คุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) คุณวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ร่วมประชุมมอบนโยบายและติดตามการดำเนินงาน “โครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสำหรับผู้มีรายได้น้อยในจังหวัดจันทบุรี” ที่ห้องประชุมโรงแรม เคพีแกรนด์ จันทบุรี
และเดินทางไปตรวจเยี่ยมการเปิดตัวโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และพบปะกับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่แจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการเพื่อพัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต ณ ศาลาอเนกประสงค์ เทศบาลตำบลพลับพลานารายณ์ จังหวัดจันทบุรี หลังการมอบใบอนุญาตประกอบกิจการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แก่ผู้ประกอบการในจังหวัดจันทบุรีและใกล้เคียง และมอบสินเชื่อรายย่อยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินให้แก่ตัวแทนเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. และลูกค้าธนาคารออมสิน
รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ต้องการให้ประชาชนทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลุดพ้นจากความยากจน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สามารถรวบรวมข้อมูล ทำให้เป็นรูปธรรม การดำเนินงานตรงนี้จะทำให้ประเทศชาติเจริญเติบโต มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ต้องแก้ที่ให้ความรู้ทางการเงิน การทำบัญชีครัวเรือน ทำให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายไหนที่จำเป็น ขอให้ประชาชนอย่ากลับไปเป็นหนี้นอกระบบอีก ขอขอบคุณทุกส่วนงาน ทั้งปลัดกระทรวงการคลังที่ออกนโยบายขับเคลื่อน ขอบคุณธนาคารออมสิน ธ.ก.ส.เจ้าหน้าที่คลังของทุกจังหวัด ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เห็นผลที่ดี และเห็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เป็นการบูรณาการทุกส่วนงานทุกกระทรวง และประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
คุณอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้ดำเนินงานตามมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ และมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผ่านโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ตามนโยบายของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการดำเนินงานตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในครั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้มีการวางแผนตั้งแต่การประชาสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย จ้างลูกจ้างเข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ มีการแต่งตั้งผู้ดูแลผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (Account Officer: AO) คอยให้คำแนะนำช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ติดตามการพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิตเป็นรายบุคคล
พร้อมทั้งประสานความร่วมมือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น กองทุนหมู่บ้าน เพื่อเปิดจุดบริการถึงในชุมชนให้กับผู้มีรายได้น้อยได้รับความสะดวกและประหยัด ค่าใช้จ่าย จัดตั้งห้อง War Room และ Call Center เพื่อติดตามรายงานผลการดำเนินงาน โดย ธ.ก.ส.สาขาร่วมกับ ปรจ.(ทีมหมอประชารัฐสุขใจ) เข้าไปพบปะผู้มีรายได้น้อยทุกราย โดยกำหนดแผนในแต่ละพื้นที่ เริ่มช่วง
เดือนกุมภาพันธ์
จัดทีมลงพื้นที่สัมภาษณ์เป็นรายบุคคลเพื่อวิเคราะห์แนวทางการพัฒนา ประสานงานและบูรณาการกับส่วนงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการพัฒนาเป็นรายบุคคล ในช่วง เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม และติดตามประเมินผลเพื่อรายงานคณะทำงานเป็นระยะ ในช่วง เดือนสิงหาคม – กันยายน 2561 โดย ธ.ก.ส.ลงพื้นที่ดำเนินงานไม่มีวันหยุด โครงการตามมาตรการดังกล่าว ธ.ก.ส.พร้อมให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อสร้างอาชีพ
รวมถึงการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการ SME เกษตร ที่เป็นหัวขบวนในการรับซื้อผลผลิตจากผู้มีรายได้น้อย เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพในชุมชน ตัวอย่างเช่นในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตพืชสมุนไพรบ้านเกาะลอย วิสาหกิจชุมชนเพาะเห็ดและแปรรูปเห็ดบ้านไร่เก่า และ บริษัทบีฟรุ๊ต (Bee Fruits) ผู้ผลิตและแปรรูปผลไม้ ที่นำมาจัดแสดงในงานครั้งนี้ ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นเกษตรกร จำนวน 3,959,030 ราย
ลงทะเบียนสวัสดิการรัฐทั้งหมด มีหนี้นอกระบบ จำนวน 448,496 ราย มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 59,520 บาท ธ.ก.ส.ได้ให้สินเชื่อแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 977,613 ราย เป็นเงินจำนวน 193,760 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นการให้สินเชื่อเพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาหนี้นอกระบบ จำนวน 79,662 ราย เป็นเงินจำนวน 4,499.69 ล้านบาท สำหรับการแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีบัตรสวัสดิการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ
ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน คนไทยไม่ทิ้งกัน ของกระทรวงมหาดไทย นั้น เริ่มให้แสดงความประสงค์ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นมา ผลการดำเนินงานลงทะเบียนของผู้มีรายได้น้อยที่แสดงความประสงค์ต้องการพัฒนาอาชีพ ณ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 มีผู้แสดงความประสงค์แล้ว 103,436 ราย โดย ธ.ก.ส.จะดำเนินการสัมภาษณ์รายคนเพื่อหาแนวทางเพิ่มรายได้ที่เหมาะสมต่อไป สำหรับในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีเกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 10,322 ราย เป็นเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้นอกระบบ 1,061 ราย มูลหนี้ 60.26 ล้านบาท เฉลี่ยต่อราย 56,798 บาท
ซึ่ง ธ.ก.ส ได้เข้าไปช่วยเหลือลดภาระหนี้สินให้กับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีแล้ว 101 ราย เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 24.43 ล้านบาท ด้วยการให้สินเชื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน และสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้