หมอชิต เพิ่มมูลค่าสูงขึ้นในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์ที่คอนเฟิร์มว่าทำเลนี้จะกลายเป็นย่านซีบีดีรอง หรือ ศูนย์กลางเศรษฐกิจประเทศรองจาก ย่านสีลม สาทร สุขุมวิทตอนต้น ในอนาคต
นอกจากภาพใหญ่ที่จะได้เห็นในอนาคตแล้ว ประเด็นที่น่าสนใจคือความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการอสังหาฯ และผลกระทบต่อคอนซูเมอร์
ขณะนี้ทำเลย่านนี้มีราคาประมาณ 5-6 แสนบาทต่อตารางวา อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่า เมื่อโปรเจคใหญ่จากรัฐบาลเป็นรูปธรรมขึ้น ที่ดินติดถนนรถไฟฟ้าอาจจะพุ่งไปแตะระดับ ตารางวาละ 1 ล้านบาทในอีก 4-5 ปีอนาคต
แน่นอนวว่าในแวดวงเอกชน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เองต่างมีการขยับจับจองในทำเลทองดีมานด์พุ่งกระฉูดในอนาคตอันใกล้ เจ้าใหญ่ๆหลายค่ายที่เข้าไป “สร้างแลนด์มาร์ค” กันบ้างแล้ว
สำหรับความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาที่สุดในปีนี้ คงต้องสปอร์ตไลท์ไปทางฝั่งของยักษ์ใหญ่อย่างแสนสิริ หลังจากปลายปีที่แล้วที่ได้ประกาศความร่วมมือ กับบีทีเอส กับโปรเจคร่วมกันพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมติดสถานีรถไฟฟ้า
ที่ฮือฮาคือโครงการแรกที่จะปักหมุดเป็นพรีเมี่ยมคอนโดมิเนียม ซึ่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่ของบีทีเอส บนที่ดิน 5 ไร่ ใกล้สถานีหมอชิตอันเป็นสุดยอดทำเลทอง มูลค่าโครงการรวมกว่า 5000 ล้านบาท!
แม้จะยังไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 แต่เป็นก้าวแรกที่สำคัญในความร่วมมือของทั้งคู่ที่น่าจะสั่นสะเทือนตลาดคอนโดมิเนียมหรู
น่าสนใจมากๆ สำหรับการจับมือของยักษ์ใหญ่ระหว่างผู้นำอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กับผู้เชี่ยวชาญด้านขนส่งมวลชน ซึ่งผู้บริหารทั้งสองย้ำชัดว่าในปีนี้จะได้เห็น2-3 โครงการใหญ่ ในทำเลทองเกิดขึ้นเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์พรีเมี่ยมมากที่สุด
Cr : http://marketeer.co.th/