เหมือนว่าปีนี้จะผ่านไปไวมากด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 ทำให้หลายธุรกิจซบเซาหรือบางกิจการอาจจะต้องปิดตัวไป วันนี้ ชี้ช่องรวย จะมาย้อนรอยให้ดูกันว่าตลอดปี 2563 ที่ผ่านมามีธุรกิจอะไรที่เป็นขาลงหรือเรียกได้ว่าเป็น ดาวร่วง มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีธุรกิจอะไรกันบ้าง
1.ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ
ในอดีตการจะอ่าน หรือหาข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ต้องเดินเข้าร้านเพื่อซื้อหนังสือ หรือเข้าร้านเช่า แต่.. ปัจจุบันการเสพสื่อออนไลน์ การรับข้อมูลข่าวสาร ทำได้แค่ปลายนิ้ว ทุกที่ ทุกเวลา เพียงแค่มีสมาร์ทโฟนกับอินเทอร์เน็ต และที่สำคัญ ไม่เสียค่าบริการในการอ่าน การเข้าถึงง่ายทำให้ผู้คนคุ้นชินกับพฤติกรรมเหล่านี้ จึงไม่จำเป็นต้องเข้าร้านหนังสือหรือร้านเช่าอีก ความนิยมในการใช้บริการร้านเหล่านี้ จึงค่อยๆ ลดลง
2.ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่องโทรสาร
แน่นอนว่าโทรศัพท์สำนักงานอาจจะไม่ค่อยเป็นสิ่งจำเป็นอีกต่อไป เพราะส่วนใหญ่ได้มีการเปลี่ยนมาเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือโทรศัพท์มือถือกันหมดแล้ว และเครื่องโทรสารดูจะไม่เป็นสิ่งจำเป็นอีกต่อไปเพราะการส่งข้อมูลเอกสารต่างๆ ได้เปลี่ยนมาในรูปแบบของออนไลน์ ทำให้ผู้ผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่องโทรสารมียอดการผลิตและจำหน่ายลดลงอย่างมาก
3.ธุรกิจร้านให้บริการอินเทอร์เน็ต
เข้าสู่ยุคดิจิทัลที่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าถึงทุกพื้นที่ ทำให้ธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ตไม่ค่อยมีคนเข้าใช้บริการเหมือนสมัยก่อน รวมทั้งเรื่องของการลงทุนทำร้านอินเทอร์เน็ตที่ใช้ต้นทุนสูง ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ก็ต้องเป็นรุ่นที่ใหม่อยู่เสมอถึงจะมีคนมาใช้บริการ ดังนั้นรายได้ 10 บาท/ชั่วโมง จึงไม่คุมกับเงินที่ลงทุนไป ทั้งค่าเช่าร้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ แน่นอน
4.ธุรกิจสิ่งพิมพ์
ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสารและวารสารต่างๆ ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการพัฒนาที่รวดเร็วในยุคดิจิทัล ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน อีกทั้งความรวดเร็วของข่าวสารไวกว่ามากในโลกออนไลน์ ทำให้สิ่งพิมพ์ดูจะเป็นอะไรที่ล้าหลัง ส่งผลให้นักลงทุนมุ่งเน้นที่จะใช้สื่อออนไลน์ในด้านการตลาดมากกว่าจะใช้สิ่งพิมพ์ และยิ่งนับวันความต้องการในด้านนี้น้อยลงทุนทีทำให้ธุรกิจสิ่งพิมพ์ปิดตัวลงจำนวนมาก
5.ธุรกิจหัตถกรรม และเฟอร์นิเจอร์ไม้
ธุรกิจด้านหัตถกรรม คือ ผลิตภัณฑ์งานฝีมือโดยส่วนใหญ่เป็นผลผลิตพื้นบ้านที่หรือเป็นที่รู้จักในชื่อ OTOP แต่ทำไมธุรกิจประเภทนี้ถึงอยู่ในช่วงขาลงเพราะบางรายไม่ได้รับการพัฒนายกระดับสินค้าให้มีมาตรฐานกลุ่มนี้อาจจะเป็นกลุ่มที่ไปไม่รอด ในส่วนของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ภาพรวมการผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ในประเทศคาดการณ์ยังคงมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องด้วยสถานการณ์ปัจจุบันปัญหาค่าครองชีพ และหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นทำให้ผุ้คนไม่จับจ่ายใช้สอยในส่วนนี้
6.ธุรกิจร้านค้าแบบดั่งเดิม (โชห่วย)
ปัจจุบันร้านขายของชำมีจำนวนลดลง ผู้คนหันมองหาร้านสะดวกซื้อมากกว่า ด้วยปัจจัยที่ครอบคุมทั้งการให้บริการที่สะดวกสบาย สินค้าที่หลากหลายรวมถึงการให้บริการในรูปแบบใหม่ที่มีออกมาตอบสนองผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้ร้านค้าขายของชำต้องมีการปรับตัวหรือปิดตัวไปในที่สุด
7.ธุรกิจคนกลาง
ปัจจุบันพ่อค้าคนกลางดูจะเป็นบุคคลที่ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะในยุคนี้ทุกคนสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยง่าย ผ่านช่องทางออนไลน์หรือ E-Commerce ทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องถูกตัดแบ่งรายได้ให้กับคนกลาง แต่สามารถรับผลประโยชน์ได้โดยตรง ทำให้อาชีพนี้ดูเหมือนจะซบเซาลงจากที่เคยเป็นมา
8.ธุรกิจเครื่องเล่นและแผ่น DVD CD
ธุรกิจเครื่องเล่นและแผ่น DVD CD ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ผู้บริโภคไม่นิยมกันแล้วที่จะซื้อหนัง เพลง ที่เป็นรูปแบบ CD DVD ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกในช่วงตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะความสะดวกสบายในการรับชมได้ผ่านอินเทอร์เน็ตเช่นกัน
9.ธุรกิจร้านถ่ายรูป
ปัจจุบันเทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องง่ายแค่ปลายนิ้ว เช่นเดียวกันกับการถ่ายรูปในยุคนี้ไม่ว่าใครก็สามารถ่ายรูปเองได้ โดยเฉพาะรูปติดบัตรที่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายได้อย่างง่ายดายไม่จำเป็นต้องเข้าร้านถ่ายรูปอีกต่อไป แถมเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ก็สามารถปริ้นภาพออกมาได้คุณภาพดีเยียม ทำให้ธุรกิจร้านถ่ายภาพเหลือน้อยลงมีเปิดตัวเฉพาะกลุ่มเท่านั้น