หากกล่าวถึงงานหัตถกรรมระดับชุมชน เชื่อว่าแทบทุกพื้นที่ในประเทศไทยต่างก็มีของดีประจำท้องถิ่นของตัวเอง เห็นได้จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในประเทศไทยที่เกิดขึ้นจำนวนมาก เพื่อรวมตัวกันดึงเอาเอกลักษณ์ และจุดแข็งของชุมชน สร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานหัตถกรรมอันโดดเด่น
อย่างไรก็ตาม การที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนจะปั้นงานหัตถกรรมของตัวเองให้มีชื่อเสียงโด่งดัง จนเกิดเป็นธุรกิจทำเงินให้กับชุมชนได้ ไม่ใช่เพียงแค่การรู้จักเอกลักษณ์และจุดแข็งของตัวเอง แต่ต้องอาศัยกระบวนการคิด หยิบ จับ ผสมผสานไอเดียการออกแบบที่เข้ากับความต้องการในปัจจุบัน ไปจนถึงการวางแผนการทำตลาด และการวางแผนการขายที่มีประสิทธิภาพ หรืออาจเรียกได้ว่าการสร้างสรรค์ธุรกิจหัตถกรรมของชุมชนจำเป็นต้องมี “กระบวนการคิดทั้งวงจร” ซึ่งการมีผู้ช่วยเข้ามาแนะนำวิธีคิดเหล่านี้ จะช่วยให้การพัฒนาธุรกิจงานหัตถกรรมในระดับชุมชนเป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น
โชคดีที่ในยุคนี้ การเข้าถึงองค์ความรู้การพัฒนาธุรกิจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะล่าสุดบริติช เคานซิล ร่วมกับ Applied Arts Scotland ได้เปิดตัวคู่มือออนไลน์สำหรับการออกแบบธุรกิจหัตถกรรม “Digital Craft Toolkit” ที่จะมาช่วยเหล่าศิลปิน นักออกแบบ ตลอดจนช่างฝีมือในวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ที่มีไอเดียพัฒนางานคราฟท์สุดสร้างสรรค์ ต่อยอดออกมาเป็นธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินได้
โดยบทความนี้จะพาไปรีวิวการใช้งานคู่มือออนไลน์ Digital Craft Toolkit ที่ลองเล่นดูแล้วพบว่ามีการใช้งานที่เข้าใจง่าย หน้าตาเว็บไซต์สวยงาม เหมาะสำหรับนักออกแบบ ศิลปิน ไปจนถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ผลงานเป็นของตัวเองอยู่แล้ว รวมถึงผู้ที่กำลังค้นหาไอเดียสร้างธุรกิจจากงานหัตถกรรม โดยผู้ใช้จะสนุกไปกับแบบทดสอบสำรวจว่าความชอบของเรา ว่าเหมาะที่จะนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจรูปแบบใด ตลอดจนทดลองวางแผนธุรกิจเบื้องต้น โดยตัวเว็บไซต์ประกอบไปด้วย 4 ส่วนในหน้าบันทึกความก้าวหน้า โดยในแต่ละส่วนจะมีเนื้อหาการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบบทเรียน วีดีโอ และแบบทดสอบ ดังนี้
1.การมองภาพรวม (The Bigger Picture) – ในส่วนแรก ผู้ใช้จะได้เริ่มตั้งเป้าหมายผ่านการสำรวจตัวเองจาก 3 สิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญไปสู่การประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ประกอบด้วย สิ่งที่รัก สิ่งที่ทำได้ดี และสิ่งที่สร้างรายได้ ผ่านการตอบแบบสอบถาม เช่น ชอบทำงานแบบไหน สิ่งที่อยากทำ ทักษะที่มีอยู่ในตัว นอกจากนี้จะได้เริ่มวางแผนธุรกิจเบื้องต้นจากการวางปฏิทินการทำงานในระยะเวลา 1 ปี เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอน รวมถึงการวางแผนภาพความสัมพันธ์ เพื่อตรวจสอบความพร้อมด้านแรงงานคนในธุรกิจที่กำลังจะเริ่มต้นของคุณ
2.การวางแผนในรายละเอียด (Planning the Details) – ส่วนที่สอง เป็นส่วนที่ผู้ใช้จะได้เริ่มทดลองพัฒนาสินค้าและบริการ โดยจะได้พบกับวีดีโอตัวอย่างวิธีการพัฒนาสินค้าจากศิลปินต้นแบบ จากนั้นจะเข้าสู่บทเรียนองค์ประกอบในการพัฒนาสินค้าและบริการ แรงบันดาลใจในการทำผลงาน และแนวทางเพื่อการพัฒนาธุรกิจ โดยการเรียนรู้ในหัวข้อดังกล่าว อยู่ในรูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจง่ายผ่านสรุปเป็นบทเรียน วีดีโอ และโควทแรงบันดาลใจจากศิลปินชื่อดัง ตลอดจนเกม แบบทดสอบเพื่อมองภาพธุรกิจของเราได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
3.การขายและการตลาด (Selling & Marketing) ในหัวข้อที่สามมีเนื้อหาหลักเป็นแบบทดสอบที่เน้นการสำรวจธุรกิจของตัวเองเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายจากตัวผลิตภัณฑ์ ตลอดจนการมองหาจุดขาย เพื่อทำการขายและการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยในเนื้อหาส่วนนี้ ผู้ใช้จะได้ทำความเข้าใจลูกค้า การเล่าเรื่อง ไปจนถึงวิธีขายสินค้า ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการสร้างธุรกิจ
4.การจัดการการเงิน (Managing Money) ในคู่มือส่วนสุดท้ายผู้ใช้จะได้เรียนรู้เรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งในการทำธุรกิจคือ การคิดต้นทุนราคา และการจัดการกระแสเงินสด ผ่านบทเรียนการทำความเข้าใจต้นทุนเปรียบเทียบกับราคา เพื่อการกำหนดราคาที่เหมาะสมและทำกำไรให้กับธุรกิจ ตลอดจนได้ทดลองทำแบบทดสอบวางแผนค่าใช้จ่าย เพื่อมองภาพรวมของเงินที่ไหลเข้าออกในธุรกิจ
เมื่อทำแบบทดสอบในบทเรียนทั้ง 4 ขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว ในส่วนท้ายสุดของหน้าบันทึกความก้าวหน้า ผู้ใช้จะได้พบกับบทสรุปของแผนธุรกิจ และสิ่งที่ต้องทำ จากแบบทดสอบที่ได้ลงมือทำด้วยตัวเองในเว็บไซต์ ซึ่งบทสรุปดังกล่าวจะเป็นเสมือนเข็มทิศที่ไปใช้กำหนดทิศทาง เพื่อพัฒนาต่อยอดธุรกิจได้อย่างตรงเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการรวบรวมภาพยนตร์สั้นแรงบันดาลใจจากศิลปินที่สอดแทรกอยู่ในแต่ละบทเรียน ซึ่งผู้พัฒนาธุรกิจหัตถกรรมอาจนำไปปรับใช้กับธุรกิจตัวเองได้ โดยศิลปินชื่อดังที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ และแรงบันดาลใจผ่านภาพยนตร์สั้น อาทิ Pin Metal Art ภูคราม PATAPiAN Jetsada เป็นต้น รวมถึงส่วนของข้อมูลเพิ่มเติมที่ผู้ใช้สามารถเข้าไปสืบหาข้อมูลเพื่อนำมาปรับใช้กับการบริหารธุรกิจหัตถกรรมของตัวเองได้
มร.แอนดรูว์ กลาส ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย กล่าวว่า บริติช เคานซิล ในฐานะองค์กรที่ทำงานด้านการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา ศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งสหราชอาณาจักร ได้ร่วมกับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรด้านหัตถกรรมของสกอตแลนด์ (Applied Arts Scotland) เปิดตัว “คู่มือธุรกิจหัตถกรรม” (Digital Craft Toolkit) เพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้ด้านการทำธุรกิจหัตถกรรมผ่านการใช้งานคู่มือออนไลน์ เปิดโอกาสให้ช่างฝีมือ นักออกแบบ ผู้ประกอบการ และผู้สนใจสามารถใช้งานแพลตฟอร์มนี้ได้ โดย Digital Craft Toolkit มีเมนูการใช้งานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ครอบคลุมการวางแผนธุรกิจตั้งแต่ การตั้งเป้าหมายทางธุรกิจ การวางแผนธุรกิจในภาพรวม การสร้างแนวคิดเพื่อการออกแบบ การพัฒนาสินค้า การพัฒนาธุรกิจ การขายและการตลาด และการบริหารจัดการการเงิน ตลอดจนมีตัวอย่างแรงบันดาลใจการสร้างธุรกิจจากผลงานศิลปะสร้างสรรค์ของนักออกแบบและช่างฝีมือจากสกอตแลนด์และประเทศไทยอีก 20 คน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้ศิลปิน นักออกแบบที่มีผลงานศิลปะสุดสร้างสรรค์ สามารถใช้คู่มือออนไลน์นี้เพื่อต่อยอดเป็นงานธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินจำนวนมากได้
สำหรับคู่มือธุรกิจหัตถกรรม (Digital Craft Toolkit) เปิดให้ช่างฝีมือ นักออกแบบ ผู้ประกอบการ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตลอดจนผู้ที่สนใจได้เข้าไปเล่นเพื่อต่อยอดไอเดียงานคราฟท์ สู่ธุรกิจทำเงิน ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่เว็บไซต์ www.crafttoolkit.com